สามีข้าคือชายส่งฟืน

61.0K · จบแล้ว
Ocean Books
43
บท
23.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สาวห้าวอย่างมานีรัตน์ผู้คลั่งไคล้หลัวมโนในซีรีส์ย้อนยุคต่าง ๆ เคยมีความคิดว่าถ้าตนเองได้ย้อนเวลาเหมือนในละครที่ดูคงจะสนุกไม่น้อย เพราะเธอนั้นทำงานเป็นคนทดสอบเกมส์ต่าง ๆ จึงทำให้มีความมโนสูง ทว่าเมื่อได้มีโอกาสได้ทะลุมิติมาจริง ๆ ดันไม่ตรงกับที่คิดไว้ นอกจากจะไม่ได้เป็นนางเอกแล้ว มานีรัตน์ยังมาเข้าร่างตัวประกอบที่ต้องตายในเจ็ดวันอีกด้วย งานนี้ไอ้หวานจะไม่ยอมตายทั้งที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรแน่นอน เหลียวซ้ายแลขวา หวยจึงมาตกกับพี่ชายคนส่งฟืนนี่แหละ พระเอกขี่ม้าขาวของไอ้หวาน แต่...อะไรมันจะง่ายดายปานนั้นหรือ?

นิยายรักโรแมนติกนิยายย้อนยุคข้ามมิตินิยายรักโรแมนติกจีนโบราณฟินๆ

1 ฟื้นขึ้นมาก็ถูกขังซะแล้ว [1]

ซ่า!!!!

“ฝูฮวนเจ้าตัวขี้เกียจเจ้าจะนอนหลับไปถึงเมื่อไหร่หรือกำลังฝันหวานคิดว่าตนเองเป็นเจ้านายข้าแล้ว”

เสียงก่นด่าประชดประชันที่ผ่านเข้ามาในหู บวกกับความหนาวเย็นจากการถูกน้ำสาด ทำให้ มานีรัตน์ วิรุณหะ หรือน้ำหวาน ฝืนลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับด่ากลับอย่างไม่เกรงใจใครเช่นกัน

“ไอ้พวกบ้า เล่นอะไรกันเนี่ย หนาวโคตรโคตร ยังไม่สงกรานต์จะสาดน้ำทำไมหะ! คนจะหลับจะนอน ไม่รู้หรือไงว่าง่วงจะตายอยู่แล้ว” มานีรัตน์สบถออกมาอย่างหงุดหงิด พลางใช้หลังมือขยี้ตาไปสองสามที

“ฝูฮวนเดี๋ยวนี้เจ้ากล้าขึ้นเสียงใส่ข้าหรือ อาหลิงว่าแต่มันพูดว่าอะไร ข้าฟังไม่รู้เรื่อง”

จ้าวหยางซู คุณหนูรองของตระกูลเสนาบดีการคลัง ตวาดเสียงดังใส่ฝูฮวน บ่าวรับใช้ที่นางมักกลั่นแกล้งและทำร้ายร่างกายเมื่ออารมณ์เสียหรือไม่ได้ดั่งใจเสมอ ทั้งที่ฟังไม่รู้เรื่องว่านางบ่าวคนนี้พูดอะไร แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้ว มันถึงกับกล้าขึ้นเสียงใส่นางซึ่งเป็นคุณหนูของจวน

“บ่าวก็หารู้ไม่เจ้าค่ะ” อาหลิง บ่าวรับใช้คนสนิทของคุณหนูรองเอ่ยตอบอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เนื่องจากกลัวว่าตนเองจะตอบคำถามอะไรผิด แล้วจะต้องกลายเป็นที่รองรับอารมณ์คุณหนูรองคนนี้ไปอีกคน

“ใคร โห! น้องสาวสวยจัง”

มานีรัตน์หลังจากที่ตื่นเต็มที่ สองตาของก็เธอมองเห็นหญิงสาวใบหน้าขาวอมชมพู สวมชุดและแต่งหน้าทำผมคล้ายหญิงสาวในซีรีส์ที่เธอชอบดู ชุดสีชมพูไล่สีจากอ่อนไปเข้ม ทอดรับกับเอวคอด ข้างเอวยังมีเชือกถักสวยงามห้อยอยู่ สาวน้อยคนนี้กำลังยืนสองมือเท้าเอวด่าเธออยู่ ถึงกับทำให้มานีรัตน์เผลออุทานชื่นชมออกมา

“แต่ทำไมปากเสียและกิริยาไม่น่ารักเลย นี่พวกพี่อาทิตย์ถึงกับจ้างคอสตูมมาอำกันเลยเหรอ แสดงเก่งมาก พี่สาวคนนี้ยอมแล้วจร้า” มานีรัตน์ยังคงไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นไม่ได้อยู่ที่ห้องพักในคอนโดของตนเองอีกต่อไปแล้ว

เธอคิดว่าเป็นเหล่าเพื่อนที่จ้างสาวแต่งคอสตูมจีนมาอำตนเอง โดยเฉพาะอาทิตย์ที่รู้ว่าเธอคลั่งไคล้ซีรีส์จีน ที่มีพระเอกหล่อ ๆ เท่ห์ ๆ และเย็นชาขนาดไหน เอาน่าใคร ๆ ก็เป็นติ่งหลัวมโนกันทั้งนั้น

“เสี่ยวฮวน อย่าลามปามคุณหนูรอง” อาหลิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยเตือนเสียงเบา

“โอ้ย เล่นใหญ่ไฟกระพริบเลยเหรอ แม้แต่คำพูดยังถอดแบบมาเหมือนเดะ” มานีรัตน์เอ่ยขึ้นพลางหัวเราะออกมาน้อย ๆ

“เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือฝูฮวน พูดอันใดข้าไม่เห็นรู้เรื่อง สงสัยจะหัวกระแทกจนเสียสติไปแล้วเป็นแน่ เช่นนั้นก็จงสงบสติอารมณ์ของเจ้าเสีย ข้าใจดีกับเจ้าแล้วนะ เจ้าจะได้ไม่เหงา ทั้งยังให้เจ้าได้อยู่ที่เดียวกับพ่อแม่เชียวนะฮ่า ฮ่า ฮ่า”

จ้าวหยางซูพูดแล้วก็บอกอาหลิง บ่าวอีกคนให้ปิดประตูขังฝูฮวนไว้ในห้องเก็บฟืนพร้อมทั้งสั่งงดข้าวและน้ำเช่นเคย

“หึ! ค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย คอยดูเถอะพี่ใหญ่ ข้าจะต้องแย่งองค์รัชทายาทจากท่านมาให้ได้” จ้าวหยางซูเอ่ยขึ้นพลางยกยิ้มชั่วร้ายอย่างหมายมาดในความคิดของตนเอง

สาเหตุที่ทำให้จ้าวหยางซูอารมณ์เสียเนื่องจากนางแอบได้ยินบิดาคุยถึงเรื่องงานหมั้นหมายของจ้าวหยางซินพี่สาวคนโต บุตรของฮูหยินใหญ่กับองค์รัชทายาท นางถึงกับจิกเล็บระงับความโกรธเอาไว้ก่อนจะถอยออกมา หวังไปให้ไกลจากที่ตรงนั้น นางผิดอันใด เพียงเกิดมาช้ากว่าแค่สองเดือนเท่านั้นหรือ หรือเพียงเพราะเป็นลูกของฮูหยินรองถึงไม่มีสิทธิ์เป็นคู่หมั้นหมายขององค์รัชทายาท จ้าวหยางซูมารู้สึกตัวอีกทีก็เดินมาในส่วนของที่พักของบ่าวรับใช้แล้ว พอเห็นห้องเก็บฟืนก็นึกขึ้นได้ว่า

จะทำเช่นไรถึงจะสามารถระงับความโกรธของตัวเองลง ความโมโหจึงมาลงกับฝูฮวน บ่าวรับใช้ที่ไร้ซึ่งปากเสียง ทนมือทนเท้านางเป็นที่สุด