บทที่ 3 ระบบล้านตำลึง
สตรีกลุ่มใหญ่รีบกวักมือเรียกฉินเสี่ยวโหรว “แม่ลู่เหว่ยเร็วเข้า! หากเจ้ายังช้าอยู่ น้ำในบ่อนี้ต้องถูกชิงไปหมดแน่”
ฉินเสี่ยวโหรวเป็นที่รู้กันในหมู่บ้านว่าเป็นมารดาของเด็กชายลู่เหว่ย ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเรียกนางว่า “แม่ลู่เหว่ย”
บ่อน้ำประจำหมู่บ้านนี้ แต่ละวันจะตักได้เพียงห้าสิบถัง วันต่อมาน้ำจึงจะขึ้นมาจนเต็มบ่ออีกครั้ง แต่ละบ้านจึงต้องไปเข้าแถวที่บ่อน้ำก่อนฟ้าสาง
ฉินเสี่ยวโหรวได้ยินก็รีบวิ่งด้วยความตกใจ นางหาบคานไม้ที่มีถังน้ำด้วยสองถังและสองมือก็ยังหิ้วถังไม้มาอีกสองถัง นางเป็นเพียงคนเดียวในหมู่บ้านที่หาบน้ำได้รอบละสี่ถัง ทำให้บ้านสกุลลู่มีน้ำใช้เพียงพอทุกวัน
“กะ กะ เกิดอันใดขึ้น” นางร้องถามตะกุกตะกัก
“เจ้าดูสิ เหล่าหานเอาคนมาขวางไว้ไม่ให้พวกเราตักน้ำ” ป้าฟางหญิงวัยกลางคนที่บ้านอยู่ติดกับบ้านลู่รีบบอก
ป้าฟางหรือป้าแซ่ฟางที่คนในหมู่บ้านเรียกชื่อแซ่ครอบครัวของสามีนางจนติดปากเป็นคนใจดี นางเห็นฉินเสี่ยวโหรวถูกคนสกุลลู่เอาเปรียบจึงไม่ชอบใจและแอบเอาแป้งย่างแข็งให้ลูกของฉินเสี่ยวโหรวกินอยู่หลายคราว
“ละ ละ แล้วพวกเราจะทำเช่นไรดี” ฉินเสี่ยวโหรวคนโง่เอียงคอถาม
“เสี่ยวโหรว พวกเรามีแรงเพียงน้อยนิด ไม่อาจสู้พวกเขาได้ มีเพียงเจ้าที่จะช่วยไล่เข้าไปได้” ป้าฟางเขย่าแขนของฉินเสี่ยวโหรวเอาไว้
ในฐานะคนบ้านรั้วติดกัน ป้าฟางรู้ว่าสะใภ้โง่ของสกุลลู่ผู้นี้แม้จะหลอกล่อเอาเปรียบง่าย แต่หากคิดจะรังแกสามีและลูกๆ ของนาง นางก็หายอมไม่ ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ใช้งานเด็กแฝดสองคนได้ แต่ไม่อาจทุบตีเด็กๆ ได้ตามอำเภอใจ เพราะหากฉินเสี่ยวโหรวเห็นร่องรอยบนร่างกายลูกๆ ของนาง นางจะเอาเรื่องจนคนบ้านลู่หวาดกลัว
อี้ซื่อ ผู้เป็นแม่เลี้ยงของลู่หลิงหยุนเคยจำยอมเอาอาหารที่มีเนื้อออกมาให้ฉินเสี่ยวโหรวหลายครั้ง เพราะนางจะอาละวาดจนยากจะควบคุมในยามที่อี้ซื่อผู้นั้นไม่ยอมแบ่งเนื้อให้กับลู่เหว่ยกับลู่ฮวน
“ใช่ๆ” สตรีกลุ่มใหญ่เอ่ยปากพร้อมกัน
ฉินเสี่ยวโหรววางถังน้ำที่หาบและที่ถือลงบนพื้น หยิบเอาคานหาบขึ้นมาแล้วย่างสามขุมเข้าไปหาเหล่าหาน
“จะ เจ้า ไม่ให้พวกเราตักน้ำหรือ”
“ถูกต้อง! วันนี้น้ำในบ่อต้องเป็นของพวกเราทั้งหมด พวกเจ้ากลับกันไปได้แล้ว” เหล่าหานโบกมือไล่ด้วยน้ำเสียงขึงขัง
