3
“แต่ฉันจองเอาไว้แล้ว…… ดูนี่สิคะว่าเข็มขัดเส้นนั้นมันเซ็ตเดียวกับรองเท้าคู่นี้สีเฉดเดียวกันเป๊ะใครที่ไหนจะไม่ซื้อไปด้วยกัน.....” เพราะไม่อยากให้มันหลุดมือไป เธอจึงแถไปข้าง ๆ คู ๆ เรื่องชักจะยากขึ้น เมื่อเห็นสกิลการแสดงแสร้งทำเป็นพูดดีมีรอยยิ้มเจืออยู่บนใบหน้าตลอดเวลาแต่ไร้น้ำใจ….จริงสิ....จำได้แล้วว่าอีกฝ่ายคือไลลานางแบบสาวที่ผู้คนให้ความสนใจว่ากันว่าเธอมาจากตระกูลผู้ดีเก่าคงมีคนปูพรมให้เดินไม่ต่างจากเธอกระมัง.......ว่ากันว่าเพราะอาศัยนามสกุลเป็นแต้มต่อทำให้เธอยืนหยัดอยู่ในวงการมาหลายปี......
นางแบบสาวมองคนอายุน้อยกว่าด้วยแววตาเปล่งประกายรื่นรมย์คงจะสนุกดีไม่น้อยถ้าได้แกล้งปั่นหัวแม่สาวน้อยเอาแต่ใจดูว่าจะมีฤทธิ์เดชมากแค่ไหน
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ส่งรองเท้ามาสิคะ ฉันซื้อเอง” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานประหนึ่งว่าเธอคือผู้เสียสละเพื่อที่จะให้รองเท้าและเข็มขัดได้อยู่เคียงคู่กันตลอดไป......
“อะไรนะ !...คุณนั่นแหละที่ต้องส่งเข็มขัดเส้นนั้นมาให้ฉัน” ปาริมากลอกตามองบน...... อย่างนี้ก็ได้เหรอ...... จึงตอบกลับไปเสียงแข็งรู้สึกเหมือนโดนกลั่นแกล้ง...ยัยไล่ล่าคนนี้เธอตั้งใจแกล้งฉันแน่ ๆ รู้สึกหมั่นไส้เลยเปลี่ยนชื่อให้เสียเลย....ฮึ่ม....
“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มเดินตามยัยตัวปัญหามาห่าง ๆ พอดีมีสายเข้าเขาเลยได้โอกาสเว้นระยะกับเธอบ้าง พอคุยธุระจบก็รีบตามมาหวังว่าจะเร่งพาเจ้าหล่อนกลับไปส่งให้มันจบ ๆ ไป แต่กลับพบว่าเธอกำลังโต้เถียงกับผู้หญิงสองคนนั้น คนที่ตอนนี้ก็ยังนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
ปาริมาหันมองเจ้าของเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแถมมาพร้อมกับกลิ่นของน้ำหอมแบรนด์อะไรน๊าคุ้น ๆ .......คลับคล้ายคลับคลา........พอรวมเข้ากับชุดสูทสุดเนี๊ยบผมเผ้าไม่กระดิกบุคลิกแบบนี้...ท่านประธานชัด ๆ ......เฮ้ย ! ฉันจะไปยุ่งกับเขาทำไมวะเนี่ย.......หญิงสาวรีบดึงสายตากลับจึงได้เห็นคุณนางแบบใจดำเดินเชิดระเหิดระหงย้ายตัวเองมาเกาะแขนของชายหนุ่มผู้มาใหม่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ พูดจาอ่อนหวานขึ้นมาทันทีสงสัยยัยนี่คงเตรียมลงละครเร็ว ๆ นี้เป็นแน่....เฮอะ !...ก็แค่สูงกว่าเธอหน่อยนมใหญ่กว่าเธอนิด.....ชิ ! .......ปาริมาแอบค่อนขอดปนอิจฉาหน่อย ๆ ความจริงเธอชอบอีกฝ่าย ชอบบุคลิกท่วงท่าอันมั่นใจสมกับเป็นสาวยุคใหม่จริง ๆ แต่ต่อไปนี้คงลาขาด.....
“คุณปัตย์ขา......คือว่าไลลากำลังจะซื้อรองเท้าคู่นั้นเพราะมันเข้ากันกับเข็มขัดเส้นนี้น่ะค่ะแต่ว่าผู้หญิงคนนี้เค้า.................” ไลลาชิงฟ้องเป็นเด็ก ๆ ขนาดตัวเองยังจะอ้วกกับจริตนางร้ายฝึกหัด ถึงอย่างนั้นเธอก็กระชับวงแขนที่คล้องกันไว้เพื่อประกาศความเป็นเจ้าของท่านประธานบริษัทเอทีพริ้นเซส ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางรายใหญ่ที่สาว ๆ ต่างจ้องเขาตาเป็นมัน ที่สำคัญเธอทำเพราะอยากรู้ว่าสองคนนี้เป็นอะไรกันแน่ หรือว่าเขาแอบปิ๊งยัยเด็กคนนี้.....
“ช่างกล้าฟ้องเนอะ...... ทำไมฉันต้องยอมให้คุณด้วยไม่ทราบ .....” ปาริมากอดรองเท้าไว้ในอ้อมแขนหวงแหนดั่งจงอางหวงไข่ เรื่องอะไรล่ะฉันอุตส่าห์ยืนพิจารณามาตั้งนาน มาทีหลังยังจะฉกไปหน้าด้าน ๆ ถือว่ามีชื่อเสียงแล้วไงเล่า.....หญิงสาวมองคู่กรณีด้วยสายตาวาววับ
“งั้นพวกคุณก็เลือกเอาใหม่ก็แล้วกัน” อธิปัตย์ต้องการตัดบทให้จบ ๆ ไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าใครผิดใครถูกรู้แต่ว่าต้องทำเวลาให้เร็วที่สุดเพราะเขาเสียเวลามามากเกินไปแล้ว หลังจบมื้ออาหารนึกว่าจะทางใครทางมันยังจะถูกลากมาเดินซื้อของอีกครั้นจะปฏิเสธ คุณย่าก็โทรมากำชับให้ส่งไลลาถึงบ้านให้ได้....เขาจะตามใจสักวันก็แล้วกัน.....แค่วันนี้วันเดียวให้ตายสิ.....
เสียงของชายหนุ่มที่ปาริมาชื่นชมว่าทุ้มนุ่มนวลตอนนี้มันช่างบาดจิตคิดจะใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายหรือไงวะ....ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกันโว้ย !....ปาริมาหันหน้ากลับมามองคู่ผีเน่ากับโรงผุตาเขียวปั๊ด.....โดยเฉพาะคุณนางแบบที่ลอยหน้าทำท่าราวกับผู้ชนะ...กวนประสาทจริง ๆ
“นี่คุณ...สมองฝ่อหรือเปล่าเนี่ยแทนที่จะบอกให้แฟนคุณคืนเข็มขัดเส้นนั้นมาให้ฉัน....คิดว่าเงินของพวกคุณใหญ่นักหรือไง.....” ปาริมาเท้าสะเอวอย่างเหลืออดแถมยังตะคอกใส่ตั้งใจเอาเรื่องให้ถึงที่สุดพอดีกับผู้ชายคนนั้นมีสายเรียกเข้าเขาจึงไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของเธออีก
“ฮัลโหล......” อธิปัตย์รับสายก่อนจะหันมาบอกเสียงเบาพร้อมกับใช้มือป้องโทรศัพท์เอาไว้ “พวกคุณตกลงกันเองก็แล้วกัน...เร็ว ๆ เข้าล่ะ” ประโยคสุดท้ายเขาเจาะจงพูดกับไลลาก่อนจะแยกตัวไปคุยนอกร้านโดยไม่สนใจผู้หญิงสองคนที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่แม้แต่น้อย……ไร้สาระ....
