ตอนที่ 5 ขอหย่า
แก่นคูณรับเงินมาแล้วจึงตัดสินใจพูดคำที่คิดว่าไตร่ตรองมาดีแล้วออกไป “วันจันทร์เราจะไปหย่ากัน” วันนี้วันศุกร์ อีกทั้งละอองยังบาดเจ็บ ให้เธอได้พักผ่อนสองวันจากนั้นค่อยไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อย
ละอองทำปากเอ่ออ่าจะพูดอยู่หลายคราเพราะไม่รู้จะพูดคำใดออกไป ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากสามี สามีแค่วันเดียวอีกต่างหาก ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดคำนี้เลยนี่นา แล้วทำไมความซวยถึงได้มาตกอยู่ที่เธอเล่า
“ฉัน…” คิดจะพูดต่อแต่เขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ฉันทนเธอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอเห็นฉันเป็นตัวอะไร อยากมาก็มา อยากไปตอนไหนก็ไป เธอไม่สงสารลูกบ้างเหรอ” แก่นคูณยังพูดเสียงราบเรียบและควบคุมโทนเสียงให้สงบเพราะเกรงว่าลูกกับแม่จะได้ยิน “อีกอย่างเธอเคยเห็นหัวแม่ฉันบ้างไหม เธอเห็นแม่เป็นอะไร ไปไม่เคยลามาไม่เคยไหว้ ฉันเป็นลูกแท้ ๆ ฉันยังไม่กล้าทำเหมือนเธอเลย” ไม่เห็นหัวเขาเขาไม่ว่า แต่นี่ทุกครั้งที่ลูกสะใภ้หนีไปและกลับมาบ้าน แม่ของเขาไม่เคยบ่นเคยว่าลูกสะใภ้สักคำ มีครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่สี่แล้วที่เธอทำเช่นนี้ และเป็นครั้งที่เธอจากไปนานที่สุด แม่ของเขาก็เลยทนไม่ได้จึงได้ว่ากล่าวลูกสะใภ้ออกไป
ทุกครั้งที่ละอองหนีไป เขากับแม่ต้องคอยโกหกลูกทั้งสองว่าแม่ไปทำงานเพื่อส่งเงินมาให้ลูกซื้อขนม ลูกทั้งสองก็เชื่อและรอแม่กลับมาเสมอ แต่ไม่มีแม้สักเดือนที่ละอองจะส่งเงินมาให้ลูก แถมยังกลับมาตายรังทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมใจอ่อนเป็นอันขาด เธออยากไปไหนก็ตามสบายเลย
แก่นคูณสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกล่าวต่อ “หลังจากหย่าเธออยากไปไหนก็ไป ส่วนลูกฉันกับแม่จะดูแลเอง” ที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะละอองไป ๆ มา ๆ จนลูกติดพ่อกับย่ามากกว่าแม่แท้ ๆ ของพวกเขาเสียอีก
ละอองรู้ดีว่าเจ้าของร่างเดิมทำความผิดไว้มากจนไม่น่าให้อภัย ขนาดเมื่อวานยังแอบขโมยเงินสามีไปเล่นไพ่ หากเขาไม่กลับมาเจอเสียก่อน เงินที่เขามีอยู่ทั้งหมดเพื่อดูแลครอบครัวก็คงไม่เหลือ
“ทำไมต้องหย่ากันด้วย” ละอองถามเสียงอ่อย แต่เรื่องลูกเธอก็ยอมรับว่าส่วนใหญ่เป็นแม่สามีกับสามีเลี้ยงมาจริง ๆ
“เพราะเธอเกลียดความจนไม่ใช่เหรอ เธอเกลียดความลำบาก เกลียดบ้านนอก ถึงเธออยู่ต่อไปเธอก็อยู่ไม่ได้หรอก สู้หย่ากันแล้วต่างคนต่างไปไม่ดีกว่าเหรอ”
ใช่ ก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่ทะเลาะกันละอองย่อมพูดกับเขาเช่นนั้น เอาเถอะ! ผู้ชายคนนี้คงเจ็บมามากจริง ๆ เธอเป็นฝ่ายยอมจำนนเองก็ได้ “ได้ ฉันจะหย่ากับพี่” แก่นคูณจ้องหน้าภรรยาราวกับไม่อยากเชื่อ ทำไมมันง่ายอย่างนี้นะ ละอองพูดต่อว่า “แต่หลังจากหย่ากับพี่แล้วฉันขออยู่ที่นี่ก่อนได้ไหม ฉัน…” เธออ้ำอึ้งเล็กน้อย “ฉันยังไม่มีที่ไป” จะให้เธอไปอยู่ที่ไหน ในเมื่อละอองคนก่อนกลับมาเพื่อขอคืนดีกับสามี เพราะเธอไม่มีที่ไปแล้ว หรือไปแล้วก็ไปไม่รอด ทั้งเนื้อทั้งตัวตอนนี้มีเงินเพียงร้อยเดียวเท่านั้น
