บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 ทำความสะอาดบ้าน

แก่นคูณเดินออกจากห้องนอนด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อย วันนี้เขาได้พูดทุกอย่างที่เขาอยากพูดออกไปทั้งหมดแล้ว แต่เหตุใดเขาถึงไม่รู้สึกโล่งเลยสักนิด ละอองเองก็ดูแปลกไปอย่างน่าประหลาด ปกติถ้าทั้งสองมีปากเสียงกัน เขาผู้เป็นสามีไม่เคยได้อ้าปาก เพราะละอองจะถลึงตาเถียงฉอด ๆ จนคอเป็นเอ็น ไม่มีทางที่เขาจะได้พูดเกินสามคำ และทุกครั้งเธอต้องทำลายข้าวของในบ้านจนพังย่อยยับไปข้างหนึ่ง แต่ครั้งนี้ละอองกลับรับฟังอย่างสงบ ไม่มีตอนไหนที่เธอขึ้นเสียงกับเขาเลย

คนนี้ใช่ละอองจริง ๆ หรือ

แก่นคูณเดินไปไกลแล้ว แต่ก็ยังหยุดคิดเรื่องพฤติกรรมอันสงบเสงี่ยมของภรรยาไม่ได้

           หลังจากสามีขึ้นเขาไปแล้ว ละอองมองสำรวจไปทั่วห้อง ข้าวของวางระเกะระกะตามประสาคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานทุกอย่างเพื่อครอบครัว คงไม่มีเวลาเก็บกวาดห้องเท่าไรนัก

           ละอองส่ายศีรษะน้อย ๆ เอาเถอะ! ขอนอนพักเอาแรงสักงีบก่อน แล้วค่อยตื่นขึ้นมาทำงาน เพราะตอนนี้รู้สึกปวดหัวเหลือเกิน ใครจะคาดคิดว่าจะได้เกิดใหม่เร็วปานนี้ มิหนำซ้ำยังต้องมารับกรรมที่ตนไม่ได้ก่อ แต่คิดในแง่ดีเข้าไว้ อย่างไรร่างนี้ก็ไม่เจ็บป่วยเหมือนในชาติก่อน เธอยังกินข้าวอร่อย นอนหลับสบาย ที่เขาว่าไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐเห็นจะเป็นเรื่องจริง

           ละอองตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เกือบบ่ายโมงแล้ว เธอรีบเดินออกไปด้านนอกมองหาแม่สามีกับลูก พวกเขากำลังนั่งเล่นขายของอยู่ใต้ต้นฝรั่ง โดยมีแม่สามีนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง

           ละอองจึงตะโกนถาม “แม่กินข้าวเที่ยงหรือยังคะ”

           “กินแล้ว” น้อยตอบเสียงห้วน และไม่พูดต่ออีก

           ละอองจึงหมุนกายเดินเข้าครัว ลาบกระต่ายป่ากับผักยังเหลืออยู่ เธอจึงกินสิ่งนั้นเป็นมื้อกลางวัน กินเสร็จแล้วจึงเดินสำรวจในลานครัว ข้าวสารเหลือไม่มากแล้ว ไม่มีไข่ ไม่มีเนื้อหมู ไม่มีบะหมี่อย่างที่แม่สามีบอก ตั้งแต่เธอหนีไปพวกเขาคงประหยัดกับของพวกนี้ไปมาก บนผนังห้องครัวฝั่งหนึ่งยังมีปลาแห้งแขวนอยู่พวกเขาร้อยมันด้วยตอกไม้ไผ่ มีปลาขาว ปลาตะเพียน ปลาดุก และปลาช่อน

           ในส่วนของหม้อ และเครื่องใช้อย่างอื่นยังวางไม่เป็นระเบียบ วันนี้เธอคงต้องเริ่มทำความสะอาดจากห้องนอนก่อน

           ละอองเดินออกมานอกชานบ้าน สายตาทอดมองออกไปจนสุดสายตา ป่าไม้ในฤดูฝนสีเขียวขจีเต็มไปหมด เมื่อคืนฝนคงตกลงมาหนักอยู่เหมือนกันแต่เธอคงไม่รู้สึกตัว เพราะมองดูพื้นดินชุ่มฉ่ำไปทั่ว ถ้าตื่นเช้าหน่อยคงได้เห็นทะเลหมอกบนภูเขาเป็นแน่

           หมู่บ้านที่เธออยู่นี้คือหมู่บ้านผักหนาม ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ผู้คนอาศัยปลูกบ้านอยู่บนเนินเขา สูงต่ำต่างกัน บนเนินเขายังมีต้นไม้หลากหลายชนิดแต่ป่าไม่หนาทึบ เพราะชาวบ้านแผ้วถางทำการเกษตรกันหมด ผู้คนส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกร ปลูกพืชแบบขั้นบันได ถ้าใครไม่มีพื้นที่ทำกินก็ขึ้นเขาหาของป่าไปขายในตัวเมือง หมู่บ้านนี้ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ยังใช้เกวียนเทียมวัวเป็นพาหนะ

           ในความทรงจำเดิมบอกว่าปีนี้คือปีพุทธศักราชสองพันห้าร้อยสามสิบสาม แต่กลับบอกไม่ได้ว่าที่นี่คือส่วนไหนของประเทศไทย แต่วิถีชีวิตความเป็นอยู่กลับคล้ายคลึงกับทางภาคอีสานของไทย หรือเธอจะทะลุมิติเข้ามาในพื้นที่ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์

           แต่ก็ช่างเถอะ! ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีในประวัติศาสตร์ก็ไม่ต่างกัน คิดได้เช่นนั้นละอองจึงเดินเข้าห้องนอนเพื่อทำความสะอาด

           น้อยได้ยินเสียงดังกุกกักบนบ้านแต่ไม่ได้สนใจ เธอทำราวกับว่าลูกสะใภ้ไม่มีตัวตน ลูกสะใภ้อยากทำอะไรก็ปล่อยให้ทำไป

           ละอองทำความสะอาดห้องนอนอยู่เกือบชั่วโมง จึงเดินออกมาทำห้องครัวและลานด้านหน้า ระหว่างนั้นจึงมีคนมาถามหา

           “อองอยู่บ้านไหมป้าน้อย” เสียงนั้นคือเสียงของเพ็งศรี ขาไพ่ของละออง

           “อยู่ มันทำอะไรอยู่บนบ้านก็ไม่รู้” น้อยตอบแบบส่ง ๆ ไม่คิดจะตามให้

           “ออง” เพ็งศรีจึงตะโกนเรียกเอง

           ละอองโผล่หน้าออกมาตรงชานบ้าน “มีอะไร”

           “ไปเล่นไพ่ด้วยกันไหม ยายยงกับยายดารออยู่” เมื่อวานเพ็งศรีได้ยินคนพูดว่าเห็นละอองนั่งเกวียนเข้ามาในหมู่บ้าน เธอจึงมาดูที่บ้าน

           “ไม่ละ วันนี้ฉันปวดหัว เมื่อวานตกบันไดจนหัวแตก คงไปเล่นไม่ไหว” ความจริงเธอไม่อยากไปสักนิด อีกทั้งละอองคนนี้ยังเล่นไพ่ไม่เป็น ถึงความทรงจำเดิมจะมีอยู่ แต่ถ้าให้เธอไปลงสนามเองก็คงสู้พวกเขาไม่ได้

           “อะไรกัน แค่ปวดหัวเท่านั้น ปกตินอนเล่นไพ่เอ็งก็เคยมาแล้ว” บางครั้งเป็นไข้ละอองยังหอบสังขารไปนอนเล่นไพ่ที่บ้านเพื่อนรุ่นพี่อย่างเพ็งศรีเลย

           “ต่อไปฉันคงไม่เล่นอีกแล้วล่ะ”

           “ทำไม”

           “ไม่มีเงิน”

           “ก็ขอผัวสิ ปกติมันให้เอ็งตลอดไม่ใช่เหรอ”

           “ตอนนี้ไม่ให้แล้ว พี่เพ็งกลับไปเถอะ ฉันจะนอนพัก” ละอองรีบตัดบท

           “เออ ๆ ไม่ไปก็ไม่ไป ฉันกลับละ”

           “จ้ะ”

           ให้หลังเพ็งศรีละอองจึงทำงานบ้านต่อ เกือบบ่ายสามจึงหอบเสื้อผ้าทุกคนลงไปซักในลำธาร ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเพียงสามร้อยเมตร

           น้อยมองตามหลังลูกสะใภ้ด้วยความใคร่รู้ เหตุใดวันนี้ละอองจึงขยันเป็นพิเศษ ทั้งที่ตนเองไม่สบาย ปกติต้องนอนขลุกอยู่ในห้องอย่างเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังกล้าปฏิเสธเพ็งศรีที่มาชวนไปเล่นไพ่ แต่พอคิดอีกทีน้อยจึงเบะปากแค่นยิ้มออกมา สงสัยแกล้งทำดีตบตาผัวกับแม่ผัวกระมัง บอกเลยว่า… ยาก เธอไม่หลงกลลูกสะใภ้อีกต่อไปแล้ว
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel