Chapter 4 แล้วเจอกันนะนิลิน
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
@ งานมอเตอร์โชว์
นักธุรกิจหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาดุดัน กล่าวเปิดงานจัดแสดงรถนำเข้ารถสปอร์ตหรูโฉมใหม่ ของค่ายรถยนต์ RM CAR ด้วยท่าทางมาดขรึม และเมื่อชายหนุ่มกล่าวเปิดงานเสร็จ ชายหนุ่มก็ยืนดูผู้คนที่มาร่วมงานอย่างคับคั่งด้วยความพึงพอใจ เพราะแต่ละคนที่มาร่วมงานล้วนแต่เป็นเศรษฐีกันทั้งนั้นเพราะรถสปอร์ตแต่ละคันมีมูลค่าคันละสิบล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะต้องเป็นระดับเศรษฐีเท่านั้นถึงจะสั่งจองรถของ RM CAR ได้
“กูจองรถสปอร์ตสีแดงคันนี้ กูจองไว้ให้ลูกกู” ไอ้ภาคินเอ่ยขึ้น
“ลูกมึงยังไม่คลอดเลยไอ้ห่าคิน” ไอ้วาโยเอ่ยขึ้น พร้อมส่ายหัวไปมาเบาๆ ด้วยท่าทางเอือมระอาไอ้ภาคิน
“ถ้ามึงได้ลูกชาย กูให้รถสปอร์ตคันนี้กับมึงเป็นของขวัญรับหลานกูเลย” ผมเอ่ยขึ้นเสียงเรียบนิ่ง
“มึงพูดแล้วนะ ไอ้โรม” ไอ้ภาคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจ สายตาของมันตอนนี้ดูแพรวพราวมากเพราะรถสปอร์ตคันที่มันอยากได้มีมูลค่าสูงลิ่วเลยทีเดียวเพราะเป็นรถสปอร์ตพลังไฟฟ้ารุ่นแรกของอังกฤษ
“อืม” ผมตอบมันสั้นๆ
“แล้วมึงรู้ยังว่าลูกมึงเป็นเพศไหน?” ไอ้วาโยเอ่ยถามไอ้ภาคิน
“ยัง...เมียกูพึ่งจะท้องได้เดือนกว่าๆ เอง อีกอย่างเมียกูอยากรอลุ้นเอาตอนคลอดด้วย” ไอ้คินมันรักเมียเด็กของมันมาก ในเมื่อเมียมันอยากลุ้นเพศตอนคลอดมันก็ไม่กล้าขัดใจเมียมันหรอกครับ...ถึงมันจะอยากรู้เพศก่อนกำหนดคลอดก็เถอะ
“หึ...ยังไม่ทันจะแต่งงาน มึงก็กลัวเมียเด็กของมึงซะแล้วเหรอวะไอ้คิน” ไอ้วาโยพูดเย้ยหยันไอ้ภาคินทันที
“คะ…ใครกลัว กูแค่เกรงใจเมียกูโว้ย กะ…กูไม่อยากให้เมียกูเครียด ยิ่งเมียกูกำลังท้องอยู่ด้วย” ไอ้ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“หึ” ผมส่ายหัวและหัวเราะเบาๆ ให้กับท่าทางร้อนรนของไอ้ภาคิน
“เฮ้ย...นั่น น้องนิลินพริตตี้ชื่อดังนี่หว่า มึงจ้างน้องเขามางานนี้ด้วยเหรอวะไอ้โรม” เมื่อไอ้วาโยเอ่ยชื่อนิลิน หูของผมก็ผึ่งขึ้นทันที เพราะตอนที่ผมกล่าวเปิดงานผมเห็นพริตตี้เพียงแค่หกคนเท่านั้น ก่อนที่ผมจะรีบหันหน้าไปมอง จากนั้นดวงตาของผมก็เบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อเห็นเธออยู่ที่นี่ ใช่! เธอจริงๆ ด้วย...เป็นเธอจริงๆ ด้วยสินะ เธอดูสวยขึ้นกว่าเดิมมาก
“มึงมองเหมือนมึงจะกินน้องเขาทั้งตัวเลยนะไอ้โรม” ไอ้ภาคินเอ่ยขึ้น เมื่อมันเห็นผมเอาแต่จ้องมองนิลินไม่วางตา
“หึ” ผมยกยิ้มมุมปากมองร่างบางไม่วางตา จนกระทั่งนิลินเธอรู้ตัวว่ามีคนมองเธออยู่ และเมื่อเธอหันมาเจอผมเข้า ดวงตาเธอเบิกกว้างตกใจขึ้นทันทีแต่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น จากนั้นเธอก็ปรับเปลี่ยนสายตามองผมนิ่งๆ แล้วหันใบหน้าไปทางอื่น นิลินเธอทำเหมือนไม่รู้จักผม ให้มันได้อย่างนี้สินิลิน ผมขบกรามทันทีเมื่อเห็นเธอเฉยชาใส่ผมแบบนี้
“น้องพริตตี้คนนี้ หน้าตาดูคุ้นๆ ว่ะ เหมือนกูเคยเจอที่ไหน พวกมึงว่าไหม?” ไอ้ภาคินมันเอ่ยขึ้น แล้วหันมาถามพวกผมด้วยความสงสัย
“อืม…กูก็ว่าหน้าเธอดูคุ้นๆ แต่กูนึกไม่ออกว่าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน” ไอ้วาโยเอ่ยขึ้นอีกคน พร้อมกับทำท่าทางนึกคิดไปด้วย
“แล้วมึงล่ะไอ้โรม มึงมองเธอแบบนี้มึงรู้จักน้องเขาใช่ไหม?” ไอ้ภาคินเอ่ยถามผม
“อืม...กูรู้จักดีเลยล่ะ แล้วกูก็ต้องได้เธอด้วย” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มึงเอาจริงใช่ไหมวะ?” ไอ้วาโยหันมาถามผม
“อืม” ผมตอบไอ้วาโยเพียงสั้นๆ แค่นั้น
สองชั่วโมงผ่านไป
ไอ้วาโยและไอ้ภาคินก็ขอตัวกลับ ตอนแรกผมกะจะมาแค่เปิดงานและอยู่ดูงานแค่ชั่วโมงสองชั่วโมงแล้วผมก็กลับ แต่ผมต้องเลื่อนเวลาออกไป เมื่อผมต้องดักรอใครบางคนที่ผมตามหาเธอมาหลายปีซะก่อน และในระหว่างที่ผมกำลังรอเวลาเธอเลิกงาน ผมต้องหงุดหงิดอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเห็นผู้ชายหลายคนแวะเวียนไปยืนดูรถสปอร์ตคันที่นิลินยืนประจำอยู่
สักพักผ่านไป ผมเห็นเธอเดินออกจากบูธ จากนั้นนิลินเธอก็รีบก้าวขาเรียวยาวของเธอเดินไปลานจอดอย่างเร่งรีบเหมือนเธอกำลังจะหนีใครอย่างนั้นแหละครับ ผมจึงรีบเดินก้าวเท้าตามเธอไปติดๆ และจับไปที่แขนเรียวขาวของเธอทันที
หมับ!
“ว้าย..คุณเป็นใคร? แล้วมาจับฉันทำไมคะเนี่ย” เธอแกล้งจำผมไม่ได้ แต่น้ำเสียงที่เธอพูดออกมาเหมือนโกรธเกลียดผมเป็นชาติ
“หึ! เธอจำฉันไม่ได้อย่างงั้นเหรอ? นิลิน” ผมเลิกคิ้วยกยิ้มมุมปากถามเธอออกไป
“ค่ะ! ฉันไม่เคยรู้จักคุณ” เธอตอบผมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ถ้างั้นฉันต้องทวนความจำให้เธอแล้วละ”
“ปะ...อื้อ” เธอยังเอ่ยไม่จบประโยค ผมก็จับล็อกใบหน้าเรียวสวยไว้ ก่อนที่ผมจะก้มเอาปากหนาบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วง จากนั้นผมสอดลิ้นควานหาความหวานจากปากอวบอิ่มระเรื่ออมชมพู อืม! ปากเธอยังหวานเหมือนเดิมเลย ผมจูบเธอด้วยความโหยหาอยู่แบบนั้นอยู่นานหลายนาที ส่วนฝ่ามืออีกข้างของผมก็จับขยำก้อนหน้าอกขนาดใหญ่ของเธอผ่านเนื้อผ้าไปด้วย และเมื่อผมจูบเธอจนพอใจแล้วผมก็ถอนริมฝีปากหนาของผมออก
เพียะ! เพียะ!
“สารเลว! อย่ามายุ่งกับฉัน!” เธอฟาดฝ่ามือน้อยๆ ตบเข้าที่ใบหน้าของผมเต็มแรง ก่อนที่เธอจะพ่นคำหยาบคายด่าผมเสียงดังลั่น
“หึ! จากนี้ไปเธอคงต้องได้เจอคนเลวๆ แบบฉันอีกนานเลยละ…นิลิน” ผมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์และเอาลิ้นกระทุ้งแก้มไปมา มองเธอด้วยสายตาแทะโลม
“.....” เธอไม่เอ่ยอะไรออกมา แต่เธอกลับมองผมด้วยสายตาเกลียดชัง ก่อนที่เธอจะสะบัดตัวอย่างแรงจนหลุดพ้นจากพันธนาการของผม จากนั้นเธอก็รีบขึ้นรถอีโคคาร์คันเล็กของเธอแล้วขับออกไปจากตรงนั้นทันที
“แล้วเจอกันนิลิน…” ผมพูดไล่หลังมองตามรถที่เธอขับออกไปจนสุดสายตา...