แก่นคูณมองดวงตาเศร้าสร้อยของภรรยาแล้วเบือนหน้าหนี ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีก หลายอึดใจต่อมาจึงพูดออก “ได้ แต่เมื่อไรที่ฉันมีเมียใหม่ เธอต้องรีบเก็บข้าวของออกไปทันที” พูดออกไปทั้งที่ไม่เคยคิดจะมีใครอีกแล้ว แต่ในเมื่ออยากให้เธอออกไปจากชีวิตโดยเร็วก็ต้องพูดออกไปแบบนั้น
ละอองตกใจอยู่บ้างจึงรีบถาม “ใกล้หรือยัง” แย่แล้ว! แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหนในเวลากระชั้นชิดเช่นนี้ มองไปทางไหนก็ไม่สนิทกับใครเลย คนที่สนิทเจ้าของร่างนี้ก็มีแต่พวกเล่นไพ่ด้วยกันทั้งนั้น สำคัญกว่านั้นคือเธอไม่มีเงิน ที่หนีจากเขาไปเธอก็ไปหาเงินจริง ๆ แต่เพราะติดการพนันและใช้เงินเกินตัว เธอจึงไม่เหลือเก็บ
“ไม่รู้ บอกไม่ได้ อาจจะภายในปีนี้” เขากล่าวออกเสียงอ้อมแอ้ม
ละอองจึงข่มใจพูดออกไป “ได้ ฉันจะรีบหาที่อยู่ใหม่ให้เร็วที่สุด พี่จะได้อยู่กับเมียใหม่อย่างสบายใจ” คำที่พูดออกน้ำเสียงไม่เจือความประชดประชันเลยสักนิด ละอองคิดต่อ เดือนนี้ก็เดือนพฤษภาคมแล้ว แต่ก็คงน่าจะพอมีเวลาได้ตั้งตัวบ้าง “พี่มีคนในใจแล้วเหรอ”
แก่นคูณมองเข้าไปดวงตาที่ทอประกายวาววามฉ่ำน้ำคู่นั้น คล้ายกับคนตรงหน้ากำลังมีน้ำตาเอ่อคลอ “ทำไม หึงเหรอ?” เขาถามออกไปคล้ายกับสะใจเล็กน้อย หารู้ไม่ว่าน้ำตาที่รื้นขึ้นมานั้นหาใช่ความหึงหวงไม่
“เปล่า ฉันจะได้เตรียมตัวได้ทัน” ที่น้ำตาเธอคลอเบ้าเพราะเธอยังหาที่ไปไม่ได้ต่างหาก ชาติที่แล้วต้องระหกระเหินสู้ชีวิตเพียงลำพัง ชาตินี้ต้องเป็นเช่นนั้นอีกแล้วหรือ นี่หรือคือชีวิตใหม่ที่นางฟ้าบอก ไม่เห็นมันจะต่างกันสักนิด
แก่นคุณสะอึกกับคำตอบนั้นเล็กน้อย หรือว่าละอองจะมีคนอื่นแล้ว “แล้วเธอไปอยู่ที่อื่นตั้งนาน ไม่มีผัวใหม่เลยหรือไง”
“ฉัน…”
เขาไม่เปิดโอกาสให้ละอองได้แก้ตัวพูดแทรกขึ้นว่า “ช่างเถอะ มันเรื่องของเธอ ฉันไม่อยากรู้หรอก ถ้าจะอยู่ที่นี่ต่อก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่ ห้ามก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของกันและกัน” เขาเว้นวรรคครู่หนึ่ง “เข้าใจไหม”
“เข้าใจ แล้วพี่จะให้ฉันนอนไหน”
“ก็นอนในห้องนี้แหละ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก” แค่คิดก็ขยะแขยงแล้ว ละอองหนีไปสี่ครั้ง เขาจะเชื่อใจได้อย่างไรว่าเธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่นเลย ก่อนเดินออกไปจากห้องยังหันมาสั่งอีกว่า “อยู่บ้านก็รู้จักทำงานเสียบ้าง แม่ไม่ค่อยสบาย เดินมากไม่ได้”
“พี่จะไปไหน”
“ขึ้นเขาสิหาของป่าสิ ฉันไม่ใช่คนว่างงานอย่างเธอนี่”
จริงด้วย ครอบครัวนี้ไม่มีที่นา มีเพียงพื้นที่ปลูกบ้านเพียงหนึ่งงานเท่านั้น อาชีพหลักของสามีก็คือหาของป่าไปขาย เขาจึงต้องเข้าป่าทุกวัน