บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 แมงป่องพิษสีดำ   

“ธูปหอมเม็ดนี้ของข้าเป็นของที่ทำขึ้นมาพิเศษ ลองดูก็ไม่มีอันใดเสียหายสักหน่อย” เฟิ่งหมิงชียื่นให้กับกุ้ยกงกงไป   

กุ้ยกงกงจ้องมองมู่หรงเซียวทีหนึ่ง ถึงจะรับไว้แล้วเอาเข้าไปจุดไว้ในเตาจุดกำยาน 

ไท่ว่างหวงนอนหลับตาอยู่บนเตียง   

เฟิ่งหมิงชีเพิ่งฝังเข็มขับพิษเลือดหลายหยดออกมาให้เขา ร่างกายของเขาอ่อนแอจึงต้องค่อย ๆ ขับพิษให้เขาไปทีละนิด มิฉะนั้นจะทนไม่ไหว  

ตอนนี้เพิ่งทานโจ๊กรังนกเข้าไปแล้วก็นอนพัก  

ในเตากำยานค่อย ๆ มีกลิ่นหอมโชยออกมา ในอากาศมีกลิ่นหอมสดชื่นแผ่ซ่านอยู่เสี้ยวหนึ่ง

ผ่านไปไม่นานก็กระจายไปเต็มห้อง  

เฟิ่งหมิงชี มู่หรงเซียวและกุ้ยกงกง ทั้งสามคนยืนมองอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ  

“อ้า……แมงป่องพิษ!”  

กุ้ยกงกงเห็นแมงป่องพิษสีดำตัวหนึ่งคลานออกมาจากผ้านวมของไท่ว่างหวง ก็ตกใจจนกรีดร้องขึ้นมาทันที 

เสียงร้องของขันทีเหมือนเสียงของไก่ตัวผู้ เสียงทั้งแหลมและสูง  

คนฟังจนแสบหู เฟิ่งหมิงชีปิดหูไว้อัตโนมัติ พอเห็นแมงป่องพิษตัวนั้นก็รู้สึกขนหัวลุกซู่ไปหมด คิดไม่ถึงว่าจะมีคนโหดเหี้ยมได้เพียงนี้ ถึงกับแอบซ่อนแมงป่องพิษไว้ในผ้านวมของไท่ว่างหวง 

แมงป่องพิษตัวนั้นขนาดใหญ่เท่าประมาณนิ้วโป้ง แต่กลับมีพิษรุนแรงมาก  

โชคยังดีที่มีแค่ตัวเดียว ถ้าเกิดมีเยอะมาก ไท่ว่างหวงก็คงจะเสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว  

สายตาของมู่หรงเซียวมืดมนลง หยิบมีดสั้นออกมาแล้วเดินหน้าเข้าไปแทงแมงป่องพิษตัวนั้นจนตาย จากนั้นก็นำซากศพของแมงป่องพิษไปที่ห้องทรงงาน

ในเมื่อมีหลักฐานแล้ว งั้นก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าเรื่องที่ไท่ว่างหวงถูกวางยาพิษนั้นไม่เกี่ยวข้องกับจวนเลี่ยอ๋อง  

ฮ่องเต้ไม่ชอบขี้หน้าเขามาตลอด   

ตอนนี้ฮ่องเต้ยังไม่ได้แต่งตั้งรัชทายาท จึงอดไม่ได้ที่จะต้องคิดมาก

ซึ่งคิดว่าเขาเป็นคนสั่งให้เฟิ่งหมิงชีไปใกล้ชิดไท่ว่างหวง เพื่อที่จะแอบเอาใจไท่ว่างหวงไว้   

“กุ้ยกงกง ทำไมท่านถึงได้ขี้ขลาดเช่นนี้?” พอมู่หรงเซียวไปแล้ว เฟิ่งหมิงชีจ้องมองกุ้ยกงกงที่สีหน้าขาวซีดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา

กุ้ยกงกงลูบหน้าอกเล็กน้อย “หวางเฟย นั่นมันแมงป่องพิษนะ จะไม่ให้ข้าน้อยกลัวได้อย่างไร?”   

เฟิ่งหมิงชีจ้องมองไท่ว่างหวงทีหนึ่ง สายตาก็เคร่งขรึมลง “นี่ตกลงใครกันนะที่โหดร้ายมากขนาดนี้ ถึงมาทำร้ายไท่ว่างหวงแบบนี้ได้?!”   