“มะ ไม่ได้! บะ บ้านข้าต้องใช้น้ำ” ฉินเสี่ยวโหรว ตะโกน
“พี่หาน นี่มันฉินซื่อสะใภ้โง่ครอบครัวลู่นี่!” อันธพาลผู้หนึ่งยกมือชี้หน้า “กล้ามาท้าทายพี่หานเช่นนี้ได้อย่างไร”
“ขะ ข้าไม่ได้โง่!” หญิงสาวร้องสวน
เหล่าหานเลิกคิ้ว กวาดตามองร่างของหญิงตรงหน้าขึ้นลงอย่างไม่เกรงใจ “อ้อ! นางก็สวยดีนี่”
อันธพาลอีกสองคนพยักหน้าเห็นด้วย “สวยจริง”
“แต่นางเป็นคนโง่นะ พี่หาน เป็นพี่จะกล้าแต่งกับนางหรือ” อันธพาลแซ่ซูร้องขึ้น
เหล่าซูผู้นี้เคยมีแค้นเก่ากับฉินเสี่ยวโหรว คราหนึ่งเคยคิดไปรังแกนางแต่กลับถูกนางไล่ทุบตีจนต้องรักษาตัวอยู่นับสิบวัน เขาเคยหวาดกลัวนาง แต่วันนี้มากับลูกพี่อย่างเหล่าหาน เขาจึงคิดจะยุยุงให้เหล่าหานช่วยรังแกนางเพื่อระบายแค้นเก่า
อันธพาลทั้งกลุ่มหัวเราะเยาะฉินเสี่ยวโหรวพร้อมกัน
“ไม่กล้าสิ! ผู้ใดจะเอาสตรีโง่ไปเป็นภรรยากัน” เหล่าหานยิ้มเย้ย
“หยะ หยะ หยุดพูด!” ฉินเสี่ยวโหรวตะโกนด้วยความโมโหพร้อมกับยกไม้หาบขึ้น พุ่งเข้าไปหาฟาดใส่เหล่าหานไม่ยั้ง
“โอ๊ย!” อันธพาลร่างใหญ่ร้องลั่น!
“พี่หาน!” บุรุษวัยฉกรรจ์ที่ติดตามเหล่าหานมาอีกสามคนร้องด้วยความตกใจ
“พวกเจ้าจับนางเร็วเข้า!” เหล่าหานถอยหนีได้สามก้าวก็ร้องลั่น
ชายร่างใหญ่ทั้งสามหมายจะเข้าไปจับฉินเสี่ยวโหรว ทว่านางกลับหมุนตัวมาพร้อมกับฟาดไม้หาบในมืออย่างแรง คนพวกนั้นถูกตีก็ร้องลั่นกระโดดถอยไปพลางเอามือลูบคลำตามเนื้อตัวที่ถูกตีด้วยความเจ็บปวด
เหล่าหานได้ทีรีบฉวยโอกาสถอยหลังพร้อมกับชี้นิ้วสั่งลูกน้องทั้งสามที่ยืนมองฉินเสี่ยวโหรวด้วยความประหลาดใจ
“ตีนาง! ทุบนางให้หมอบไปเลย”
บุรุษทั้งสามบุกเข้าไปหาฉินเสี่ยวโหรวพร้อมกัน นางถูกบุรุษร่างใหญ่สามคนยึดแขนและบีบไหล่เอาไว้แน่น
“ตายแล้ว! เสี่ยวโหรวถูกรุม!” ป้าฟางร้องเสียงหลง “สะบัด! สะบัดแรงๆ เสี่ยวโหรว”
ฉินเสี่ยวโหรวได้ยินเสียงป้าฟางนางก็ทำตาม หญิงสาวเกร็งกล้ามเนื้อทั่วร่าง
“ปะ ปล่อยข้า!” ร่างที่ถูกกดบ่าให้ก้มหน้าร้องตวาดพร้อมสะบัดแขนสองข้างอย่างแรง
จากที่ถูกบุรุษสามคนเกาะกุม แต่ฉินเสี่ยวโหรวที่มีแรงมาก สะบัดไม่กี่ครั้งพวกเขาก็หงายหลังล้มไปตามๆ กัน ฉินเสี่ยวโหรวดวงตาแดงก่ำมือหนึ่งยังกำไม้หาบถังน้ำ มองคนทั้งสามแล้วหันไปมองเหล่าหาน
“พะ พวกเจ้า จะไปได้หรือยัง”
“สตรีโง่! เจ้าบังอาจตีคนของข้า” เหล่าหานหมายร้องข่มขวัญฉินเสี่ยวโหรว
ทว่าหญิงสาวกลับจ้องหัวหน้าอันธพาลเขม็ง นางยกไม้หาบขึ้นฟาดเหล่าหานอย่างเต็มแรง
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
“โอ๊ย! ผู้หญิงบ้า!” เหล่าหานถูกตีเข้าที่บ่าอย่างแรงจนร่างทรุดลงคุกเข่าต่อหน้านาง
“พี่หาน!” ลูกน้องของเหล่าหานร้องลั่น
“แม่ลู่เหว่ยระวังตัว!” หญิงสาวคนหนึ่งร้องเตือน
ยังไม่ทันที่อันธพาลทั้งสามจะลุกขึ้น ฉินเสี่ยวโหรวก็ฟาดไม้หาบเข้าที่บ่าของเหล่าหานอย่างแรงอีกครั้งจนเขาสิ้นสติไป
“ดี! เสี่ยวโหรวเจ้าตีได้ดี” ป้าฟางปรบมือร้องลั่น
ฉินเสี่ยวโหรวความโกรธปะทุจนไม่อาจระงับ นางหันไปไล่ตีอันธพาลทั้งสามคนอย่างแรง คนพวกนั้นร้องโอดโอยแล้วรีบวิ่งหนี
สตรีที่ยืนรอดูเหตุการณ์รีบช่วยกันส่งเสียงร้องสาปส่งอันธพาลเหล่านั้นจนพวกเขาวิ่งลับตาไป จากนั้นก็หันมาช่วยกันลากร่างไร้สติของเหล่าหานหลบให้พ้นทาง
“สมน้ำหน้า! เจอแม่ลูเหว่ยเข้าไป เป็นอย่างไรเล่า”
“แม่ลู่เหว่ยเจ้าเก่งที่สุดเลย!” หญิงชราในกลุ่มร้องตะโกนขึ้น
ฉินเสี่ยวโหรวที่โมโหสุดขีดค่อยยิ้มออก นางยืนถือไม้หาบหันมายิ้มให้กับสตรีทุกคนหมู่บ้าน จากนั้นก็ทรุดตัวลงสิ้นสติ
“แย่แล้ว! เสี่ยวโหรวเป็นลม” ป้าฟางร้องเอะอะ
คนทั้งกลุ่มช่วยกันบีบนวดแขนขาของฉินเสี่ยวโหรวหวังให้นางฟื้น ป้าฟางหันไปใช้สองมือกวักน้ำจากถังที่เหล่าหานตักขึ้นมาทิ้งไว้ข้างแปะๆ น้ำในอุ้งือไปบนใบหน้าของหญิงสาว
ฉินเสี่ยวโหรวรู้สึกเย็นที่ใบหน้า นางลืมตาขึ้นมาเห็นสตรีแปลกหน้ารายล้อมก็ตกใจ
“พวกคุณเป็นใคร” โปรแกรมเมอร์สาวพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น
“ค่อยๆ เสี่ยวโหรวค่อยๆ เจ้าเพิ่งเป็นลม ถ้ารีบลุกเดี๋ยวจะหน้ามืดเอา” ป้าฟางช่วยพยุงนางให้ลุกขึ้น
พลันความทรงจำของเจ้าของร่างก็ถาโถมเข้ามาในหัวของผู้มาใหม่
‘ทะลุมิติ! ฉันทะลุมิติเข้ามาในยุคโบราณแล้ว’
พอฉินเสี่ยวโหรวรู้ตัวทุกอย่างรอบกายก็หยุดนิ่ง กรอบสีน้ำเงินโปร่งใสพลันปรากฏตรงหน้า
“ยินดีต้อนรับท่านผู้ใช้ระบบ คุณฉินเสี่ยวโหรว ขณะนี้ท่านอยู่ในระบบล้านตำลึงของบริษัทดีเอ็มเอแล้วค่ะ”
“นี่! ทำไมต้องดึงฉันเข้ามาด้วยล่ะ ฉันเป็นโปรแกรมเมอร์นะ ไม่ได้อยากใช้ระบบสักหน่อย”
“คุณฉิน ขณะนี้ท่านประธานได้ทำการปรับระบบให้โปรแกรมเมอร์ทุกคนต้องเข้ามาทดสอบระบบด้วยตนเองค่ะ ดังนั้นคุณจึงถูกสุ่มให้ทดลองระบบในร่างนี้”
*******************
