4 แต่งงานกันเถอะ [1]
เช้าวันรุ่งขึ้นฝูฮวนตื่นนอนด้วยการปลุกของพี่สาวเสี่ยวชิงในยามอิ๋น (03.00-04.59 น.) ถึงแม้ว่าเมื่อคืนนางจะได้กินอาหารไปจนอิ่มแปล้ แต่จากคนที่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อน แล้วต้องมาหาบน้ำทั้งวันทำให้ร่างกายยังคงเหนื่อยล้าอยู่มาก แต่ก็จนใจด้วยร่างนี้เป็นเพียงบ่าวไม่สามารถทำตามใจตนเองได้
“เสี่ยวฮวน รีบลุกขึ้นเร็วเข้า”
“พี่อาทิตย์เหรอ ขออีกห้านาที” เสี่ยวฮวนได้ยินเสียงปลุกก็คิดว่าเป็นหัวหน้าที่มักปลุกให้นางกลับบ้านซึ่งบางครั้งก็หลับคาเกมส์
“เสี่ยวฮวน เจ้าต้องตื่นเดี๋ยวนี้ อยากโดนลงหวายอีกหรือ” เสี่ยวชิงรีบร้องเรียกเสียงดังขึ้นอีกเล็กน้อย
“ลงหวายเหรอ อะ โบยหรือเจ้าคะ”
เสียวฮวนได้ยินว่าต้องถูกลงหวายก็ลืมตาตื่นขึ้นมาเต็มที่ สติรับรู้ว่าตนเองนั้นไม่ได้อยู่ที่ทำงานอย่างที่เคย ส่วนเสี่ยวชิงก็ได้บ่นกับตนเอง
“เหตุใดเสี่ยวฮวนจึงดูแปลกไป”
หลังจากที่ล้างหน้าบ้วนปากเรียบร้อยแล้ว ฝูฮวนจึงได้มีโอกาสสอบถามถึงสาเหตุที่นางถูกปล่อยตัวในวันนี้
“เสี่ยวฮวนหนอเสี่ยวฮวน เจ้าลืมไปแล้วหรือไรว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันปักปิ่นคุณหนูรอง งานที่ต้องทำมีล้นจวน หากขังเจ้าไว้เปล่า ๆ แล้วใครจะมาช่วยพวกข้าทำงานกันเล่า นายท่านจึงให้พ่อบ้านมาแจ้งให้ปล่อยเจ้าตั้งแต่เช้าแล้ว” เสี่ยวชิงตอบแล้วก็เดินนำหน้าฝูฮวนตรงไปยังครัวใหญ่
“แล้ววันนี้เจ้ามาช่วยท่านป้าจูกับข้าในครัว เจ้าต้องไปขอบคุณป้าจูที่ขอร้องให้เจ้าจากท่านพ่อบ้านเองเชียวนะ” เสี่ยวชิงลดเสียงลงกระซิบบอกกับบ่าวตัวน้อยที่นางนั้นรักและสงสารเป็นอย่างมาก
“ขอบคุณพี่เสี่ยวชิง ขอบคุณท่านป้าจู ข้าสัญญาจะตอบแทนให้ดีเจ้าค่ะ”
“เสี่ยวชิง เสี่ยวฮวนมาแล้วหรือ พวกเจ้าสองคนมานี่ มาช่วยกันพับนกมงคลในถาดนี้ให้หมด” เป็นท่านแม่นมเหยาที่ลงมากำกับการทำงานภายในเรือนบ่าวแห่งนี้ ทั้งสองบ่าวสาวจึงหันหน้าไปรับถาดที่ใส่อุปกรณ์พับนกมงคลมานั่งอยู่ตรงโต๊ะว่างในห้องครัวที่ห่างออกมาจากเตาไฟอยู่มาก
เสี่ยวชิงกับฝูฮวนพับนกมงคลยังได้ไม่ถึงหนึ่งตัวก็มีเสียงเอะอะมาจากในห้องเก็บเสบียง เสี่ยวชิงจึงกระซิบถามท่านป้าคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ
“ป้าหู เสียงเอะอะอะไรหรือเจ้าคะ”
“ก็จะอะไรเสียล่ะ เมื่อคืนมีคนมาแอบกินอาหารในหม้อนึ่งที่ต้องเตรียมให้ไว้ต้อนรับท่านกงกงที่มาจากตำหนักองค์รัชทายาท บ่าวที่ดูแลห้องเสบียงเลยโกรธและคงต้องถูกลงโทษอย่างหนัก นี่ถ้าไม่ติดว่าเสี่ยวฮวนถูกขังในห้องเก็บฟืน พวกนางคงโทษว่าเป็นเสี่ยวฮวนที่แอบมาขโมยเอาอาหารมากินเป็นแน่”
“แล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่าเจ้าคะ” เสี่ยวชิงถามต่อ
“อาหารที่หายไปเป็นกุ้งมังกร ซึ่งเรื่องราคาแพงย่อมไม่ใช่ปัญหาเพราะจวนเสนาบดีมีเงินทองมากมาย แต่กว่าเรือทะเลจะเข้ามาเทียบท่านั้นคงอีกนาน จึงเป็นปัญหาใหญ่เมื่อของที่หายไม่ใช่อาหารธรรมดา” นางหูเอ่ยตอบด้วยเสียงกระซิบเช่นกัน แต่ก็ดังพอให้ฝูฮวนได้ยินอย่างชัดเจน
หญิงสาวที่ถูกกล่าวถึงกำลังตัดกระดาษถึงกับเผลอทำมีดบาดนิ้วเนื่องจากสะดุ้งขึ้นสุดตัว
