6 ตัวแข็งค้าง [2]
กลับมาที่ปัจจุบัน
อามู่หลังจากที่กลับออกมาจากจวนเสนาบดีจ้าวที่เขาไปส่งฟืน ขาไปเขาเอาฟืนไปส่ง ขากลับเขาได้ภรรยากลับมาบ้านด้วย ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้เขามีภรรยาที่ถูกต้องตามธรรมเนียมแล้ว
เมื่อมาถึงบ้านของอามู่ ฝูฮวนก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก นี่นางคาดหวังอะไรเช่นนั้นเหรอ เพราะสภาพบ้านของสามีนางนั้นไม่สามารถเรียกได้ว่าบ้าน ต้องเรียกว่ากระท่อมมากกว่า และเป็นกระท่อมที่หากลมพัดครั้งเดียวก็คงปลิวไปกับสายลมแล้ว
“พี่มู่ นี่คือบ้านของเราหรือเจ้าคะ” ฝูฮวนเอ่ยถามออกไป
“หากไม่ใช่บ้านของข้าแล้วเจ้าคิดว่าข้าจะพามาที่บ้านใคร นี่เจ้าคงไม่ได้วาดฝันว่าข้าจะมีบ้านหลังใหญ่โต มีคนรับใช้หรอกใช่หรือไม่”
“มะ ไม่ ไม่ใช่เช่นนั้น ที่ข้าถามเพราะข้าเป็นกังวลถึงสภาพของบ้านต่างหากเล่าเจ้าคะ ไม่รู้ว่าเหมันต์ปีนี้จะผ่านไปได้หรือไม่” เสี่ยวฮวนรีบยกไม้ยกมือปฏิเสธเสียงแตกตื่น
ขืนนางพูดไม่ถูกหูแล้วเขาไม่ให้นางอยู่ด้วยนางได้ตายแน่ นี่นางเพิ่งมาเกิดใหม่เพียงสองวันเองนะ สวรรค์ท่านจะกลั่นแกล้งข้าเกินไปแล้ว
หลังจากที่เสี่ยวฮวนทำอาหารทำความสะอาดพอให้ผ่านคืนนี้ไปได้เท่านั้น สองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันก็นั่งกินมื้อเย็นกันอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไร พอถึงเวลานอนก็ต่างฝ่ายต่างนอนหันหลังให้กัน
คืนแรกของการนอนที่บ้านหลังใหม่ ฝูฮวนนอนหลับอย่างสนิท อาจจะเพราะรู้แล้วว่านางสามารถหนีชะตาที่ต้องตายได้แล้ว ซึ่งต่างจากอามู่ ทั้งคืนเขานอนตัวเกร็งและนอนไม่หลับทั้งคืน เนื่องจากฝูฮวนนอนดิ้นทั้งกอดทั้งเกี่ยวขาเขาไว้ คงนึกว่าตัวเขานั้นเป็นหมอนข้างเป็นแน่
รุ่งเช้าตอนตื่นนอนอามู่จึงมีสภาพเป็นดั่งสยงเมา* ง่วงนอนตลอดเวลา ฝูฮวนเห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามออกไป
“สามี ท่านนอนไม่หลับหรือเจ้าคะ”
“....” อามู่จึงได้แต่มองค้อนกลับไปด้วยสายตาเจ้าแค้น แต่ก็ไม่พูดอันใดออกไป ก่อนจะออกไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาที่ลำธารใกล้บ้าน เมื่อกลับมาที่บ้านก็ได้กลิ่นอาหารลอยออกมา
“สามี ท่านมานั่งก่อนเจ้าค่ะ ข้าทำอาหารเช้าไว้ให้ท่านแล้ว” ฝูฮวนว่าแล้วก็วางถ้วยโจ๊กที่มีไข่ใส่อยู่ตรงกลาง ถ้วยหนึ่งของอามู่ ถ้วยหนึ่งของนาง
“ข้าเห็นมีไข่ไก่อยู่สองสามฟองจึงได้ทำโจ๊กไข่ให้ท่าน กินตอนกำลังร้อนจะได้อร่อย” ฝูฮวนเลื่อนถ้วยโจ๊กใส่ไข่ที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบ้านเข้าไปใกล้สามีอีกนิด
“...”
สามีท่านยังประหยัดถ้อยคำเช่นเดิม แต่เอาเถอะเรื่องแค่นี้เองข้าทนได้ เช้าวันใหม่ช่างสดใสเสียจริง หือ~ กลิ่นอิสระมันหอมหวานเช่นนี้นี่เอง
อามู่เหลียวไปมองภรรยาคนใหม่ที่กำลังสูดอากาศเข้าปอด นี่ข้าได้หญิงบ้าเป็นภรรยาหรอกหรือ
หลังจากอามู่กินมื้อเช้าเสร็จเขาก็บอกกับเสี่ยวฮวนว่าจะเข้าป่าไปตัดฟืนเช่นเดิม ฝูฮวนก็พยักหน้ารับอย่างดี พลางเดินออกไปส่งสามีถึงหน้าบ้าน
“สามี รอสักครู่” ฝูฮวนเพิ่งนึกได้ว่าตนเองยังไม่ได้ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีจึงเอ่ยเรียกสามีเอาไว้ อามู่ชะงักเล็กน้อยแต่ก็หยุดรอและหันหน้ามาทางภรรยา พลางส่งสายตาถามด้วยความสงสัย แต่ไม่นึกว่าคำตอบของนางจะเป็นการที่ฝูฮวนเมื่อเดินมาถึงอามู่ นางก็เขย่งปลายเท้าหอมไปที่ปลายคางของสามีอย่างแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยออกมา
“ข้ารอท่านกลับมาจากตัดฟืนนะเจ้าคะ”
ความจริงฝูฮวนกะจะหอมแก้ม แต่จนใจที่สามีของนางนั้นตัวสูงใหญ่เกินไป นางจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากแก้มมาเป็นปลายคางแทน ฝูฮวนไม่รอให้สามีตอบรับนางรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน สองแก้มแดงดังลูกตำลึง นี่เป็นครึ้งแรกที่นางกล้าหอมแก้มผู้ชายเชียวนะ
ทางด้านอามู่นั่นตัวแข็งไปแล้วเรียบร้อย เขาเหม่อลอยเดินออกจากบ้านไปโดยลืมเอามีดไปด้วย มารู้สึกตัวอีกทีก็เดินไปได้ไกลจากบ้านมากโขแล้ว
ฟากของเสี่ยวฮวน หลังจากที่ปรับอารมณ์เขินได้แล้ว นางกวาดตามองไปทั้งบ้าน ปฏิบัติการทำความสะอาดจึงได้เริ่มขึ้น
“เอาล่ะ มาจัดการกับบ้านหลังนี้ให้สะอาดเอี่ยมดีกว่า”
