บท
ตั้งค่า

3 ส่งฟืนตอนดึกนี่นะ [2]

“นี่ เจ้าน่ะ ดึกดื่นป่านนี้แล้วมาทำอะไรหรือ”

“ข้ามาส่งฟืน เจ้าไม่เห็นหรือ” อามู่เอ่ยตอบพลางชี้มือไปยังฟืนหอบหนึ่งที่หล่นอยู่บนพื้นไม่ไกลจากที่ทั้งสองคนยืนอยู่มากนัก

“อ๋อ เป็นเช่นนั้น ข้าขอตัวก่อนนะ” ฝูฮวนร้องรับอย่างเข้าใจ พลางเอ่ยขอตัวเพื่อจากไปทันที

น่าสงสัยยิ่งนัก อามู่คิดพลางมองหญิงบ่าวจวนนี้ไปอย่างไม่คลาดสายตา

ทางด้านฝูฮวนเมื่อเดินจากมาจึงตรงดิ่งไปยังห้องครัว นางฉลาดพอที่จะไม่เข้าไปอย่างกระโตกกระตาก เมื่อมองลู่ทางทุกอย่างเสร็จแล้ว ปรากฏว่าไม่มีบ่าวแม้แต่คนเดียวที่ห้องครัว ฝูฮวนจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ

พลางเปิดประตูเข้าไปในห้องครัว นางถึงกับลงทุนไปที่เก็บเสบียงเพื่อดูอาหารที่เหลือ โชคดีมีอาหารที่เย็นชืดอยู่ในหม้อนึ่งสามสี่จาน

ด้วยความหิวถึงแม้มันจะเย็นไปหน่อยแต่ฝูฮวนก็ไม่บ่น เพราะมีกินก็ยังดีกว่าอดตาย จะให้นางก่อไฟทำอาหารก็คงได้ปลุกให้ทุกคนในจวนออกมาจับนางไปโบยตายสิไม่ว่า

ระหว่างที่กำลังจัดแจงเอาอาหารออกมาจากหม้อนึ่งและนั่งลงตรงโต๊ะสำหรับเตรียมวัตถุดิบที่อยู่กลางห้องครัวใหญ่ เสียงฝีเท้าที่เดินตรงมาทำให้หัวขโมยจำเป็นต้องเงยหน้าออกไปมอง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้จุดตะเกียงแต่แสงจันทราก็ส่องเข้ามาให้พอเห็นใบหน้าได้ ก่อนจะพลูลมหายใจอย่างโล่งอก เพราะเป็นชายส่งฟืนที่เป็นผู้เดินเข้ามา

“โธ่ เจ้าทำให้ข้าตกใจแทบแย่ นึกว่าหทารเดินยามเสียอีก แล้วเจ้ามาที่ห้องครัวด้วยเหตุใดหรือ” ฝูฮวนเอ่ยตำหนิชายส่งฟืนออกไปเบา ๆ พลางยกมือลูบหน้าอกตนเองอยู่สองสามที

“หรือว่าเจ้าหิว มา ๆ มานั่งตรงนี้ เดี๋ยวข้าจะแบ่งอาหารให้ มันเย็นหน่อยนะแต่ทว่าก็เป็นของดีทั้งนั้น” ฝูฮวนว่าแล้วก็ตบลงไปยังเก้าอี้ ข้าง ๆ ตนเอง

อามู่ได้ยินดังนั้นจึงเดินไปนั่งข้าง ๆ บ่าวตัวน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เสี่ยวฮวนเมื่อเห็นว่าชายส่งฟืนนั่งลงดีแล้วจึงลุกขึ้นไปหยิบจาน จัดอาหารในหม้อนึ่งสองสามอย่างใส่ลงบนจาน ก่อนจะถือกลับมาวางไว้ตรงหน้าชายส่งฟืนอย่างเบามือ

“อย่างที่ข้าบอกไป มันเย็นหน่อยนะ ความจริงแล้วข้าทำอาหารได้ ข้าทำอาหารอร่อยด้วยนะ แต่ถ้าหากข้าจุดไฟทำอาหารละก็ทหารเดินยามต้องเดินมาตรวจดูเป็นแน่ เช่นนั้นก็ทนกินอาหารเย็นชืดไปก่อนนะ”

หลังกล่าวจบทั้งยังอวยตนเองไปอีกนิดหน่อยฝูฮวนก็นั่งลง ใช้ตะเกียบคีบอาหารในจานของตนเองกินต่อไปด้วยความเอร็ดอร่อย

“อืม ไม่นึกว่าจวนนี้จะมีของดีทั้งนั้น ต้องรีบกินตุนไว้ ไม่รู้จะได้กินอีกทีเมื่อไร เจ้าก็ด้วย รีบกินเร็วเข้า” เสี่ยวฮวนเอ่ยขึ้นมากับตนเอง พลางใช้ตะเกียบเคาะไปที่จานข้าวของอามู่

ชายส่งฟืนได้ยินดังนั่นจึงได้เพิ่มความเร็วในการคีบอาหารเข้าปากเพิ่ม เพียงไม่นานหญิงหนึ่งชายหนึ่งก็อิ่มจนพุงแปล้ อาหารที่อยู่ในหม้อนึ่งหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่จานเดียว

“กินหมดจานเช่นนี้ อร่อยล่ะสิ” ฝูฮวนเมื่อกินเสร็จแล้วนางจึงวางตะเกียบลงและเอ่ยถามคนร่วมกินมื้ออาหารคืนนี้ออกไป แต่ก็จนใจด้วยไร้เสียงอันใดเอ่ยตอบกลับมา

นอกจะไม่ตอบแล้ว เขายังลุกขึ้นเดินตรงออกไปจากห้องครัวโดยไม่พูดไม่จาอันใดแม้เพียงหนึ่งคำ

“ดะ...เดี๋ยวเจ้าน่ะ กินอาหารไปตั้งมากต้องตอบแทนข้ารู้ไหม เจ้ารอข้าสักครู่” ฝูฮวนเมื่อเห็นว่าคนส่งฟืนกำลังเดินออกจากห้องครัวไปก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองจะปีนกลับเข้าห้องเก็บฟืนยังไง มันไม่มีบันไดจึงได้เรียกชายส่งฟืนเอาไว้

ทางด้านอามู่เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกจึงได้ชะงักฝีเท้าหันกลับมาพลางทำสีหน้าเป็นคำถาม

“เจ้ารอข้าที่นี่สักครู่”

เสี่ยวฮวนไม่ตอบเพียงสั่งออกไปแบบนี้ แล้วรีบเก็บกวาดห้องครัว ล้างจานให้เรียบร้อย ไม่ถึงครึ่งจิบชานางก็ลากชายตัดฟืนมายืนอยู่ที่ตรงทางที่นางปีนออกมา

“ข้าปีนกลับขึ้นไปไม่ได้ เจ้าช่วยนั่งลงหน่อยข้าจะเหยียบบ่าเจ้าปีนขึ้นไป” เสี่ยวฮวนว่าแล้วก็บังคับกดชายร่างหนาตรงหน้า แต่ก็จนใจเมื่อขนาดร่างกายของนางนั้นแค่เพียงครึ่งเดียวของเขาเท่านั้น

“ข้าขอร้องเจ้า ช่วยข้าหน่อย”

เสี่ยวฮวนเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงวิงวอน อามู่ได้ยินเช่นนั้นจึงคิดในใจ เห็นแก่เจ้าที่เลี้ยงอาหารข้านะ เขาจึงย่อตัวลงประสานมือเข้าด้วยกัน เสี่ยวฮวนเห็นเช่นนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าชายตรงหน้าให้นางเหยียบไปบนฝ่ามือที่ประสานกันไว้นั่น นางไม่รอช้ารีบทำตามทันที เพียงไม่นานนางก็ปีนกลับเข้ามายังห้องเก็บฟืนได้อย่างปลอดภัย ส่วนอามู่ก็เร้นกายหายไปกับแสงจันทร์

“อะไรของเขา ปากอมพระอยู่หรือยังไง เอ๋! หรือว่าเขาจะขี้อาย ต้องใช่แน่ ๆ คงอายที่เป็นชายอัปลักษณ์แน่นอน แต่ว่า เขามาส่งฟืนตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วกลับมาตอนดึกอีกทำไม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel