บท
ตั้งค่า

ตอนที่5. สองหนุ่มสาว

เยว่ถิงถิงได้ยินเสียงคำรามอยู่ข้างหู รับรู้ได้ว่าเขาเสร็จสมแล้ว เขากอดนางพลางหอบหายใจแรง ครู่หนึ่งหัวใจจึงเต้นในจังหวะปกติ เขาลุกขึ้นแล้วฉวยผ้าห่มคลุ่มร่างที่อ่อนระทวยแล้วสวมกางเกงลวกๆ เดินออกไปด้านนอก หญิงสาวเหนื่อยล้าจนขยับตัวไม่ไหว ดวงตาปิดด้วยความง่วงงุน ทว่าผ้าอุ่นผืนหนึ่งเช็ดใบหน้านางอย่างทะนุถนอม ทำให้นางลืมตาขึ้นมอง

“พี่เจียอี”

“นอนนิ่งๆ”

เขาสั่งพร้อมรอยยิ้มแล้วหันไปซักผ้าในน้ำอุ่นแล้วเช็ดเนื้อตัวให้ภรรยาสาว นางอยากเช็ดตัวด้วยตนเอง แต่ขยับตัวไม่ไหวจึงปล่อยให้คนเป็นสามีเช็ดเนื้อตัวรวมทั้งกึ่งกลางของกายสาว นิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปกวาดเอาน้ำเหนียวหนืดออกมาแล้วเช็ดจนสะอาด เมื่อเช็ดกายให้นางด้วยน้ำอุ่นเสร็จก็จัดการเช็ดลำเอ็นของตนก่อนนำผ้าและถังน้ำไปไว้ด้านนอก หญิงสาวรับรู้ได้ว่าร่างกำยำค่อยๆ เอนกายลงมานอนเคียงข้าง เขาประคองศีรษะนางให้หนุนแขนของเขา

“ถิงถิง...เจ้ามีความสุขหรือไม่”

นางแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเขาเรียก วงแขนที่โอบกอดรัดแน่นขึ้นทำให้นางทุบแผ่นอกของเขาแก้เขิน

“อืม”

นางตอบรับเบาๆ แต่รู้ว่าเขาได้ยิน วงแขนจึงคลายลง มือเรียวเล็กยื่นไปวางบนแผ่นอก หัวใจของเขาอยู่ใต้ฝ่ามือของนาง.

แม้สองหนุ่มสาวไม่ปริปากเล่าเรื่องใด แต่คนเป็นมารดาที่เลี้ยงดูมากับมือย่อมมองออก นางยิ้มอย่างพอใจ และไม่คิดพูดจาให้คนหน้าบางอย่างบุตรชายต้องรู้สึกเขินอาย แต่ชีวิตเรียบง่ายที่ปกปิดมานานจะเป็นเช่นนี้ได้อีกนานเพียงใดกัน จะว่าไป การใช้ชีวิตที่นี่ก็สงบสุขดีกว่าที่ที่เคยจากมา

แม้อยู่กันแค่สามคน แต่ก็มีงานบ้านให้ทำทั้งวัน เยว่ถิงถิงไม่เคยบ่น อยู่ที่หมู่บ้านเชิงเขามาหลายปี แต่นางไม่สนิทกับคนในหมู่บ้าน แม้ไปซักผ้าที่ลำธารใกล้ๆ ก็ไม่ค่อยคุยกับผู้ใด นอกจากทักทายเล็กน้อยและซื้อขายงานเย็บปัก

เจียอีกลับมาจากในเมือง เขาเห็นภรรยากำลังยกกระจาดสมุนไพรลงมาจากชั้นตากสมุนไพรก็รีบเข้าไปช่วยทันที มารดาที่นั่งมองอยู่อดยิ้มไม่ได้

“เจียอีรู้จักใส่ใจถิงถิงแล้วสินะ”

“ท่านแม่”

ชายหนุ่มเพิ่งกลับเข้าบ้าน ยังไม่ทันได้ทักทายมารดาก็รีบช่วยภรรยาทำงานแล้ว นางเจียฮุ่ยยิ้มแย้มพอใจที่บุตรชายเอาใจใส่เยว่ถิงถิง

“เพิ่งกลับเข้ามาบ้านเหนื่อยๆ พี่เจียอีพักผ่อนก่อนเถิด ทางนี้ข้าจัดการเอง”

เยว่ถิงถิงผลักชายหนุ่มเบาๆ นางหันไปสบตากับแม่สามีแล้วก็ยิ้มเขินก้มหน้าซ่อนความเขินอาย เมื่อจัดเก็บสมุนไพรเสร็จก็เดินเข้าครัว จัดสาลี่ตุ๋นใส่ชามวางบนถาดไม้ออกมา เจียอีเกรงภรรยาจะเหม็นกลิ่นเหงื่อจึงล้างเนื้อล้างตัวผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ เขาเห็นนางถือถาดอาหารก็รีบเข้าไปช่วยแล้วนำไปให้มารดา

“เห็นท่านแม่ไอบ่อยๆ ข้าจึงทำสาลี่ตุ๋นน้ำผึ้งเจ้าค่ะ”

“สะใภ้คนนี้ดูแลแม่ดีจริงๆ” ไม่เสียแรงที่นางอบรมสั่งสอนมาอย่างดี

“พี่เจียอีก็กินด้วยสิเจ้าค่ะ ช่วยบำรุงปอดและกระเพาะ ช่วยดับกระหาย พี่เจียอีกลับมาเหนื่อยๆ กินสักนิดนะเจ้าค่ะ”

“แล้วเจ้าเล่า” เจียอีไม่นางกินจึงตักในชามของตนป้อนให้นาง “เจ้าก็กินด้วยกันสิ”

ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่เจียอีป้อนอาหารให้นาง ตั้งแต่นางยังเด็ก หากเป็นอาหารร้อน เขาจะเป่าให้อุ่นแล้วป้อนให้นางกิน ‘เจ้ากินคำ ข้ากินคำ’ เป็นเช่นนี้มาหลายปี ไม่ว่าเขาป้อนอะไรให้นางก็กินอย่างไม่ลังเล ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่เวลานี้กลับรู้สึกแปลกไป เหตุใดรู้สึกเขินอายจนใบหน้าร้อนผ่าวเช่นนี้ไปได้

“เหตุใดเจ้าหน้าแดงเช่นนี้ มิใช่ว่าไม่สบายหรือ?”

เจียอีเหมือนคนโง่งม เขารู้เพียงแค่เป็นห่วงนางมาก ไม่คิดเรื่องอื่นใด จนมารดาตีแขนเขาเบาๆ จึงได้รู้สึกตัว จริงสินะ นางไม่ใช่เด็กเล็กๆ ที่เขาจะป้อนอาหารให้แล้ว

“เอาล่ะๆ เห็นเจ้าสองคนรักใคร่ดูแลกันเช่นนี้ แม่ก็เบาใจ ประเดี๋ยวกินเสร็จแล้วเจียอีก็เข้ามาคุยกับแม่หน่อย”

“ขอรับท่านแม่”

ทุกครั้งที่นางเจียฮุ่ยเอ่ยเช่นนี้ เยว่ถิงถิงจะถูกสั่งให้ทำงานอื่นเสมอ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในจนกว่าเจียอีจะออกมา นางเองก็ชินแล้ว ท่านแม่ไตร่ตรองดีแล้วจึงไม่ให้นางเข้าไปวุ่นวาย

ยามค่ำคืนหลังดูแลแม่สามีเรียบร้อยแล้ว เยว่ถิงถิงจึงเดินกลับมาที่เรือนของตน นางเห็นเขานั่งอ่านตำราเช่นทุกครั้งก็ส่งยิ้มอ่อนหวานให้แล้วเดินไปนั่งหน้ากระจก หยิบหวีมาแปรงผมยาวของตน ครู่หนึ่งหวังเจียอีก็ลุกขึ้นเดิมยืนด้านหลัง หยิบหวีจากมือมาแปรงผมให้นางด้วยตนเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel