
บทย่อ
สายวสันต์ทำให้เขาและเธอมาพบกัน คนหนึ่งเร่าร้อนเอาแต่ใจ อีกคนอ่อนหวานบอบบางดุจแก้วเจียระไน แม้ทั้งสองคนแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่สายวสันต์ก็ได้สร้างความชุ่มเย็นในหัวใจรักที่ทั้งสองมีต่อกัน จนสามารถก้าวผ่านเรื่องเลวร้ายต่างๆ ไปได้
1.ปัญหาใหญ่
*** ทักทายคร้า ***
ขิมทรายนั่งเอามือกุมหัวอยู่ในห้องทำงาน เมื่อเห็นเอกสารการโอนเงินเข้าบัญชีของนางกิจจาแม่เลี้ยงของเธอหลายครั้งติดกันเป็นเงินร่วมล้านบาท ไม่ใช่เหตุการณ์เหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นสมัยที่พ่อเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้สภาพการเงินของบริษัทไม่ได้ดีเหมือนที่ครั้งพ่อเธอนั่งเก้าอี้บริหาร เพราะผู้ร่วมทุนหลายคนถอนหุ้นออกไปเมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอจึงต้องนั่งเก้าอี้บริหารแทนด้วยวัยเพียงยี่สิบห้าปี
ขิมทรายไม่ชอบที่จะทำธุรกิจ ซึ่งต่างจากพี่สาวของเธอที่จบด้านนี้มาโดยตรง แต่ความแตกร้าวของชีวิตครอบครัวก็เกิดขึ้น เมื่อพ่อของเธอแต่งงานใหม่กับกิจจาและพาแม่เลี้ยงและลูกสาวเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้ช่อมณีพี่สาวเธอต้องไปอยู่เมืองนอกนับจากนั้นมา
เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นติดกันหลายครั้ง ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยปากอนุญาต ร่างผอมบางของนางกิจจาก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง สายตามองร่างบอบบางที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานดวงตาขุ่นแค้น
“เห็นฝ่ายการเงินบอกว่าเธอไม่ยอมเซ็นจ่ายเงินให้ฉันใช่ไหม” นางกิจจามองลูกเลี้ยงด้วยแววตาเกลียดชัง
“คุณน้าจะเอาเงินไปทำอะไรคะ เดือนนี้ทั้งเดือนคุณน้ากับลูกใช้เงินไปเกือบเจ็ดแสนและขอเบิกอีกสองแสน ต่อไปขิมคงให้ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ” ขิมทรายตอบกลับมาอย่างใจเย็น ดวงตากลมใสนิ่งลึกจนยากที่นางกิจจาจะเดาใจได้
“เมื่อก่อนพ่อของเธอไม่เห็นว่าอะไร หรือเธอต้องการจะฮุบสมบัติเอาไว้คนเดียว” นางเดินมาหยุดหน้าโต๊ะแล้วกระแทกกระเป๋าถือลงบนโต๊ะแรงๆ
“เมื่อก่อนใช่ค่ะ แต่ต่อไปคุณน้าจะเบิกเงินได้ก็ต่อเมื่อมีขิมและพี่ช่อเซ็นเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายประจำเดือนขิมจะให้ทางการเงินโอนเข้าให้ทุกเดือนเหมือนเคย”
“ฉันไม่ยอม ยัยช่อพี่สาวเธอมันอยู่เมืองนอก แล้วจะเซ็นได้ยังไง แกอย่าโกหกฉันดีกว่า แล้วเงินเดือนที่เธอให้ฉันกับลูกมันจะพอยาไส้อะไร ฉันเป็นเมียพ่อของเธอมีสิทธิ์ในเงินทุกบาททุกสตางค์ของเขา” นางกิจจาตวาดแว้ดใส่ลูกเลี้ยง แค้นสุดแค้นที่ไม่ได้ดั่งใจ มือกำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา
“พอเกินพออีกค่ะ ถ้าคุณน้ากับลูกสาวเพลาเรื่องการใช้เงินซื้อโน่นซื้อนี่ลง ขิมให้คุณน้ากับลูกได้เท่านั้นค่ะ ถ้ารับไม่ได้ขิมก็จนใจ” ขิมทรายเอนหลังกับพนักพิง สบตาอย่างไม่เกรงกลัว
“ฉันจะฟ้อง” นางขู่มือกำกระเป๋าสะพายแน่น
“ได้สิคะ ถ้าคุณน้าคิดว่ามีโอกาสจะชนะ”
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” ว่าแล้วนางกิจจาก็ผลุนผลันออกจากห้อง ขิมทรายผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ
“ขิมทำดีที่สุดแล้วนะคะพ่อ สำหรับคนที่พ่อรัก” หล่อนพึมพำเบาๆ น้ำตาคลอเต็มดวงตาคู่งามจากนั้นก็ส่งจดหมายเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้พี่สาวได้รับรู้ ขิมทรายเองก็รู้ว่าช่อมณีห่วงเธอและพ่อเสมอ แต่ที่กลับมาตอนนี้ไม่ได้เพราะมีสัญญากับบริษัทแม่ที่สิงคโปร์ ขิมทรายยิ้มเมื่อพี่สาวตอบกลับมาว่าจะหมดสัญญาอีกสามเดือนข้างหน้าแล้วเพื่อมาช่วยเธอทำงาน
ทางด้านกิจจาเมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็กระชากประตูรถด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด ทำให้ทรงชัยคนขับรถที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หลังพวงมาลัยต้องหันไปมอง
“มันไม่ยอมเหรอพี่จา” ทรงชัยถามเสียงเข้ม พับหนังพิมพ์วางไว้ข้างตัว
“ใช่ มันอยากลองดีกับฉัน” กิจจาบอกเสียงลอดไรฟันอย่างน่ากลัว ทรงชัยยิ้มที่มุมปากน้อยๆ แล้วเอ่ยออกมาด้วยแววตาเหี้ยมโหด
“มันอยากลองก็จัดให้เลยซี้ จะยากอะไร”
“ฉันอุตส่าห์ปรานีมันสองพี่น้องแล้วเชียว มันยังรนหาที่จนได้” นางเอ่ยออกมาปากสั่นระริกอย่างเจ็บใจ ก่อนจะหันไปมองคนขับรถหรืออีกนัยหนึ่งคือสามีหนุ่มของเธอ
“พี่อยู่เฉยๆ ที่เหลือผมจัดการเอง” ทรงชัยบอกช้าๆ เอี้ยวตัวมาลูบไล้ต้นขาวของกิจจาที่โผล่พ้นกระโปรงออกมา เท่านี้มันก็รู้แล้วว่าความต้องการของสาวแก่ไฟแรงอย่างกิจจาลุกพึ่บขึ้นแล้ว
“เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ส่วนนังช่อมณีมันกลับมาเมื่อไหร่ค่อยจัดการมันทีหลัง” นางบอกเสียงสั่น ดวงตาแข็งกร้าวเปลี่ยนเป็นหวานเชื่อม ร้อนรุ่มไปทั้งตัว
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่ผมขอจัดการพี่ก่อนได้ไหม ไม่ได้เจอกันหลายวันผมคิดถึง” ทรงชัยก้มไปจูบต้นขาขาวแล้วลูบไปมาจนกระโปรงร่นสูงขึ้น
“เธอก็รู้ว่ายัยวัชร์ไม่ชอบให้เธอไปจุ้นจ้านที่บ้าน ออกมาเจอกันข้างนอกแบบนี้ดีแล้ว จะทำอะไรก็สะดวก”
ทรงชัยยิ้มหวานให้อย่างเอาใจ แต่ใจในกลับคิดถึงร่างอวบอั๋นขาวนวลของวัชรี สักวันมันจะเอามาเป็นเมียให้ได้ ทรงชัยหันไปสตาร์ตรถซ่อนแววตาเจ้าเล่ห์เอาไว้
ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงคอนโดหรูที่กิจจาแอบซื้อไว้ให้ทรงชัย พอเสียงประตูห้องปิดลงกิจจาก็เข้าไปกอดจูบร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของทรงชัย มือใหญ่ของชายหนุ่มกระชากชุดสวยหลุดออก แม้อายุเข้าเลขสี่แล้วแต่รูปร่างยังอวบอัด ขาวนวลน่าลูบไล้ไปทั่วร่าง
“พี่ต้องการเธอเหลือเกิน”
ทรงชัยยิ้มอุ้มร่างเปล่าเปลือยเดินเข้าไปในห้องนอน ปากยังแลกจูบกันอย่างเร่าร้อน ทรงชัยค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกเหมือนต้องการทรมานอีกฝ่าย สายตาโลมเลียเรือนร่างนางแมวยั่วสวาทอย่างพอใจ ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มส่งให้อย่างออดอ้อน กิจจาเป็นฝ่ายทนไม่ไหวลุกขึ้นมาหา ยกมือลูบไล้ความเป็นชายอันมหึมาที่เธอติดอกติดใจนักหนา แต่มือใหญ่ผลักเธอให้นอนลงแล้วนั่งคร่อมร่างไว้
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวเราก็ได้สนุกกันสุดเหวี่ยงอยู่แล้ว”
“มันนานไปแล้ว ช่วยพี่หน่อย” กิจจาบอกเสียงแหบพร่า ร่างกายเร่าร้อนแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ หลายปีที่เธอและทรงชัยแอบมีความสัมพันธ์กันลับๆ โดยที่นายดนัยสามีเธอไม่รู้ ความต้องการของเธอมีมากมายและไม่ยอมลดลงไปเลยแม้ว่าอายุจะมากแล้วก็ตาม มีเพียงทรงชัยเท่านั้นที่ปรนเปรอตัณหาราคะให้เธอได้อย่างถึงใจ
“โอ้ว...” กิจจาครวญครางออกมาอย่างเสียวซ่าน เมื่อชู้รักก้มลงไปซุกไว้ไล้เลียทรวงอกขาวพร้อมกับบีบเคล้นอย่างรุนแรง มือบางสอดไซ้ไปตามเรือนผมสีน้ำตาลตัดสั้นของชายหนุ่ม ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามหน้าท้องแบนราบแล้วนวดคลึงเนินเนื้ออวบอูม นิ้วใหญ่สอดผ่านเข้าออกกลางกลีบดอกไม้แดงช้ำ จนเธอบิดกายเร่า
“อ๊า...อ๊า”
เมื่อความปรารถนาของสาวแก่ร้อนแรงมาถึงจุดสุดท้าย ทรงชัยก็ขยับแก่นกายแข็งผงาดอัดกระแทกเข้าไปเต็มแรง กิจจาแอ่นรับครวญครางออกมาไม่เป็นภาษา
“โอ...วิเศษ” เสียงพึมพำพร้อมกับใบหน้าส่ายไปมาอย่างเสียวซ่านสุดคณา ทรงชัยยิ้มหยันอัดกระแทกเข้าใส่อย่างไม่กลัวว่าเธอจะเจ็บ ยิ่งแรงเสียงครวญครางยิ่งดังออกมาอย่างสะใจ สะโพกขาวนวลยกส่ายไปมาอย่างรู้จังหวะ
ทรงชัยก้มไปบดขยี้เรียวปากแดงและแลกจูบอย่างเร่าร้อน เสียงครวญครางดังระงมผสมกับเสียงหอบหายใจถี่กระชั้น ไม่นานกิจจาก็กรีดร้องอย่างไม่อาย เมื่อชายหนุ่มส่งเธอถึงฝั่งฝัน แรงอัดส่งท้ายตามมาติดๆ อย่างรุนแรง ก่อนที่ร่างใหญ่จะซบกับอกอวบแล้วตวัดลิ้นร้อนตรงปลายอกสีเบจไปมาอย่างเชื่องช้า
****