แมงป่องพิษได้ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว มันสามารถควบคุมพิษของตัวเองได้ จึงไม่ทำให้ไท่ว่างหวงตายไปในทันที   

กุ้ยกงกงเดินหน้าเข้าไปกระชับผ้านวมให้ไท่ว่างหวงเล็กน้อย “ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบ หลายปีมานี้เจ้านายถูกโรครุมเร้าจนเหมือนตายทั้งเป็น กว่าหวางเฟยจะมารักษาจนเห็นผลได้ขึ้นมา และสามารถทำให้เจ้านายนอนหลับสบายได้สักตื่น แต่ใครจะไปรู้ว่าผ่านไปแค่คืนเดียวก็กลายเป็นแบบนี้ไปอีกแล้ว!”   

กุ้ยกงกงไม่ได้พูดให้ตรงจุด   

แต่เฟิ่งหมิงชีรู้สึกว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น 

ไม่ได้ต้องการจะต่อต้านนางกับไท่ว่างหวง งั้นก็ต้องต่อต้านจวนเลี่ยอ๋องแล้ว   

แคว้นเป่ยฉียังไม่ได้แต่ตั้งองค์รัชทายาท พอองค์ชายทุกคนพอเติบใหญ่ขึ้นก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นอ๋อง แล้วให้ย้ายออกจากพระราชวังไปสร้างจวนของตัวเอง  

ที่ฮ่องเต้ทำแบบนี้ก็เพราะยังไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งตั้งรัชทายาท   

ดังนั้นองค์ชายทุกคนจึงถูกแต่งตั้งให้เป็นอ๋องในราชวงศ์ ดูเหมือนจะไม่มีโอกาส แต่ทุกคนกลับมีโอกาสเหมือนกันหมด

เฟิ่งหมิงชีที่มีฐานะเป็นเลี่ยหวางเฟย เพราะมีวิชาการแพทย์แล้วได้ช่วยชีวิตไท่ว่างหวงในงานเลี้ยงเอาไว้ จึงได้รับความสนใจจากไท่ว่างหวง   

แล้วในเรื่องการแต่งตั้งองค์รัชทายาทนี้ ไท่ว่างหวงก็มีสิทธิ์มีเสียงอยู่ด้วยเช่นกัน   

ใครสามารถได้รับความสนใจจากไท่ว่างหวงได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้เข้ามาอยู่ในตำหนักตงกง  

เพราะว่าฮ่องเต้เป่ยอู่เป็นลูกกตัญญูคนหนึ่ง เขาเคารพนับถือไท่ว่างหวงมาก เรื่องที่จะแต่งตั้งรัชทายาทนี้จะต้องไปถามท่านแน่นอน งั้นถ้าไท่ว่างหวงสนใจใครมาก คนนั้นก็จะมีโอกาสสูงที่สุด 

มู่หรงเซียวไม่ได้รับความรักจากฮ่องเต้เป่ยอู่ ทีแรกเป็นคนที่ไม่มีโอกาสที่สุดแล้ว   

แต่ตอนนี้เพราะความเกี่ยวข้องกับเฟิ่งหมิงชี ไท่ว่างหวงจึงเริ่มสนใจเขาขึ้นมาแล้ว   

บวกกับเขามีผลงานออกมาเรื่อย ๆ และในมือมีอำนาจทหารอยู่ด้วย  

ไม่ได้เป็นเลี่ยอ๋องคนที่ไม่ได้รับความรักเมื่อสามปีก่อนแล้ว 

งั้นคนอื่น ๆ ก็จะต้องเริ่มหวาดระแวงแล้ว  

เฟิ่งหมิงชีครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่กระดกลิ้นขึ้นมา การแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทของเหล่าองค์ชายนี้อันตรายอย่างใหญ่หลวงจริง ๆ   

ไม่มีการคำนึงถึงสายใยความเป็นญาติเลยสักนิด แม้แต่เสด็จปู่ก็ยังลงมืออย่างโหดเหี้ยมได้ เห็นได้ชัดเลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจิตใจจะต้องโหดร้ายมากแน่

แล้วเมื่อสามปีก่อน จวนเฟิ่งอ๋องถูกล้างตระกูลและเนรเทศชั่วข้ามคืน จะมีความเกี่ยวข้องกันการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทนี้ด้วยหรือเปล่า?!   

มู่หรงเซียวนำหลักฐานมาที่ห้องทรงงาน  

“เสด็จพ่อ มีคนใส่แมงป่องพิษไว้ในผ้านวมของเสด็จปู่ แมงป่องพิษ เสด็จปู่”   

ฮ่องเต้เป่ยอู่จ้องมองแมงป่องพิษสีดำตัวนั้น แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป “ออกมาจากผ้านวมของไท่ว่างหวงจริง ๆ หรือ?”   

