
บทย่อ
คำโปรย “เธอถูกจับแต่งงานกับผู้ชายที่คนเขาลือกันทั้งบางว่าเป็นเกย์... แต่สัมผัสของเขาในค่ำคืนนั้น...ลบเสียงล่ำลือ ได้จนหมดสิ้น” อารัมภบท รุ้ง รุ่งนภา อิทธิสาร ต้องแต่งงานกับหลานชายเจ้าหนี้ของบิดา ที่ใครๆ ก็พูดกันว่า เขาเป็นชายรักชาย คุณป้าของเขาต้องการให้งานแต่งงานครั้งนี้กลบข่าวนั้น และหวังให้เธอผสมเทียมเพื่อมีทายาทสืบทอดตระกูลต่อไป เพราะเขาเป็นหลานชายเพียงคนเดียวเสียด้วย เธอรู้สึกเห็นใจเขาไม่น้อย ยินดีแต่งงานแบบไม่คิดรังเกียจ ชีวิตหลังแต่งงานของเธอช่างสวยงาม เขาดูแลเธออย่างดีในฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แม้ทางพฤตินัยจะยังไม่ได้สมบูรณ์ เขานอนเตียงเดียวกับเธอทุกวัน แต่ไม่มีทีท่าว่าจะแตะต้อง จนเธอเข้าใจไปว่า...เขาน่าจะเป็นเกย์จริงๆ และต้องการขอบคุณเธอด้วยการให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี แต่ยิ่งได้ใกล้ชิดกับเขา เธอก็เริ่มไม่แน่ใจว่าเขาใช่เกย์จริงรึเปล่า... จนวันที่เธอบอกเขาว่าพร้อมที่จะไปผสมเทียมเพื่อที่จะมีลูกให้กับเขานั่นแหละ เขาถึงได้พูดกับเธอว่า... “ผมบอกตอนไหน ว่าจะพาไปผสมเทียม” อ้าวววว ไม่ผสมเทียมแล้วจะผสมจริงหรือไง! ไปเอาใจช่วยนางเอกกันในเรื่องได้เลยค่า! เรื่องนี้เป็นแนวอบอุ่น โรแมนติก ฟินๆ โรมานซ์ ตลกเฮฮาตามประสาเทพีปรัมปราและที่สำคัญสอดแทรกแง่คิดดีๆ แน่ๆ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะคะ รับรองสนุกและไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
1 สามีร่วมเตียง
ดวงตารีเล็ก ลืมขึ้นมาในความมืดมิด ที่เสียงจากนาฬิกาแขวนเรือนใหญ่ กำลังดำเนินจังหวะไป ในทำนองเท่าๆ กัน
เสียงลมหายใจสม่ำเสมอที่ดังมาจากฟากหนึ่งของเตียง ทำเอาดวงตากลมโตที่ปรับระดับการรับแสงได้แล้วนั้น เหลือบไปมองเรือนร่างใหญ่ที่ยังหลับใหลอยู่
จมูกโด่งคมที่โดดเด่นขึ้นในความมืด...เป็นแหล่งที่มาของลมหายใจนั้น และดึงดูดสายตาเธอให้หยุดมองได้เสมอ
ทุกเมื่อเชื่อคืน ในคราที่ตื่นขึ้นมากลางดึกเช่นนี้
รุ้ง รุ่งนภา อิทธิสาร ชื่นชมทรงจมูกของเขาที่สูงตระหง่านรับกับใบหน้าคมเข้ม สันกรามได้รูป ขับให้ใบหน้าของเขาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร
ยิ่งมีคิ้วเข้มที่ประดับอยู่เหนือดวงตาลุ่มลึกของเขาด้วยแล้ว ยิ่งขับให้แววตาคู่นั้น กลายเป็นหลุมเสน่ห์ ดึงดูดให้ละสายตาจากไปไม่ได้...
นี่ขนาดในความมืดมิด เห็นเพียงแค่เปลือกตาของเขา ที่ประดับเอาไว้ด้วยขนตายาวงอนงาม เธอยังไม่อาจละสายตาไปมองทางอื่น
เดิมทีรุ่งนภามักจะตื่นมากลางดึกแบบนี้อยู่เป็นปกติ ตั้งแต่ที่มารดาเสียชีวิตไป เธอมักจะตื่นขึ้นมาแล้วก็เหงา เหว่ว้า
บางทีก็เผลอร้องไห้...หลับไม่ลงอีกเลยจนรุ่งสาง แต่ตั้งแต่ที่ได้แต่งงานกับเขา มาร่วมหนึ่งเดือนกว่า...
อาการเหว่ว้าก็ค่อยๆ เลือนหายไป กิจวัตรที่ว่าต้องตื่นมาเหงา เศร้า เลยเถิดไปจนถึงร้องไห้
เหลือเพียงแค่มานอนสำรวจใบหน้ายามหลับใหลของสามีตัวเองเท่านั้น
สามีเหรอ?
เธอรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้ง ที่คำคำนี้ผุดขึ้นในหัว...เธอรู้ว่าเขาเป็นแค่สามีในนาม และเธอเองก็เป็นเพียงภรรยาบังหน้า
แต่ใครจะไปเชื่อล่ะ ว่าเธอจะได้มีโอกาสแต่งงานกับคนที่หล่อขนาดเขา
เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนแรกในชีวิตของเธอเลยมั้ง ที่ได้มีโอกาสชิดใกล้ขนาดนี้
‘ก็แหงแหละ ถ้าเขาชอบผู้หญิง ก็คงไม่ต้องมาหาผู้หญิงไปบังหน้าหรอก วาสนาแกนี่ก็ตลกดีนะ เหมือนจะมีวาสนาแต่ก็เหมือนกรรมบัง...
แต่งงานกับผัวที่เป็นเมียคนอื่นอีกที’ คำเตือนของเพื่อนในกลุ่มแว่วมาในทำนองขัน แต่พลันทำให้เธอหุบยิ้มลงได้
เธอไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เพื่อนพูดมา แต่เธอกำลังไม่พอใจที่เพื่อนกำลังดูถูกรสนิยมคนอื่น
เพราะสำหรับเธอแล้ว นอกจากยินดีแต่งงานกับเขาเพื่อใช้หนี้แล้ว ก็ยินดีที่จะทำให้เขาอยู่ในสังคมได้ง่ายขึ้น
เพราะยังมีคนในสังคมอีกมากที่รับเรื่องพวกนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะคนในสังคมของเขา...
แต่ก็ไม่ใช่ว่า เธอไม่เห็นด้วยทั้งหมดหรอกนะ...เธอเห็นด้วยในส่วนที่ว่า
ถ้าเขาชอบผู้หญิง เธอก็คงจะไม่มีวันนี้ วันที่ได้ที่มานอนสำรวจเครื่องหน้าของเขาด้วยความรู้สึกชื่นชมแบบนี้
คนอะไรหล่อไม่มีประมาณ
รอยยิ้มเล็กๆ ของเธอเริ่มผุดขึ้นมา...แววตาเปล่งประกายแวววาวอยู่ในความมืด
จะว่าไป เธอก็รู้สึกชอบนะ ชอบที่เขามีรสนิยมทางเพศแบบนั้น แล้วยอมแต่งงานกับเธอแต่โดยดี
ดูหุ่นเขาสิ...กล้ามแน่นเป็นมัดๆ ไปหมด
สาวเต็มวัยผู้มีความรู้สึก แต่ทำได้เพียงคิดในใจและจินตนาการถึงความหวานของฉากร่วมเตียงในหนังสือนิยาย
โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่า ชีวิตจริงมันจะขนาดไหนกันแน่
‘พวกเกย์ก็แบบนี้แหละ ชอบดูแลตัวเองให้หุ่นล่ำ แกแต่งงานกับเขาแล้ว เป็นไง
เขายอมให้เห็นเนื้อมังสาบ้างไหม เมาท์มาหน่อย’ เพื่อนสาวในกลุ่มที่ชอบพูดถึงสามีของเธอกันเสมอ ถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
‘ไม่นะ...ไม่เคยเห็นเลย’ และเธอก็ทำการปิดตาคนเหล่านั้น โดยไม่ยอมเล่าความจริง ว่าเขาถอดเสื้อให้เธอเห็นบ่อยๆ แบบปกติ
เพราะเธอกลัวพวกเพื่อนที่เห็นเธอเป็นเบี้ยล่างสุดในกลุ่ม บังคับให้เธอบรรยายให้ฟังว่าหุ่นยามเปลือยกายของเขา แซ่บเพียงใด
เธอไม่ยอมให้ใครมารู้มาเห็นเหมือนเธอหรอก!
‘มันจะไปเห็นได้ยังไง...มันไม่ใช่ผู้ชายหุ่นล่ำเหมือนกันกับเขานี่ เขาปั้นหุ่นเอาไว้ให้คนหุ่นเหมือนกันมาผลัดกันจับย่ะ!’
และประโยคที่ว่าเชิงเย้ยก็ดังแว่วเข้ามา จนเธอต้องหุบยิ้มฉับอีกครั้ง
เธอไม่ได้ไม่พอใจที่คนพวกนั้นดับฝันเธอ แต่ไม่พอใจทุกครั้งที่ใครมาว่าเชิงเย้ยเขา
เย้ยผู้ชายที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอย่างไร้เดียงสา เหมือนเด็กชายตัวเล็กๆ ที่ไร้พิษสงกับใคร
ใช่...ตั้งแต่เธออยู่ร่วมกับเขามา เขาไม่เคยมีทีท่าว่าจะตอบโต้คนที่นินทาเขาอย่างสนุกปาก ไม่มีแม้แต่จะพูดลับหลังหรือแสดงทีท่าโกรธเคือง
ต่อให้เรื่องนั้นจะจริงหรือไม่จริง ใครเล่าจะชอบให้ใครมาพูดถึงตนเสียๆ หายๆ เธอยอมรับว่าตัวเองไม่เคยกล้ามีปากเสียงกับใคร
เพราะไม่ได้มีภาษีอะไรไปสู้คนอื่นเขาได้ ต้องก้มหน้ายอมรับชะตาเป็นเบี้ยล่างคนอื่นมาตลอดชีวิต
แต่เขาสิ...เขามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งอำนาจ ชื่อเสียง เงินทอง เขาจะตอบโต้ด้วยการฟ้องหมิ่นประมาทคนพวกนั้นยังได้ แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำ....
“นอนไม่หลับเหรอ” คนคิดอะไรเพลินๆ สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อแววตาลุ่มลึกได้ลืมขึ้นในความมืด มนต์เสน่ห์ที่เหมือนจะเจืออยู่ในแววตาคู่นั้นอยู่เป็นนิจ สว่างจ้าขึ้นมา...
“เอ่อ...” เธออึกอักทันทีเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว และไม่เคยได้สนทนากับเขาในเวลาที่ร่วมเตียงกันแบบนี้เลยสักที ทั้งที่แอบมองเขาอย่างนี้มาร่วมเดือนแล้ว
หลังจากเข้าพิธีแต่งงานกันมา
เธอคิดว่า เขาเป็นคนหลับลึกซะอีก เพราะเธอตื่นมามองเขานานแค่ไหน เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหน ลมหายใจก็ยังสม่ำเสมอ
“ฮื้อ” ยิ่งเสียงงัวเงียถามย้ำมาในทำนองทุ้มในลำคอแบบนี้ เธอยิ่งกลั่นน้ำเสียงออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
“เอ่อ...”