9 อยากฟ้องสามี
“ต้องพูดขนาดนี้เลยเหรอ!”
“อย่าแก...ไม่เป็นไร” มะลิผู้เห็นสีหน้าเพื่อนไม่พอใจ ก็พร้อมที่จะเปิดทันที ถูกรุ่งนภาห้ามปรามเอาไว้ได้ทัน
“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ ฉันเคยพูดมากกว่านี้ก็พูดมาแล้ว แค่ได้ผัวรวยเข้าหน่อย ก็มีศักดิ์ศรีขึ้นมาเลยเหรอ
คงจะลืมไปหมดแล้วมั้ง ว่าที่มีลมหายใจได้มาทุกวันนี้ เพราะใครเป็นคนหยิบยื่นความช่วยเหลือไปให้”
รุ่งนภามองหน้าจินตนาด้วยแววตาปวดร้าว เธอสำนึกในบุญคุณของจินตนามาตลอด ถูกโขลกสับยังไงเธอก็ทนไหว
แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมวันนี้รู้สึกอ่อนไหวมากเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะการถูกเหยียดหยามครั้งนี้ ไม่ได้มีแต่เธอคนเดียวมั้ง
ภาพความตั้งใจและใส่ใจในการเลือกให้เธออย่างจริงใจของจักรพันธ์ซ้อนเข้ามา ทุกคำพูดของจินตนาในตอนนี้กำลังเหยียบย่ำและขยี้ลงไปบนความตั้งใจนั้นของเขา
ซึ่ง...เธอเองก็บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน ว่าทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บปวดได้มากขนาดนี้ เจ็บปวดแทนเขา...เจ็บปวดจนอยากจะปกป้อง!
“พอเถอะแก ฉันขอโทษแทนมะลิมันด้วยนะจิน แกมีสิทธิ์จะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น...ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
แต่ไม่ใช่วันนี้ ชีวิตเบ๊ที่ต้องก้มหัวให้คนอื่นตลอดมาอย่างเธอ ยังไม่สามารถปกป้องใครได้ทั้งนั้นในตอนนี้
บรรยากาศของการพบปะสังสรรค์จึงเต็มไปด้วยความอึมครึมเล็กน้อย แต่กฤษณา นันดาและวรดากลับหาได้สนใจไม่
ต่างคนต่างพากันชื่นชมกระเป๋าใบหรูของรุ่งนภากันใหญ่ ถ่ายรูปคู่ลงโซเชียลกันแบบไม่เกรงใจ โดยที่เจ้าของนั่งหน้าหงอยอยู่แบบเงียบๆ
Roong: ส่งสติกเกอร์แล้ว
เสียงแจ้งเตือนแบบสั่น ดังขึ้นเบาๆ จากกระเป๋าสูทของจักรพันธ์ ผู้กำลังอ่านรายงานยอดขายประจำไตรมาสสุดท้ายของปีอย่างสบายๆ อยู่
สติกเกอร์ที่ถูกส่งมานั้น มีที่มาจากแหล่งที่ทำเอาเขาประหลาดใจอยู่ไม่น้อย...นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาส่งข้อความมาหาก่อน
แถมสติกเกอร์นั้นก็เป็นตุ๊กตาผู้หญิงทำหน้าหงอย เหมือนกำลังหมดแรง...อาจจะติดไปทางเศร้านิดหน่อย
Jakkapan: มีอะไรรึเปล่า?
ฝ่ายนั้นอ่านแล้ว แต่ยังไม่ได้ตอบกลับ จนเขาต้องก้มหน้าอ่านเอกสารต่อ...แต่อ่านได้ไม่กี่คำ
ก็ต้องเหลือบไปมองหน้าจอที่เงียบสนิท ไม่มีวี่แววว่าจะได้รับการตอบกลับมา
Jakkapan: ใครทำอะไร?
ข้อความที่ส่งซ้ำของเขาได้รับการอ่านทันที แสดงว่าเธอยังอยู่ที่หน้าข้อความของเขาไม่ได้หายไปไหน
ส่วนคนที่กำลังจ้องข้อความของเขาอยู่แบบไม่รู้ว่าจะเอายังไง ก็รีบร้อนใจทันที
Roong: เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร
เธอรีบตอบกลับเขาไป แบบรู้สึกโกรธตัวเองไม่หาย ที่ทักไปหาเขาด้วยสติกเกอร์นั้น เธอเองก็บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่
และทำไมถึงทำแบบนั้น เธอรู้แต่เพียงว่า...เธออยากจะ ‘ฟ้อง’ เขา
ใช่ มันคืออยากฟ้อง อยากเล่าให้เขาฟังว่ามีคนทำให้เธอไม่พอใจ ซึ่งเธอไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่ที่มารดาเสียชีวิตไป
เมื่อก่อน ถ้าเธอเจอใครทำอะไรให้เธอเสียใจหรือไม่พอใจ เธอจะฟ้องท่านและระบายทุกอย่างจนสบายใจ แม้จะโต้ตอบอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลยก็ตาม
ใช่...ตอนนี้เธอกำลังเกิดความรู้สึกนั้น ไม่แน่ว่าเพราะอะไรทำไมมันถึงได้เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นได้ยังไง
อย่าบอกนะ...ว่าแกกำลังรู้สึกดีกับเขา จากสิ่งที่เขาทำให้ ?
Jakkapan: ตอนนี้ยังอยู่กับเพื่อนไหม
ไม่ทันที่เธอจะได้หาคำตอบให้กับคำถามของตัวเอง จักรพันธ์ก็ส่งข้อความมาก่อน
Roong: ใช่ค่ะ
Jakkapan: เพื่อนทำให้ไม่สบายใจเหรอ
ดวงตาหมองของรุ่งนภาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าเขาจะเดาทางได้ เพราะเธอไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับเพื่อนกลุ่มนี้ให้เขาฟังมาก่อน
Jakkapan: เปล่าค่ะ จะตอบแค่นี้ก็ไม่ต้องพิมพ์นานขนาดนั้นก็ได้
ไม่ทันที่เธอจะได้พิมพ์คำว่า ‘เปล่าค่ะ’ กลับไป เขาก็เป็นฝ่ายพิมพ์เข้ามาให้ก่อน นั่นแหละเธอถึงยิ้มออกมาได้
Jakkapan: ช่างเพื่อนเขาเถอะ ไม่ต้องไปสนใจ เดี๋ยวเย็นนี้จะพาไปดูหนังรอบดึก ทดแทนให้ดีไหม
ดูสิ...ดูคนอย่างเขาสิ เคยเดือดร้อนอะไรกับใครเขาให้เห็นกันล่ะ
เขาไม่ใช่ผู้ชายสายลุยที่จะจัดการคนที่ทำให้ผู้หญิงของเขาไม่สบายใจ แต่ดูจะเป็นสายชวนไปจัดการความรู้สึกของตัวเองแทนมากกว่า
Roong: ขอเป็นหนังผีนะคะ รุ้งไม่ได้ดูนานแล้ว
Jakkapan: ได้สิ แถมป๊อบคอร์นถังใหญ่ให้ด้วยเลย
เท่านั้นแหละ ความไม่สบายใจทั้งหลายที่เกิดขึ้นก่อนหน้าก็พากันอันตรธานหายไป เธอยิ้มได้...เพราะเขาจริงๆ
ออย วรดา: ส่งรูปแล้ว
ออย วรดา: คุณเจมส์เปย์มันหนักมากค่ะคุณเกรซ
ฝ่ายที่ได้รับข้อความจากลูกไล่ที่จ้างเอาไว้ด้วยเงินก้อนใหญ่ สีหน้าตึงขึ้นเล็กน้อย...แววตาวาวโรธขึ้นอย่างเกินจะควบคุม
“หึ คิดเหรอว่าจะได้เสวยสุขง่ายดายขนาดนั้น”