มู่หรงเซียวพูดขึ้นว่า “จริงพ่ะย่ะค่ะ ลูกเห็นเองกับตา”

องค์ชายใหญ่ฉินอ๋องมู่หรงโป๋ที่อยู่ด้านข้างหันมามองมู่หรงเซียวทีหนึ่ง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ริมฝีปากบางออกแล้วพูดอย่างยิ้มแย้มขึ้นว่า “น้องเจ็ดนี่ช่างมีความสามารถมากจริง ๆ”   

ฮ่องเต้เป่ยอู่เงยหน้าขึ้นไปมองเขาอย่างเย็นชาทีหนึ่ง ฉินอ๋องจึงไม่กล้าพูดอันใดอีกเลย ฮ่องเต้เป่ยอู่ถามมู่หรงเซียวต่อไปอีกว่า “เจ้าใช้วิธีอันใดล่อแมงป่องพิษออกมาหรือ?”   

มู่หรงเซียวพูดขึ้นว่า “เฟิ่งหมิงชีใช้ธูปหอมไล่แมลงล่อออกมา ธูปหอมนั่นตั้งใจทำขึ้นมาพิเศษ สามารถป้องกันยุงหรือแมลงต่าง ๆ ที่มีพิษได้พ่ะย่ะค่ะ”   

แววตาของฮ่องเต้เป่ยอู่หม่นหมองมองชัดเจน “ไปสืบต่อมาให้ข้า”   

วันนี้มีท่านอ๋องอยู่ในห้องทรงงานหลายคน ฉินอ๋องคนโต ฉีอ๋องคนรอง และยังมีอานอ๋องคนที่สาม ล้วนมาเพราะจะตรวจสอบคดีไท่ว่างหวงถูกวางยาพิษ

สุดท้ายฮ่องเต้กลับมอบภารกิจให้กับเลี่ยอ๋อง   

แล้วเลี่ยหวางเฟยก็เฝ้าดูอาการอยู่ที่ตำหนักหลงซิน

คนที่อยู่ใกล้ที่สุดมักได้ผลประโยชน์ก่อน หลักการนี้ทุกคนต่างก็รู้กันดี  

ท่านอ๋องทั้งหลายต่างหรี่ตาลงต่ำ พลังแอบพุ่งขึ้นมาอย่างลับ ๆ ในใจเกิดความสงสัยไปต่าง ๆ นานา  

……  

พอออกมาจากห้องทรงงาน   

ฉีอ๋องจ้องมองมู่หรงเซียว ยิ้มแล้วก็พูดขึ้นว่า “คิดไม่ถึงว่าน้องเจ็ดจะได้แต่งงานกับภรรยาที่มีความสามารถคนหนึ่ง ยินดีกับน้องเจ็ดด้วยนะ”  

มู่หรงเซียวพูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า “เสด็จพี่รองอย่าล้อเล่นกับข้าเลย”   

ผู้หญิงอย่างเฟิ่งหมิงชีถือว่าเป็นภรรยาที่มีความสามารถด้วยหรือ?!   

ไม่ก่อเรื่องให้เขาก็ถือว่าไม่เลวแล้ว!   

มู่หรงเซียวขอแค่นางไม่ก่อเรื่องที่ตำหนักหลงซินให้เขาก็พอแล้ว  

ฉินอ๋องกลับหึเสียงเย็นขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง “เจ้าเจ็ดนี่ช่างมีฝีมือดีจริง ๆ!”

มู่หรงเซียวมองไปทางฉินอ๋องด้วยใบหน้ามืดมน “ข้าไม่เข้าใจว่าเสด็จพี่ใหญ่หมายความว่าอย่างไร เสด็จพี่ใหญ่ช่วยพูดให้ชัดเจนด้วย!”   

“หึ ในใจเจ้าชัดเจนดี” ฉินอ๋องพูดแล้วก็พาคนเดินจากไปเลย   

ผู้คนเห็นฉินอ๋องเดินจากไปแล้ว ฉีอ๋องก็คลี่ยิ้มเล็กน้อยแล้วก็เดินจากไปด้วย  

อานอ๋องเดินเข้ามาตบไหล่มู่หรงเซียวเล็กน้อย “เสด็จพี่ใหญ่มีนิสัยชอบวางอำนาจจนเคยตัว น้องเจ็ดอย่าเอาไปใส่ใจเลย”   

มู่หรงเซียวจ้องมองอานอ๋องทีหนึ่ง พอนึกขึ้นมาได้ว่าอีกไม่กี่วันเขาจะรับเสิ่นชิวเยว่เป็นสนมแล้ว ใจของมู่หรงเซียวก็อัดอั้นขึ้นมาทีหนึ่ง “อืม ข้าขอยินดีกับเสด็จพี่สามล่วงหน้าเลย วันงานแต่งใหญ่ของท่านข้าคงจะไปร่วมด้วยไม่ได้”   

อานอ๋องรู้ว่าเขาตั้งใจจะหลบหลีก จึงยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ข้าจะปฏิบัติต่อชิวเยว่เป็นอย่างดี เจ้าวางใจเถอะ”   

จิตใจมู่หรงเซียวเหมือนโดนทิ่มไปทีหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อแล้วจะจากไปด้วยสีหน้าย่ำแย่ ไม่อยากสนใจเขาอีก  

อานอ๋องกลับทำเหมือนมองไม่เห็นสีหน้าที่ย่ำแย่ของเขา ดึงตัวเขาไว้ “เรื่องที่ชิวเยว่ถูกพิษเมื่อคราวที่แล้ว เจ้ายังไม่ได้ให้เฟิ่งหมิงชีมาให้คำอธิบายสักครั้งเลยนะ!”   

“นางโหดเหี้ยมขนาดนี้ เจ้ากลับไปไม่ได้ลงโทษนางเลยหรือ?”   

มู่หรงเซียวหยุดลงแล้วจ้องมองเขาด้วยความเย็นชา “ไม่ได้”   

“อ้า! เพราะอันใดล่ะ? นางทำร้ายชิวเยว่เช่นนี้ ทำไมเจ้ายังไม่ลงโทษนางอีก!” อานอ๋องยังคงรู้สึกว่ามู่หรงเซียวควรจะลงโทษเฟิ่งหมิงชีให้หนัก เพื่อแก้แค้นให้กับเสิ่นชิวเยว่ 

แต่ผลปรากฏว่ามู่หรงเซียวกลับไม่ได้ทำแบบนั้น เรื่องนี้ทำให้อานอ๋องรู้สึกเหลือเชื่อมาก

ในใจมู่หรงเซียวยิ้มเย็นขึ้น แล้วลูบหน้าขึ้นมาอัตโนมัติ “นางช่วยชีวิตเสด็จปู่ไว้ ทำคุณงามความดีครั้งแล้วครั้งเล่า มีเสด็จปู่คอยหนุนหลังอยู่ ตอนนี้ข้าไม่กล้าลงโทษนางหรอก”   

อานอ๋องครุ่นคิดดูแล้วก็ใช่ จึงถอยหลังไปก้าวหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “งั้นให้เฟิ่งหมิงชีไปขอโทษเยว่เอ๋อร์ที่บ้านตระกูลเสิ่น เรื่องนี้ก็จะถือว่าแล้วกันไปก็แล้วกัน น้องเจ็ดเจ้าคิดเห็นอย่างไรบ้าง?!”

มู่หรงเซียวเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างเย็นชาทีหนึ่ง “ถ้าเสด็จพี่สามมีปัญญาทำให้นางไปขอโทษที่บ้านตระกูลเสิ่นได้ ข้าก็ไม่ขัดขวางท่านหรอก”  

อานอ๋องรีบพยักหน้าขึ้นมาอย่างดีใจ “ได้ งั้นข้าจะไปหานางเดี๋ยวนี้” 

พูดแล้วก็วิ่งไปทางตำหนักหลงซินอย่างรวดเร็ว  

ปากของจี๋เฟิงกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย จ้องมองอานอ๋องทีหนึ่ง ก็รู้สึกว่าสมองของเขาต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ “ท่านอ๋อง ท่านว่าอานอ๋องจะทำสำเร็จไหม?”   

ตอนนี้แม้แต่ท่านอ๋องเฟิ่งหมิงชีก็ยังกล้าตีเลย แล้วนางจะยอมไปขอโทษเสิ่นชิวเยว่หรือ?  

จี๋เฟิงรู้สึกว่าอานอ๋องจะต้องถูกอัดจนใบหน้าเขียวช้ำแล้วโดยโยนออกมาจากตำหนักหลงซินแน่   

เรียวปากที่เม้มเข้าหากันแน่นของมู่หรงเซียวคลี่ขึ้นเล็กน้อย ยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ไปลองดู แล้วใครจะรู้ล่ะ! บางทีเสด็จพี่สามอาจจะมีวิธีควบคุมผู้หญิงคนนั้นก็ได้!”  

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel