4.ปริศนา
***ทักทายคร้า ***
รถคันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าเรือนไม้สักหลังใหญ่ทรงสเปน ไฟในบ้านถูกเปิดสว่างไปทั้งหลังเมื่อได้ยินเสียงรถของปลายตะวัน ร่างสูงเปิดประตูลงจากรถเดินมาช้อนร่างหญิงสาวเข้าไปในบ้าน ร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ของนมอุ่นเดินเข้ามาหาพร้อมกับหมอการันต์
“ดูอาการก่อนเลยนะหมอ ไม่รู้เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงกังวล ก่อนจะถอยห่างออกมา หมอหนุ่มตรวจอาการไม่นานก็เงยหน้าสบตากับเจ้าของไร่ ที่ดูจะออกอาการเป็นห่วงหญิงสาวอยู่ไม่น้อย อา...ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะ ทำไมเจ้าปลายตะวันพี่ชายเขาผู้เย็นชากับความรักถึงได้ออกอาการห่วงใยขนาดนี้
“มีแผลตามตัวนิดหน่อยครับ อาการอื่นๆ คงไม่มีอะไรน่าห่วง ถ้าเธอฟื้นเจ้าค่อยพาไปเช็กที่โรงพยาบาลอีกที” คุณหมอบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“นมช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายมากไปกว่านี้” ปลายตะวันเดินมานั่งลงข้างๆ คนไม่ได้สติอยู่บนเตียง นมอุ่นมองหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงอย่างเอ็นดู นางตกใจตั้งแต่ที่คุณหนูของนางโทรมาบอกแล้ว
“คุณหนูกับคุณหมอออกไปข้างนอกก่อนนะคะ” นมอุ่นบอกให้ชายหนุ่มทั้งสองออกไป เพราะจะเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวกขึ้น ปลายตะวันมองใบหน้าหวานอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป
นมอุ่นเดินเข้าไปในห้องน้ำไม่นานก็ออกมา พร้อมกับอ่างน้ำและผ้าเช็ดตัว จากนั้นก็ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าหญิงสาวออกอย่างเบามือ
“โถแม่คุณ ไปโดนใครทำอะไรมาคะ ทำไมถึงมีแต่รอยถลอกช้ำเขียวแบบนี้” นุ่มอุ่นอุทานออกมาเบาๆ มืออวบเช็ดไปตามเรือนร่าง สวยสะพรั่ง งามเหมือนรูปปั้นนางในวรรณคดี อก เอว สะโพกรับกันอย่างกลมกลืน ดวงตาของหญิงชราคลอไปด้วยน้ำตา ด้วยความสงสารคนตรงหน้า ใครนะที่ช่างใจร้ายทำกับแม่หนูคนนี้ได้ลงคอ
“คุณย่าขา ช่วยขิมด้วย” มือบางไขว่คว้าไปในอากาศ ใบหน้างามส่ายไปมา นมอุ่นเกาะกุมมือบางเอาไว้ หัวใจของหญิงชราอ่อนยวบอย่างสงสาร
“หลับซะนะคะ คุณปลอดภัยแล้ว จากนี้ไปจะไม่มีใครมาทำอันตรายคุณได้อีกแล้ว” คำปลอบโยนและสัมผัสอ่อนโยนที่หญิงสาวได้รับ ทำให้ท่าทีของเธอสงบลง
หญิงชราเดินออกมาจากห้อง เห็นร่างสูงใหญ่ของปลายตะวันยืนรออยู่หน้าระเบียง พอเห็นนางเปิดประตูออกก็ตรงมาหาทันที
“เธอเป็นยังไงบ้างนม”
“เพ้อนิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้หลับไปแล้ว ว่าแต่คุณหนูเถอะ ไปขโมยลูกสาวใครมาคะ” นมอุ่นมองหน้าชายหนุ่มคนที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก และรู้นิสัยใจคอว่าเป็นคนยังไง
“นั่นสิ ผมเองก็อยากรู้เหมือนคุณนม ไปกรุงเทพฯ คราวนี้กลับเอาสาวมาฝากเจ้าลุงกับเจ้าป้าด้วย ถ้ารู้สงสัยคงต้องรีบแจ้นมาดูตัวแน่ๆ” หมอการันต์พูดยิ้ม
“ถามเยอะขนาดนี้ใครจะตอบไหว รอให้เจ้าตัวฟื้นมาตอบเองดีกว่า”
“นมว่าคุณหนูไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายไปอีกคน”
“ถ้างั้นฉันกลับก่อนก็แล้วกัน สายๆจะมาดูอาการเธออีก ผมกลับนะครับนมอุ่น” การันต์ยกมือไหว้ผู้สูงวัยยิ้มๆ
“คุณหมอทำไมไม่นอนที่นี่เลยล่ะคะ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็สว่างแล้ว”
“เอาไว้วันหลังดีกว่าครับ คนแถวนี้คงเรียกใช้บริการจนกว่าเธอคนนั้นจะฟื้น เดี๋ยวนมเบื่อหน้าผมพอดี” การันต์บอกพลางหลิ่วตาให้คนที่เป็นพี่และเพื่อนเล่นมาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน ปลายตะวันได้แต่ครางฮึ่มในลำคอที่โดนแขวะซึ่งๆ หน้า
หลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ปลายตะวันสวมกางเกงนอนตัวใหญ่กับเสื้อยืดสีขาว เดินออกจากห้องนอนของตัวเอง เข้าไปในห้องทางปีกซ้าย ดวงตาคมกริบมองไปยังร่างบอบบางที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ก่อนจะก้าวเข้ามานั่งริมขอบเตียง สายตาคมมองใบหน้าหวานรูปไข่ ปากนิดจมูกหน่อย เครื่องหน้าสวยหน้ามอง ปลายนิ้วเอื้อมไปหยิบปอยผมที่ระใบหน้าไปด้านข้างอย่างเบามือ
“หลับให้สบายนะครับ คุณจะปลอดภัยถ้าอยู่ที่ไร่ปลายตะวัน ผมสัญญา” เสียงทุ้มบอกเธออย่างนุ่มนวล คิ้วหนายกขึ้นสูงเมื่อเห็นรอยเขียวตามเนื้อตัวขาวนวลที่พ้นออกมาจากผ้าห่ม คำถามหลายอย่างเกิดขึ้นในใจของชายหนุ่ม อะไรเป็นสาเหตุให้เธอถูกทำร้ายถึงกลับต้องหนีซมซานแบบนี้กัน
ปลายตะวันนั่งมองคนบนเตียงอยู่นาน น้ำใสๆ ไหลออกมาทางหางตา นิ้วเรียวแข็งแรงเอื้อมไปเช็ดให้อย่างอ่อนโยน สายตาเหลือบไปเห็นชุดที่เธอใส่มา จึงถือวิสาสะหยิบขึ้นมาค้นดู กระเป๋ากางเกงห้าส่วนที่เธอใส่มา ไม่มีอะไรที่พอจะระบุว่าเธอเป็นใครมาจากไหนได้เลย…ถ้าเธอไม่ฟื้นจะทำยังไงล่ะทีนี้ ชายหนุ่มยืนครุ่นคิดอยู่ใกล้ๆ พรุ่งนี้ลองให้คนไปสืบดูว่ารีสอร์ตในละแวกนี้มีแขกหายไปบ้างหรือเปล่า วิธีนี้คงพอจะได้เรื่องบ้าง
“ไข้ลดหรือยังคะ” ร่างท้วมของนมอุ่นเดินเข้ามาในห้อง พลางนั่งลงข้างเตียง
“ยังเลยนม ยังไงถ้าเธอฟื้นก็ฝากนมดูแลหน่อยก็แล้วกัน”
“ไปคุยกันข้างนอกดีกว่าค่ะ เธอจะได้หลับเต็มที่” นมอุ่นเดินนำร่างสูงสง่าออกมานั่งที่ห้องนั่งเล่นที่อยู่ถัดมา
“เล่าได้หรือยังคะ” นางมองใบหน้าคมเข้มที่นั่งยิ้มอยู่ตรงหน้า
“เห็นเขาสลบอยู่ข้างทางก็อุ้มขึ้นรถมาที่นี่แหละ”
“น่าสงสารจริงแม่คุณ” นางยกมือขึ้นทาบอก
“สงสารผมดีกว่านะนม ไม่รู้ไปอุ้มเมียใครขึ้นรถหรือเปล่า” ร่างสูงล้มตัวลงนอนหนุนตักนมอุ่น เหมือนสมัยเป็นเด็กๆ ที่ชอบแย่งกันกับหมอการันต์
“เธอยังไม่มีใครหรอกค่ะ”
“นมรู้ได้ยังไง หรือเชี่ยวชาญด้านดูตัวสาวๆ” ชายหนุ่มถามยิ้มๆ ทำให้คนแก่ต้องแจกค้อนงามๆ ให้เป็นการตอบแทน คำยืนยันของนมอุ่นทำให้ปลายตะวันแอบดีใจอยู่ลึกๆ
‘นมรู้ก็แล้วกันค่ะ แล้วนี่คุณหนูจะทำยังไงต่อไปคะ”
“ไม่รู้เลย รอให้เธอฟื้นก่อนก็แล้วกันค่อยไปส่งที่ตัวเมือง” พูดไปแล้วหัวใจที่เคยแกร่งปวดหนึบขึ้นมา เมื่อคิดว่าร่างบอบบางที่เขาช่วยไว้จะจากไป
“ถ้าฟื้นแล้วเธอไม่ยอมไปล่ะคะ คุณหนูจะทำยังไง” ปลายตะวันมองสบตา ดวงตายับย่นที่ฉายแววอบอุ่นมาให้
“เธอคงอยู่ที่นี่ไม่ได้ ดูบอบบางเกินไป ทำงานในไร่จะได้สักกี่น้ำ”
“ถ้าเธอไม่ไป ให้แม่หนูคนนั้นอยู่กับนมได้ไหม”
“ดูนมจะเอ็นดูเธอมากไปหรือเปล่า เพิ่งรู้จักกันเอง อย่าไว้ใจมากนัก เธออาจจะเป็นนางนกต่อก็ได้” ชายหนุ่มเอ่ย พลางลุกขึ้นนั่งมองไปที่ประตูห้องของหญิงสาว
“ถ้าไม่แน่ใจแล้วช่วยเธอมาทำไมล่ะคะ ให้เธอพักอยู่กับนมก็ได้”
“เห็นคนลำบากอยู่ต่อหน้า ถ้าไม่ช่วยนมก็หาว่าผมใจร้ายอีกนั่นแหละ” ปลายตะวันบอกคนที่เลี้ยงมาเสียงงอนๆ นมอุ่นยิ้มรู้ดีว่าคุณหนูของเธอจิตใจดี และเอื้ออาทรกับคนอื่นเสมอ เสียอย่างเดียวคือนิสัยใจร้อนและเอาแต่ใจเท่านั้นเอง
“นมรู้ค่ะว่าคุณหนูของนมไม่ใช่คนใจดำ ถึงขอให้แม่หนูคนนั้นอยู่กับนม”
“ไม่ดีหรอก ดีไม่ดีอาจจะพาพวกมาทำร้ายนมได้ ให้เธอพักที่นี่แหละ ผมจะได้ดูพฤติกรรมของเธอด้วย” ปลายตะวันหลบสายตาผู้สูงวัยมากไปด้วยประสบการณ์ชีวิตที่มองมาอย่างจับผิด
“แล้วจะให้เธอพักที่ไหนคะ”
“ห้องยัยปอปิดทิ้งไว้เฉยๆ…ให้เธอพักที่นั่นแหละ” นมอุ่นยิ้มกับคำพูดของชายหนุ่ม
“พักได้เหรอคะ นมว่าให้พักห้องแขกดีกว่า”
“เผื่อแขกมาแล้วจะพักที่ไหนครับ ให้พักห้องยัยปอดีแล้ว” นมอุ่นสบตาชายหนุ่มอย่างแปลกใจ ห้องนั้นเป็นห้องที่เจ้าของไร่หวงที่สุดเพราะเป็นห้องน้องสาวสุดที่รักที่เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน แล้วทำไมถึงให้ผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักไม่กี่ชั่วโมงเข้าพักได้ก็ไม่รู้สิ นางก็ขอภาวนาให้มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นด้วยเถิด…
****
