บท
ตั้งค่า

8 ซื้อให้ภรรยา หรือว่า...อยากได้เอง?

“หูยยยย นี่มันแบรนด์ลูฟว์ รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นนี่...คุณพระคุณเจ้า เพื่อนสาวของฉันสะพายมาให้เห็นเป็นขวัญตาแท้ๆ เลยเพื่อนรัก!

ฉันขอจับได้ไหม แตะนิดเดียวก็ได้” กฤษณาว่าด้วยแววตาวาวใหญ่ คู่กับนันดาที่ทำหน้าเหมือนเป็นลมไปแล้วเรียบร้อย

“ได้สิ..มันขนาดนั้นเลยเหรอ?” รุ่งนภาว่าอย่างเก้กัง งงๆ ตั้งแต่เดินมาร่วมโต๊ะกับกลุ่มเพื่อนประจำวันพุธ

ที่มักจะนัดเจอกันสัปดาห์ละสองครั้ง คือพุธช่วงเย็นและเสาร์ช่วงสาย

เอาจริงๆ เธอไม่มีความรู้เกี่ยวกับกระเป๋าแบรนด์เนมเลย แถมยังรู้สึกไม่ชิน ไม่อยากจะสะพายด้วยซ้ำ

แต่ถูกจักรพันธ์บังคับให้สะพายมาด้วยตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้เธอเข้าไปบริษัทพร้อมกันกับเขา เพื่อนั่งดูแคทตาล็อกเสื้อผ้าที่ร้านส่งมาให้ดูด้วยกัน

เขามีประชุมยาวทั้งวัน แต่พอเบรกปุ๊บ ก็มาหาเธอที่ห้องพักส่วนตัวทันที

“ไม่ได้!” มะลิรีบตีมือสองคู่หู ที่กำลังจะมาจับกระเป๋าราคาแพงหูฉี่ ที่เธอเองก็พอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับมันอยู่บ้าง

“เอ๊ะ! จะไม่ได้ได้ยังไง ก็เพื่อนรุ้งอนุญาตพวกฉันแล้ว แกนั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์มาจับ!” นันดารีบว่าเชิงโวยวาย พร้อมจะเอาเรื่องมะลิอย่างเต็มที่

“ให้มันมีมารยาทหน่อย ของแพงขนาดนี้ มาขอจับมั่วซั่วได้ยังไง แกเอาคืนไปเลยรุ้ง รักษาให้มันดีสมกับที่สามีเขาเลือกให้หน่อย”

มะลิได้รับการโทรเล่าให้ฟังจากวันที่รุ่งนภากลับจากการซื้อกระเป๋าแล้ว และรู้สึกฟินมากที่เพื่อนรักได้รับการเอาใจใส่อย่างดีจากจักรพันธ์

“เดี๋ยวนะ สามีเลือกให้?” กฤษณาว่าเชิงประหลาดใจ หันไปมองหน้านันดาเชิงปรึกษา

“หมายความว่ายังไง คือนอกจากคุณเจมส์เขาจะออกเงินซื้อกระเป๋าให้แกแล้ว ยังเป็นคนเลือกให้ด้วยตัวเองเลยเหรอ?”

นันดาว่าเชิงตาวาวขึ้น รอยยิ้มปลื้มใจฉายชัด เพราะเธอก็ใฝ่ฝันว่าแฟนของเธอจะพาเธอไปช็อปปิ้งหรือเลือกซื้อของด้วยกันสักครั้ง

ไม่ต้องออกเงินให้ก็ได้ แค่ออกความคิดเห็นสักหน่อยก็ยังดี!

“ใช่ นอกจากคุณเจมส์เขาจะจ่ายเงินสี่แสนกว่าบาทเพื่อซื้อให้ภรรยาของเขาแล้ว เขายังเป็นคนเลือกกับมือของตัวเองด้วย

แค่คิดก็อิจฉาแล้ว...แกนี่โชคดีจริงๆ เลยนะรุ้ง ที่มีสามีดูแลและใส่ใจแกดีขนาดนี้” เมื่อได้โอกาสมะลิก็กระทำการอวดสามีแทนเพื่อนรัก

ผู้ที่ไม่มีวันพ่นคำพวกนี้ออกจากปากตัวเองแน่ๆ

ในขณะเดียวกันนั้น วรดาและจินตนาผู้มาถึงทีหลัง กำลังเดินเข้ามายังกลุ่มเพื่อนพอดี

“สี่แสนกว่าบาทเหรอ...รุ่นนี้ที่แกดูไว้ตั้งห้าแสนกว่านี่ ไม่ใช่เหรอจิน?” วรดาพูดขึ้นมาอย่างลืมที่จะเก็บคาแรคเตอร์พูดน้อยของตัวเอง

เพราะแอบส่องกระเป๋ารุ่นใหม่ของแบรนด์ลูฟว์มาสักพักใหญ่ แม้รู้ว่าจะไม่มีปัญญาครอบครองก็ตาม

เธอรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อเห็นของจริงมาอยู่ใกล้ตรงหน้าแค่นี้เอง...

“อ้าว จินก็เล็งรุ่นนี้เอาไว้เหมือนกันเหรอ ตายจริง...แกเล็งสีอะไรไว้เหรอ สีเดียวกับยัยรุ้งรึเปล่า?” มะลิก็ยังคงเป็นมะลิ มีหรือที่เห็นโอกาสแล้วจะไม่รีบคว้า

โอกาสที่ได้เห็นสีหน้าของจินตนาผู้สูงส่ง เผือดลงเป็นครั้งแรกเลยนะ!

“สีเดียวกันเปี๊ยบเลย รอจองอยู่ด้วยนะ เพราะช็อปใหญ่ๆ เขายังไม่ปล่อย เขารอให้พวกวีไอพีดูก่อน เพราะเข้ามายังไม่ถึงเดือนเลยมั้ง”

วรดาผู้ลืมสิ้นทุกอย่าง รีบตอบแทนด้วยแววตาวาว วิ่งเข้าไปดูกระเป๋าที่ตอนนี้สองคู่หูได้ถือเข้าไปดูใกล้ๆ กันแล้ว

เพราะรุ่งนภาส่งสายตาบอกมะลิว่าให้พวกนั้นจับดูเถอะ

“จริงเหรอ! ตายจริง...ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ เพราะสามีของยัยรุ้งเนี่ย เขาเป็นระดับ วีวีวีวีไอพี ของช็อปลูฟว์อยู่แล้ว”

ยิ่งเห็นสีหน้าไม่พอใจ เหมือนมีไฟลุกออกจากดวงตาของจินตนาเท่าไหร่ นางฟ้าผู้พิทักษ์เพื่อนอย่างมะลิก็ยิ่งขยี้ใหญ่

“เหอะ วีไอพี...หรือชะนีที่เก็บกดกันแน่ อยากจะซื้อไว้ใช้เองมานานแต่ไม่มีโอกาส

ก็เลยซื้อให้เมียบังหน้าเพื่อสนองความต้องการของตัวเองรึเปล่า” จินตนาทำเป็นยิ้มและแค่นเสียง ปลายสายตาว่าอย่างนึกดูถูก

จนทุกคนพากันชะงักไปตามๆ กัน รวมไปถึงรุ่งนภาที่สีหน้าเปลี่ยนชัด...

เธอรู้ว่าตัวเองไม่เคยชอบให้ใครมาว่าเขา แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกไม่พอใจและอยากจะตอบโต้ ลอบขบสันกรามเล็กเข้าหากันแบบไม่รู้ตัว

“เห็นจะจริงอย่างแกว่านะ ผู้ชายแมนๆ ทั่วไป ไม่น่าจะมาสนใจกระเป๋าผู้หญิงหรอก สงสัยจะเก็บกดแน่ๆ”

เมื่อวรดาได้สติก็รีบกลับมาอยู่ข้างจินตนาทันที แม้จะรู้สึกเสียดายที่ตนยังไม่ได้จับกระเป๋าใบนั้นเลยสักแอ เหมือนคนอื่น

“แหม ก็ไม่เสมอไปหรอกมั้ง ผู้ชายที่เขาใส่ใจผู้หญิงจริงๆ เขาก็ซื้อกระเป๋าให้แฟนกันเกลื่อน

เหมือนแฟนแกไง...ฉันเห็นวันเกิดแก พี่หมอก็เป็นคนซื้อกระเป๋าแบรนด์ซีแลน เซอร์ไพร์ทแกด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ”

กฤษณาผู้ได้ลูบคลำและสะพายกระเป๋าของรุ่งนภาอย่างเต็มที่ รีบแก้ต่างให้แบบเนียนๆ ซึ่งถูกใจมะลิเป็นอย่างยิ่ง

“เหอะ จะมาเทียบกับพี่หมอฉันนี่ คนละเรื่องเลยนะ พี่หมอของฉันคบกับฉันมาเจ็ดปี เขารู้ใจว่าฉันชอบหรือไม่ชอบอะไร

เขาเรียนรู้ที่จะทำให้ฉันพอใจ...กว่าเขาจะเลือกกระเป๋าให้ถูกใจฉันได้ ก็เกิดจากการพยายามเรียนรู้ฉันในทุกมิติ

แต่สามีของยัยรุ้งเนี่ย...เพิ่งจะแต่งงานกับมันได้เดือนเดียว แถมไม่ได้รักไม่ได้ชอบกันเลยสักหน่อย

เขาชอบใครมีรสนิยมแบบไหนก็รู้ๆ กันอยู่ ทำไมแกจะต้องพูดอะไรที่ให้ความหวังลมๆ แล้งๆ แบบนั้นกับเพื่อนด้วยล่ะโบว์”

การร่ายยาวของจินตนาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันปนขุ่นเคือง แน่นอนล่ะว่าเธอไม่พอใจอย่างยิ่งที่คนที่ต่ำต้อยที่สุดในกลุ่ม

ได้กระเป๋าที่เธอหมายปองมาสะพายก่อน ทั้งๆ ที่ตลอดมามันดูเป็นไปไม่ได้เลยสักนิด

“หูว...อารมณ์มาเต็มซะด้วย” มะลิว่าขึ้นเสียงเบา แต่แน่นอนว่าได้ยินชัดกันทั้งกลุ่ม

“เอาเถอะๆ จะอะไรก็เอาไว้ก่อนเถอะ รุ้งจ๋าพวกฉันขอสะพายและถ่ายรูปคู่กับกระเป๋าแกไว้เป็นที่ระลึกได้ไหมจ๊ะ มันสวยมาก

สัมผัสคือดีอ่ะ...งื้อ วาสนาฉันคงได้แค่นี้แหละนะ” และแน่นอนว่าเลือกที่จะจุดระเบิดขึ้นแล้ว ก็ต้องเนียนเบี่ยงวิถีระเบิดออกไปด้วย

คนอย่างกฤษณาถนัดเรื่องนี้อยู่แล้ว

“ใช่ๆ ฉันขอด้วยคนนะ ขอบันทึกวาสนาของตัวเองหน่อย” นันดารีบว่าพร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปคู่กัน และเตรียมที่จะโพสต์ลงโซเชียลแน่ๆ

ซึ่งรุ่งนภาก็อนุญาตแบบไม่ได้คิดที่จะหวงเลยสักหน่อย

“กะอีแค่กระเป๋าแค่นี้ ถ้าจะใช้สิทธิวีไอพี พี่หมอเขาใช้ได้อยู่แล้ว แต่ที่เขาไม่ใช้เพราะว่าเขารู้ว่าฉันชอบที่จะได้อะไรมายากๆ บ้าง

เพราะชีวิตฉันมันง่ายดายไปหมดทุกอย่างแล้ว ฉันอยากตื่นเต้นบ้างน่ะ...แต่พอยิ่งมาเห็นคนบางคนสะพายเข้า ฉันก็เห็นเลยว่ากระเป๋าใบนี้มันดูเกรดตกลงยังไงก็ไม่รู้” ความไม่พอใจที่ยังระบายไม่หมดของจินตนา ทำให้เธอตัดสินใจพูดกระทบรุ่งนภาอีกรอบ

ซึ่งแน่นอนว่า แม้รายนั้นจะไม่ได้โต้ตอบ แต่สายตาก็ฉายความไม่พอใจออกมาให้เห็นได้ชัด

คนที่เคยอยู่ใต้เบี้ยล่างเธอมาตลอดน่ะเหรอ ที่จะมาแสดงออกด้วยสายตาแบบนี้ใส่เธอได้
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel