26
ภายในคอนโดกว้าง ระดับกลาง ๆ สำหรับไลลาแล้วทุกการใช้จ่ายของเธอต้องสมเหตุสมผลแม้ว่าสมบัติเก่าของมารดาที่คนเป็นพ่อยกให้เธอทั้งหมดทั้งเงินสดและที่ดินก็มีไม่น้อยรวมกับรายได้ที่เธอหาเองตั้งแต่อายุยังไม่เต็มยี่สิบดีด้วยซ้ำทำให้เธอมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง เธอถึงได้ไม่คิดจะพึ่งพาบิดาแต่อะไรที่ท่านให้มาเธอก็รับไว้ไม่ได้หยิ่งหรือว่ากินศักดิ์ศรีเป็นอาหารช่วงนี้เก็บตุนไว้ได้มากเท่าไรยิ่งดี เพราะเธอมีแผนที่จะหยุดทำงานสักสองสามปีหรือไม่ก็อาจจะต้องเปลี่ยนอาชีพไปเลยก็ได้ ตอนนี้เธออายุยี่สิบเจ็ดแล้วหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนก็คงสามสิบนู่นแหละที่เธอวางแผนว่าจะกลับมาทำงานอีกครั้ง
“แกตัดสินใจแน่นอนแล้วใช่ไหมที่จะทำแบบนี้” แน็ตตี้ผู้จัดการส่วนตัวถามเป็นครั้งที่เท่าไรก็จำไม่ได้เขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ไลลาจะทำครั้นเมื่อนางแบบสาวตัดสินใจแน่วแน่แล้วก็ต้องยอมรับ
“แน่ยิ่งกว่าแน่.......ว่าแต่พี่แน๊ตตี้คงต้องเริ่มมองหาเด็กใหม่แต่เนิ่น ๆ แล้วล่ะค่ะ”
“ฮึ ! คิดจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวหรือยะ ฉันไม่ยอมหรอก” ผู้จัดการ คู่ทุกข์คู่ยากว่าให้พลางค้อนปะหลับปะเหลือกไม่คิดว่ายัยเด็กนี่จะมีความคิดพิลึกกึกกือขนาดนี้
“ไม่ใช่อย่างนั้นพี่เพียงแต่ว่า พอหนูไม่ได้ทำงาน รายได้ก็จะหดหายน่ะสิ” ไลลาแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นเฉพาะกับคนสามคนเท่านั้นก็คือมารดาและคุณย่าผู้ล่วงลับ ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็พี่แน๊ตตี้คนเดียวเท่านั้นแหละ
“ช่างปะไร ฉันรวยย่ะ” ผู้จัดการสาวสองตอบเสียงสะบัดพร้อมส่งค้อนให้คอแทบหัก หากวันนั้นเธอไม่ได้มาเป็นผู้จัดการให้ไลลาไม่แน่ว่าวันนี้เธอจะอยู่ดีกินดีแบบนี้หรือเปล่า ถึงแม้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่ก็รักไม่ต่างจากน้องสาวแท้ ๆ เลยก็ว่าได้ คนภายนอกอาจจะมองว่าไลลาเข้มแข็งเป็นสาวมั่นแต่ใครเลยจะรู้ว่าแท้จริงผู้หญิงคนนี้เปราะบางน่าสงสารเป็นที่สุด
“พี่แน็ตตี้.....สามปีเลยนะคะ” เธอไม่อยากเห็นแก่ตัวเพราะถ้ามีพี่เขาอยู่ด้วยเธอจะอุ่นใจเหมือนทุกครั้งยิ่งต้องเลี้ยงเด็กแล้วล่ะก็ ไอ้ที่คิดว่าทำคนเดียวได้มันอาจจะไม่ง่าย ถึงแม้ว่าเธอจะเตรียมตัวศึกษามาแล้วอย่างดีก็เถอะ
