บทที่หนึ่ง: คาร์ล 3
เธอยืนอยู่ด้านหน้าของเครื่องบิน ยกมือไหว้ผู้โดยสาร คอยหาที่นั่งให้ทุกคน ไม่คิดเลยว่าจะมีผู้โดยสารชายหลอกแต๊ะอั๋ง ตอนแรกเขาทำเนียนเป็นจับมือ แต่ตอนนี้กลายเป็นมาเกาะแกะไม่ห่าง
“ผมถามว่าคุณชื่ออะไร”
“คุณผู้โดยสารคะ กรุณานำของไปเก็บยังที่นั่งและนั่งประจำที่ด้วยค่ะ” พริมโรสพูดอย่างสุภาพ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมไป
“ผมอยากได้เบอร์คุณ”
“คุณผู้โดยสารต้องการให้ช่วยเหลือด้านใดเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” พริมโรสไม่ได้เล่นด้วย กระนั้นอีกฝ่ายยังดึงดันจะเอาเบอร์ให้ได้ แอมแปร์เห็นท่าไม่ดีเลยเดินมาช่วย
“เรารับแขกตรงนี้เอง พริมไปช่วยเช็กของที่แกลลีแทนเราเถอะ” เพื่อนสนิทรับอาสา หญิงสาวรีบพยักหน้ารับ
รู้สึกดีมากที่อีกคนเป็นงาน
“ขอบใจนะแก” พริมโรสบอก จับมือเพื่อนแน่นก่อนจะเดินเลยมาด้านหลังของเครื่อง
บริเวณแกลลีก็คือบริเวณครัวของเครื่องบิน ที่ตรงนี้จะเก็บอาหารของผู้โดยสารไว้ มีทั้งเนื้อสัตว์และอาหารมังสวิรัติ รวมไปถึงอาหารฮาลาล เป็นหน้าที่ของแอร์โฮสเตสและสจ๊วตบางส่วนที่ต้องเช็กว่าอาหารมีจำนวนครบหรือขาด เท่านั้นไม่พอ ยังต้องตรวจดูตู้เก็บอาหารและคอยรักษาความสะอาดให้ดี
พริมโรสเข้ามาในแกลลี เห็นภาวินกำลังเช็กคาร์ตและอาหารอยู่ หญิงสาวเลยกระแอมไอเบา ๆ ก่อนจะเดินชูคอเข้าไป อีกคนเมื่อเห็นโจทย์เก่าก็เบ้ปากก่อนจะรีบเช็กของ ทำเป็นไม่เห็นหญิงสาว
“เมื่อคืน พริมได้เจอคุณคาร์ลด้วย” พริมโรสทักขึ้นมาก่อน
“คาร์ล?! คาร์ลไหน”
คาร์ลไหน...
หญิงสาวคิดก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา
“ก็กัปตันคาร์ลคนที่พี่ชอบไง พริมได้นอนกับเขาแล้ว”
“หึ” ภาวินหัวเราะออกมาก่อนจะพูดขึ้น “คนที่ฉันชอบก็คือสจ๊วตที่ชื่อคาร์ล เขาบินรูทยุโรป ไม่ใช่กัปตันคาร์ลวันนี้จ้ะ”
เกิดความเงียบอันน่าอึดอัดใจในแกลลีทันที พริมโรสแทบจะร้องกรี๊ดออกมา แต่ทำได้แค่ระบายในใจ เธอทั้งหน้าแตกทั้งอับอายที่นอนผิดคน
“เข้าใจว่าพริมอยากแก้แค้น เก็บความแค้นไว้สองปีมันจุกอกอะเนอะ แต่จะทำอย่างไรได้ นอนผิดคนก็คือนอนผิดคน พี่คาร์ลของฉันอะนะ ถึงจะไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกันแต่ก็ไม่ได้มีสายตาไว้มองหญิงจ้ะ” ภาวินหัวเราะร่วน รู้สึกว่าอีกคนตามเกมไม่ทัน กระดูกคนละเบอร์ก็แบบนี้
“แน่ใจหรือว่าผิดคน เมื่อคืนพี่มองพริมกับเขาตาเป็นมัน”
“นี่ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันมองเธอนี่ไม่ได้มองเพราะอิจฉาที่ไปกับกัปตันคาร์ลหรอกนะ ฉันแค่มองเพราะสงสัยว่าคันอะไรนัก ไม่คิดว่าวันต่อมาจะมาบอกว่าได้กันแล้ว กัปตันคาร์ลหล่อก็จริง แต่คนที่ฉันชอบคือสจ๊วตคนละสายการบินจ้ะ น้องพริม” ภาวินดูน่าหมั่นไส้มากในสายตาเธอ ถ้าเป็นไปได้ พริมโรสอยากผลักเขาลงจากเครื่องตอนนี้เลย
เธอทั้งอับอายทั้งเจ็บใจที่แผนแก้แค้นไม่สำเร็จ จะตามหาสจ๊วตที่ชื่อคาร์ลแล้วแก้แค้นอีกรอบก็คงจะไม่ได้ หญิงสาวรู้สึกปรี๊ดแตกอยากจะตบอีกฝ่าย แต่ในฐานะที่เป็นแอร์โฮสเตสทำได้แค่เพียงผุดยิ้มมุมปาก
“อย่าคิดว่าจะรอดไปได้นะคะ พี่ภาวิน”
“แทนที่จะทะเลาะกัน เอาเวลามาเช็กแกลลีดีกว่าไหม ฉันจะเช็กฝั่งซ้าย เธอเช็กฝั่งขวา” ภาวินหัวเราะหลังพูดพริมโรสถึงกับกลอกตาขึ้นมองเพดาน เธอถอนหายใจแล้วจำใจเช็กของในแกลลีฝั่งขวา
หลังจากก้ม ๆ เงย ๆ ได้สักพัก เธอก็รายงานความเรียบร้อยให้อีกฝ่ายรับทราบ
“เรียบร้อยค่ะ ไม่มีอะไรตกหล่น”
ภาวินทำเป็นหูทวนลม เดือดร้อนเธอต้องพูดขึ้นมาอีกรอบ
“แกลลีฝั่งขวาของครบค่ะ ไม่มีอะไรตกหล่น”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบรับ เธอก็เดินหนีไปประจำที่ของตัวเองทันที
“คนอะไรกวนประสาทกันอยู่ได้” หญิงสาวร้องออกมาอย่างไม่พอใจ เธอตัดสินใจไปหาแอมแปร์เพราะมั่นใจว่าเพื่อนจะช่วยให้ตนคลายเครียดได้
“เป็นอะไร ทำไมหน้ายู่อีกแล้ว”
“เจอไอ้พี่ภาวินในแกลลีน่ะสิ” หญิงสาวซุบซิบ
“เอ้า ทำไมไม่เกทับเขาไปว่าได้นอนกับผู้ที่เขาหมายตาแล้ว”
“แก ไม่ได้มะ ก็คนที่เขาชอบคือสจ๊วตที่ชื่อคาร์ล ไม่ใช่กัปตันคาร์ลอะ” หญิงสาวร้องออกมา แอมแปร์ได้แต่หลุดอุทาน
“OMG! นี่...นี่แปลว่าแกแก้แค้นผิดคนงั้นหรือ”
“ใช่ ทำไงดีอะแก”
“คือตอนนี้จะให้ไปนอนกับสจ๊วตที่ชื่อคาร์ลก็ไม่ได้แล้วปะ คนชื่อคาร์ลมีเยอะแยะบนโลกใบนี้ แกอาจจะนอนผิดคนอีกก็ได้ ฉันว่าแกล้มเลิกแผนแก้แค้นเขาเถอะ เดี๋ยวมันจะหนักเกินแก้ไขไป” เพื่อนสนิทแนะนำ มือหนึ่งสาละวนอยู่กับการจัดการที่นั่ง
พริมโรสอยากจะร้องไห้ออกมามาก ๆ แต่เสียดายราคาเครื่องสำอางบนใบหน้า เธอจึงทำได้แค่กะพริบตาปริบ ๆ แล้วคว่ำปากแทน
“โอ๊ย ทำไมไอ้คนทำผิดมันถึงได้ดี แต่เป็นฉันที่ต้องมานั่งเสียใจแทนล่ะเนี่ย” หญิงสาวหวีดร้อง
“เหอะน่า แก สักวันบาปกรรมต้องตามมันทัน ส่วนเรื่องกัปตันคาร์ล เราจะเจอเขาบ่อยหรือไม่ได้เจอกันอีก อย่างไรมันก็เป็นแค่อดีตนะ อย่างมากเขาก็แค่เอาไปเล่าให้คนอื่นฟังว่าได้กับแกแล้วแค่นั้น ที่สำคัญเขาหล่อมากด้วย พูดไทยก็ชัด ภาษาอังกฤษก็ดี โปรไฟล์ก็เลิศ เป็นถึงกัปตัน ทำไมแกไม่คิดว่าโชคดีขนาดไหนที่ได้กับเขาแล้ว” แอมแปร์พยายามปลอบ พริมโรสคิดก็ก่อนจะรู้สึกว่าเป็นจริงดังที่เพื่อนบอก
คาร์ลหน้าตาดี โปรไฟล์ก็หรู แถมยังเงินเดือนสูง การที่หญิงสาวได้นอนกับเขาก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
พริมโรสคิดขณะที่กลับไปนั่งที่ประจำของตน
ตอนนี้เครื่องกำลังจะเทคออฟออกจากสนามบิน เสียงกัปตันประกาศตามสายทำให้จิตใจของเธอเต้นตึกตัก คาร์ลดูอายุแค่สามสิบกว่าเท่านั้น น้ำเสียงกลับทุ้มหล่อมีเสน่ห์น่าฟัง แอมแปร์ที่นั่งอีกฝั่งของเครื่องได้แต่มองข้ามมาฝั่งเธอก่อนจะยักคิ้ว
“หล่อจริงไหมล่ะ” เธออ่านปากเพื่อนออก พริมโรสเผยยิ้มออกมา
ไม่คาดคิดเลยว่าเหตุการณ์ร้ายกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
