บทที่สอง: Mayday 1
บทที่สอง
Mayday
“สวัสดีครับท่านผู้โดยสาร ผมกัปตันคาร์ล ลุฟต์เบิร์ก ขอยินดีต้อนรับผู้โดยสารทุกท่านสู่สายการบิน BangkokFly เที่ยวบินที่ BF740 ซึ่งจะนำท่านเดินทางไปยังตุรกี โดยเราจะใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 15 นาที อีกสักครู่เชิญชมการสาธิตเกี่ยวกับความปลอดภัยบนเครื่องบิน กัปตันและลูกเรือทุกคนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้รับความสะดวกสบายตลอดเที่ยวบินนี้ครับ ขอบคุณครับ” หลังจากการประกาศภาษาไทยและภาษาอังกฤษของกัปตันคาร์ล แอร์โฮสเตสก็เตรียมสาธิตเกี่ยวกับความปลอดภัย
แอมแปร์กับพริมโรสมองหน้ากันก่อนจะลุกขึ้นมาสาธิตความปลอดภัย พวกเธอหยิบเสื้อชูชีพมาสวมและอธิบาย มีการอธิบายถึงทางออกฉุกเฉินและการใช้ถังออกซิเจนเล็กน้อย
การแลนด์ดิงฉุกเฉินมีทั้งแลนด์ดิงบนพื้นและแลนด์ดิงบนน้ำ ผู้โดยสารส่วนมากให้ความสนใจดี แต่จะมีผู้โดยสารส่วนน้อยที่หลับตั้งแต่ขึ้นเครื่อง นั่นทำให้จิตใจของหญิงสาวรู้สึกเศร้า
เข้าใจว่าโอกาสที่เครื่องบินจะตกนั้นมีน้อย แต่กระนั้นเธอก็อยากให้ทุกคนใส่ใจสักนิดหนึ่ง หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นจะได้เตรียมรับมือได้ถูก
คนขับเครื่องบินไม่ใช่เธอ แต่เป็นคนอื่น ดังนั้นหญิงสาวทำอะไรไม่ได้นอกจากขอให้พระคุ้มครองตลอดการเดินทาง ได้แต่หวังว่ากัปตันคาร์ลและรองกัปตันคงจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ
หลังจากการสาธิตจบลง หญิงสาวก็มีหน้าที่เดินตรวจตราความเรียบร้อยของผู้โดยสาร
อันดับแรกต้องเช็กว่าผู้โดยสารนั้นรัดเข็มขัดแล้วหรือยัง เนื่องจากเครื่องบินจำเป็นจะต้องเทคออฟจากสนามบิน อาจมีการลาดเอียงของตัวเครื่อง นั่นส่งผลให้ผู้โดยสารกระเด้งออกจากที่นั่งได้ พริมโรสจึงต้องเดินเช็กอย่างเคร่งครัด
เมื่อเจอผู้โดยสารกำลังเล่นโทรศัพท์มือถือ เธอก็ขอให้เขาปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากอาจจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างเทคออฟได้
พริมโรสเดินตรวจตราไปเรื่อย ๆ เมื่อมาถึงที่บริเวณปีกของเครื่องบิน เธอก็ขอให้ผู้โดยสารเปิดหน้าต่าง สาเหตุที่จำเป็นจะต้องเช็กบริเวณนี้นั้นเป็นเพราะบริเวณปีกมีเครื่องยนต์สำคัญอยู่ หากเกิดเพลิงไหม้บริเวณนี้แล้วปีกมีความเสียหาย อาจจะส่งผลต่อระบบการบินของเครื่องบิน
หญิงสาวคอยตรวจสภาพภายนอกของเครื่องบินผ่านทางกระจกอยู่เสมอ เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ เธอก็เดินผ่านไป
หลังจากตรวจเช็กความพร้อมของผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว แอร์โฮสเตสส่วนหนึ่งจะแจ้งไปยังกัปตันว่าพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว กัปตันจึงจะแล่นเครื่องไปตามรันเวย์เพื่อเทคออฟออกจากสนามบิน
มีการติดต่อสื่อสารระหว่างหอบังคับการบินเข้ามา โดยเขาจะรายงานถึงสภาพอากาศให้กัปตันได้รับทราบ
กัปตันเองนอกจากจะทำหน้าที่บินแล้วยังต้องเขียน Flight Plan รายงานหอก่อนด้วย อธิบายว่าใช้เครื่องบินรุ่นอะไร ปลายทางคือที่ใด สนามบินสำรองคือที่ไหน เชื้อเพลิงเท่าไหร่ ฯ และรายละเอียดสำคัญอื่น ๆ ก่อนบิน และขณะที่บินจำเป็นจะต้องฟังสัญญาณจากหอบังคับการบินไปพลาง
เมื่อหอบังคับการบินอนุญาตให้เทคออฟแล้ว จึงจะสามารถนำเครื่องขึ้นบินได้
คาร์ลเป็นนักบินหลัก หลังจากตรวจสอบแผงควบคุมว่ามีการตั้งค่าถูกต้องแล้วจึงจะหันมาให้นักบินสำรองช่วยตรวจสอบอีกที
ทั้งสองคนทำสมาธิก่อนขับและไม่ลืมขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าทุกครั้ง
“May god save us”
เครื่องบินค่อย ๆ แล่นไปตามรันเวย์และทำความเร็วจนตัวเครื่องสั่น เครื่องค่อย ๆ ร้อนขึ้น เมื่อเครื่องยนต์ทำงานเต็มกำลัง ล้อจะกางออกและไต่ระดับจากตัวพื้น
เมื่อตัวเครื่องทั้งหมดลอยอยู่บนอากาศ กัปตันจะดูว่าเพดานบินอยู่ในระดับไหน จากนั้นจะรักษาระดับนั้นไว้ โดยอาจมีการลดระดับหรือเพิ่มระดับเพื่อหลบหลีกการตกหลุมอากาศ
ทั้งนี้คาร์ลมั่นใจในฝีมือของตนมาก เพราะฝึกอบรมมาเป็นระยะเวลานานนับร้อยชั่วโมง อีกทั้งยังเป็นกัปตันสำรองให้กับการบินหลายเที่ยว เขาเรียนรู้อย่างหนักจากรุ่นพี่นักบินอีกทั้งยังเคยบินหลากหลายสภาพอากาศ คาร์ลจึงได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นนักบินที่มีความสามารถ
พริมโรสกับแอมแปร์ยังคงนั่งที่ประจำของตัวเอง และไม่ออกเดินไปไหน ตอนนี้แอร์โฮสเตสจะยังไม่เดินตรวจตราเพราะต้องรอให้เครื่องบินขึ้นจนถึงจุดเสถียรเสียก่อน เมื่อเดินทางไปสักพักจึงจะนำอาหารไปเสิร์ฟให้กับผู้โดยสาร
ระหว่างการเดินทาง ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น เสียงกัปตันประกาศตามสายให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นรายงานสภาพอากาศหรือรายงานว่าตกหลุมอากาศ
ไม่นาน แอร์โฮสเตสกับสจ๊วตก็จะนำอาหารมาเสิร์ฟให้กับผู้โดยสาร แต่เนื่องจากช่วงนี้สายการบินบางสายประสบปัญหาเสิร์ฟอาหารที่มีส่วนประกอบเป็นหมูให้กับชาวมุสลิม จึงโดนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันเยอะ
BangkokFly ไม่ได้นิ่งนอนใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางผู้บริหารได้เรียกประชุมและลงความเห็นว่าหากประเทศปลายทางมีการนับถือมุสลิมเป็นส่วนใหญ่และผู้โดยสารส่วนมากเป็นมุสลิม จะปรับเปลี่ยนอาหารเป็นไก่ เนื้อและอาหารทะเล โดยคนพุทธสามารถเลือกรับประทานไก่ เนื้อหรืออาหารทะเลได้
พริมโรสได้รับบรีฟมาอย่างนั้น แต่เมื่อนำอาหารแจกจ่ายให้กับผู้โดยสารบนเครื่อง ชาวพุทธบางส่วนได้คอมเพลนมาว่าอยากได้หมูแทนเนื้อไก่ แอร์โฮสเตสไม่รู้จะทำอย่างไร โชคดีที่มีแอร์บางส่วนสั่งอาหารเป็นหมู สุดท้ายจึงตกลงจะสลับอาหารให้ผู้โดยสารท่านนั่น
ต้องเรียกว่าเป็นไฟล์ทที่ทำให้ลูกเรือลำบากใจพอควร พริมโรสเองทราบดีว่าเธอมีปัญหาตั้งแต่ผู้โดยสารมาลวนลามที่สนามบินแล้ว เมื่อเกิดปัญหาขึ้นอีก เธอก็อดปวดหัวไม่ได้
ไม่นับเรื่องที่เด็กทารกร้องไห้จ้าบนเครื่องบินไม่หยุด ทำให้เธอต้องหาจุกนมมาให้อีกฝ่ายดูด เสียงจึงจะบรรเทาลง
หลังจากเสิร์ฟอาหารให้กับทุกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว แอร์โฮสเตสก็จำเป็นจะต้องเสิร์ฟอาหารให้กับกัปตันด้วยเช่นกัน พริมโรสไม่ได้เป็นคนเอาอาหารไปให้ แต่เธอหลบไปรับประทานอาหารของตัวเองที่มุมส่วนตัว ให้คนอื่นไปเป็นคนเสิร์ฟ
แอมแปร์เองก็มานั่งกับเธอ สจ๊วตหลายคนเองก็ทยอยมาร่วมรับประทานอาหารด้วย
“เออ นี่ ได้ข่าวเรื่องการยิงในปาเลสไตน์ไหม”