“สามหรือสิบปีก็ช่าง ยังไงฉันก็จะตามไปช่วยเลี้ยงหลานของฉัน......ว่าแต่หล่อนจับพ่อของลูกให้ได้ก่อนเถอะย่ะแล้วค่อยคิดเรื่องอื่น” แน็ตตี้คิดอย่างนั้นจริง ๆ เพราะเธอก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวมานานแล้วตั้งแต่ตัดสินใจเลือกที่จะเป็นแบบตัวเองทางบ้านที่เหลือแต่พ่อและแม่เลี้ยงกับน้อง ๆ อีกสามคนก็ตัดขาดจากเขาทันทีไม่เคยมีใครมาดูดำดูดีกันหลายปีแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น หนูไม่เอาเปรียบพี่หรอกแต่ว่าจะจ่ายเท่าเดิมก็ไม่ไหวอ่ะ”
“หยุดพูดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ กับฉันได้แล้ว เล่าเรื่องวันก่อนที่ไปทานข้าวบ้านคุณหญิงให้ฟังหน่อยดิ....” ผู้จัดการสาวสองขยับเข้ามาหาแววตาเป็นประกายหากหลานได้เบ้าหน้าของพ่อแม่คู่นี้แล้วล่ะก็ อีแน็ตตี้จะหายใจรอเป็นผู้จัดการซุป’ตาร์อินเตอร์ให้ได้คอยดูสิ.....
“คืออย่างนี้ค่ะ....................” ไลลาเล่าไปขำไปเมื่อนึกถึงหน้าว่าที่พ่อของลูกที่หล่อนคัดสรรจับจ้องว่าต้องเป็นเขาแล้วหัวเราะจนหยุดไม่ได้ แต่เรื่องจูบเธอเก็บเป็นความลับเหยียบซะมิดแม้แต่ตัวเองยังไม่อยากนึกถึง
“ต๊าย ! แล้วแบบนี้คุณหญิงไม่เขม่นแกแย่เหรอห๊ะ ช่างกล้าไปแกล้งหลานชายสุดที่รักของเขาน่ะ”
“คงไม่หรอกมั้ง น่าจะโมโหหลานชายมากกว่าที่กล้าพาแฟนปลอม ๆ มาหลอกท่าน”
“โอ๊ย ! พ่อคุณเอ้ย....ช่างคิดได้เนอะว่าที่สามีแกน่ะเชยระเบิดระเบ้อไหวไหมไลลา......”
“บ้าน่า....เขาออกจะน่ารัก......” ไลลายิ้มกริ่มสงสัยว่า ไอ้ความผิดหวังเสียใจและเรื่องร้าย ๆ ในชีวิตที่ถาโถมเข้ามาตั้งแต่เด็กคงจะหมดโควตาถึงเวลาที่เธอจะพบกับความสุขสมหวังกับเขาเสียที
......ครืด ๆ ๆ ...... ไลลารับโทรศัพท์จากภัทรบอกว่ารออยู่ที่ผับย่านทองหล่อแถมยังเจออธิปัตย์นั่งอยู่คนเดียวด้วย....หญิงสาวคุยต่ออีกนิดหน่อยก็รีบวางสายและรีบร้อนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกมาด้วยลุคสาวสวยสุดเซ็กซี่
“อ้าว ! นั่นแกจะไปไหนไลลา สองวันนี้งดรับงานนี่นา” กำลังนั่งคุยกันอยู่ดี ๆ จู่ ๆ อีกฝ่ายก็ลุกขึ้นไปแต่งตัวใหม่และกลับออกมาคว้ากระเป๋าจะออกไปข้างนอกเสียอย่างนั้น.....
“ไปหาพ่อของลูกค่ะ.......ช่วยเป็นปาปารัสซี่ให้หน่อยน๊า.....เดี๋ยวโทรบอก” ไลลายิ้มอย่างมีเลศนัยอีกฝ่ายก็ส่งยิ้มแบบรู้กันก่อนจะออกจากห้องไปอย่างรีบร้อนไม่ยอมให้เสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว
