บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4. ยืนงงๆ ในดงกล้วย/1

“กล้วย กล้วยหนูอยู่ไหน ใครเห็นกล้วยหนูบ้าง!”

เสียงตะโกนโวยวาย พร้อมเสียงย่ำเท้าตึงๆ ลงบันไดมา ทำให้ยายบัวคลี่และปทุมทิพย์ ที่กำลังนั่งห่อข้าวต้มมัด หันไปมองเจ้าของเสียงวิ่งหัวฟูหน้าตาตื่นลงมาหาน้ากับยาย

“อะไรกันยายหนู ตื่นมาก็โวยวายใหญ่เลย”

ปทุมทิพย์ปรามหลานให้ลดเสียงลง ทำหน้าดุแบบที่อีกฝ่ายไม่กล้าหือ เธอมองหลานสาวที่โตแต่ตัว แต่นิสัยยังเหมือนเด็กน้อยอย่างระอา สมัยเธอไปเรียนหนังสืออยู่กรุงเทพได้ไปอาศัยอยู่กับครอบครัวพี่สาว จึงมีโอกาสได้ช่วยเลี้ยงหลานสาวคนนี้ รู้นิสัยกันดีว่า น้ำผึ้งเป็นพวกชอบโวยวายไว้ก่อน แถมยังกระโดกกระเดกไม่เรียบร้อย ได้เชื้อแม่อย่างปทุมทองมาเต็มๆ พี่สาวของเธอสมัยสาวๆ ทั้งคล่องแคล่วปราดเปรียว ปากไวจนหนุ่มๆ แถวนี้ไม่กล้าจีบ หากไม่ไปเรียนต่อในเมืองกรุงคงขึ้นคานไม่ต่างกับเธอ

“ตื่นแล้วเหรอยายหนู มานั่งข้างๆ ยายนี่”

ยายบัวคลี่กวักมือเรียกหลานสาวให้มานั่งบนเสื่อข้างๆ แก

“ยายกับน้าทิพย์ทำอะไรให้หนูกินคะ”

น้ำผึ้งนั่งขัดสมาธิ เมียงมองของที่วางบนเสื่ออย่างสนใจ มีใบตองและตอกวางกองอยู่มุมหนึ่ง ถาดใส่ข้าวกับกล้วยวางไว้ด้วยกัน อีกถาดเป็นข้าวต้มมัดที่ห่อใบตองแล้ว

“น้ากับยายกำลังทำข้าวต้มมัด พรุ่งนี้วันพระเราจะไปวัดทำบุญกัน มาช่วยกันทำไหมลูกจะได้บุญ” ปทุมทิพย์บอก

น้ำผึ้งส่ายหน้า “หนูทำไม่เป็นค่ะถนัดแต่กิน อ้อ น้าทิพย์เห็นกล้วยหนูไหม กล้วยหอมหวีใหญ่ๆ แหว่งไปสามลูก”

เจ้าตัววกมาถามหากล้วยของตัวเอง จำได้ว่าก่อนนอนหลับเธอวางมันไว้บนตัก ตื่นมาอีกทีพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องนอนในบ้านยายบัวคลี่เรียบร้อยแล้ว พี่ทองคงพาเธอมาส่งบ้านยายทั้งๆ ยังหลับ คิดแล้วแสนจะอับอายขี้เซาไม่ยอมตื่น เดาได้ว่าอีกฝ่ายคงอุ้มเธอมาส่งถึงห้องนอน น้ากับยายคงไม่มีปัญญาพามา

ช่างเถอะ... นอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น ใครจะทำไม

แต่สิ่งที่หงุดหงิดที่สุดคือตื่นมาแล้วหิวชะมัด สิ่งสุดท้ายในความทรงจำก่อนนอนหลับคือกล้วยหอมหวีใหญ่แสนอร่อยเธอเพิ่งกินมันไปแค่สามลูก มันอันตธานหายไปไหน มองไปรอบๆ ห้อง บนโต๊ะ บนหัวเตียงก็ไม่เจอ หวังว่าไอ้พี่ทองคงไม่เอากลับไปด้วยนะ

ให้แล้วเอาคืนมะรืนไม่หายโกรธ... น้ำผึ้งคาดโทษคนตัวโตไว้ในใจ

ก่อนจะตะโกนโวยวายตามหากล้วยของตัวเองจนลงมาชั้นล่าง

“วางอยู่บนโต๊ะนั่นไง ไอ้คิดมันขนลงมาให้”

คนเป็นน้าชี้มือไปยังโต๊ะข้างทีวีซึ่งมีกล้วยหอมทองสีเหลืองวางอยู่ถึงสองหวี น้ำผึ้งทำตาโตยิ้มกว้างด้วยความดีใจรีบลุกไปหยิบหวีที่ตัวเองกินเหลือมานั่งปอกกินข้างๆ ยาย รสชาติหวานเนื้อเหนียวหนึบกว่ากล้วยที่เคยกินมา ทำให้สาวน้อยเพลิดเพลินมากไม่สนใจว่าน้ากับยายกำลังมองดู

“กล้วยสวนตาทองอร่อยที่สุด ในบรรดากล้วยทุกสวนแถวนี้เลยนะ”

ยายบัวคลี่มองกองเปลือกกล้วยวางอยู่ตรงหน้าหลานสาวแล้วอมยิ้ม น้ำผึ้งชอบกินกล้วยมาก ชอบจนเรียกว่าเป็นชีวิตจิตใจเลยทีเดียว ใครจะมาจีบคงต้องใช้กล้วยแทนดอกกุหลาบเสียละมั้ง คนเป็นยายแอบคิดขำๆ

“แบ่งท้องไว้กินข้าวเย็นด้วย น้าทำแกงสายบัวไว้ ข้าวต้มมัดนี่ก็ด้วย จะเอาท้องที่ไหนใส่”

คนเป็นน้าปรามเมื่อเห็นหลานสาว ยัดกล้วยลงท้องไปเกือบครึ่งหวีในเวลารวดเร็ว

“สบายมากค่ะน้าทิพย์ เดี๋ยวหนูเดินย่อยแถวนี้สักพัก ก็กลับมากินต่อได้ ขอตัวไปเดินเล่นก่อนนะคะ เดี๋ยวจะกลับมากินข้าวต้มมัด”

พูดจบน้ำผึ้งก็พาร่างเล็กๆ ของตัวเอง ลุกขึ้นเดินออกไปจากบ้าน ปล่อยให้น้ากับยายมองตามด้วยสายตาเอ็นดู รู้ดีว่าหลานสาวคนนี้อยู่นิ่งไม่เป็น นานแล้วไม่ได้มาเที่ยวที่นี่คงอยากสำรวจให้ทั่ว

“แถวนี้คนรู้จักกันทั้งนั้น ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะแม่” ปทุมทิพย์หันมาพูดกับมารดา

“อืม ฉันรู้น่า หลังบ้านเรานี่ก็เป็นบ้านของผู้ใหญ่วรรณ ยายหนูเดินหลงไปก็คงมีคนพามาส่งเอง”

ยายบัวคลี่พูดยิ้มๆ นัยน์ตาพราวด้วยความคิดบางอย่าง ปทุมทิพย์กะพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจว่ามารดากำลังคิดอะไร จึงหันไปสนใจห่อข้าวต้มมัดต่อ ตั้งใจจะห่อไปเผื่อสมคิดกับประเคนที่มักมาช่วยงานอยู่บ่อยๆ

“แถวนี้เปลี่ยนไปเยอะเลย จำได้ว่าตอนมาครั้งก่อน ไม่มีสวนกล้วยเยอะแบบนี้”

น้ำผึ้งเดินส่องดูนู่นนี่นั่นไปเรื่อยเปื่อย สิบปีก่อนเธอมาเที่ยวบ้านยายบัวคลี่ ยังไม่มีการปลูกกล้วยมากเท่าตอนนี้ หลังบ้านยายบัวคลี่มีดงกล้วยของโปรดของเธอ จึงมักจะมาเล่นแถวนี้บ่อยๆ ตอนนี้กล้วยขึ้นเต็มพื้นที่ ชาวบ้านแถวนี้คงปลูกกล้วยกันเป็นอาชีพ เดินลัดเลาะไปตามร่องสวนก็เห็นสะพานทอดผ่านไปอีกฝั่ง เป็นสวนกล้วยเช่นกัน หญิงสาวพาตัวเองเดินข้ามสะพานไม้แคบๆ นั้นไป

“โอ้โห ! นี่มัน บานาน่าแลนด์ ชัดๆ มีแต่ต้นกล้วย กล้วย และกล้วย”

พื้นที่กว่าร้อยไร่ในอดีตเคยเป็นนาข้าว บัดนี้กลายเป็นสวนกล้วยกว้างใหญ่ไพศาล มีต้นกล้วยปลูกอยู่เต็มพื้นที่ บรรยากาศในยามเย็นลมพัดมาเอื่อยๆ ใบกล้วยไหวสะบัดไปมา แสงอาทิตย์สาดแสงสีส้มกระทบก้านใบ ทำให้คนมองรู้สึกรื่นรมย์จนเผลอเดินเข้าไปในดงกล้วยเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงคนกำลังทำอะไรสักอย่าง จึงเดินตามเสียงไป

“แยกหน่อที่ไม่เสียมากองรวมกันทางนี้ ไอ้ที่มันเน่าให้ใส่เข่งเอาไปทำลายทิ้ง”

ร่างสูงใหญ่คุ้นตายืนสั่งการคนงาน ที่กำลังคัดแยกหน่อกล้วยกองใหญ่ท่าทางคร่ำเคร่ง เขาเดินไปหยิบหน่อกล้วยที่ตัดแล้วมาตรวจดูอีกครั้งเพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้คุณภาพ พอที่จะนำไปปลูกในแปลงใหม่ คนแอบดูเกาะอยู่หลังต้นกล้วยเฝ้ามองอย่างสนใจ

“ลูกเพ่ ผมว่ารีบกลับไปอาบน้ำเถอะครับ นี่ก็เย็นแล้ว เดี๋ยวต้องไปกินข้าวบ้านยายคลี่นะ”

สมคิดบอกลูกพี่ของตัวเอง ที่ยังสนใจกับการแยกหน่อกล้วยมากกว่า จะเตรียมตัวแต่งหล่อไปกินข้าวบ้านสาว ดูสิเนื้อตัวมือเท้ามีแต่คราบดินมอมแมม กลับมาจากบ้านยายบัวคลี่ก็แวะมาดูคนงานต่อ เรื่องขยันนี่ขอให้บอกไม่รู้จะขยันเอาโล่หรือยังไง สมบัติพ่อผู้ใหญ่วรรณก็มากมาย กินใช้จนตายก็ไม่หมด ลูกเมียก็ไม่มีสักคนเพราะขยันทำงานจนไม่สนใจผู้หญิง แบบนี้จะไม่ให้พ่อแม่เป็นห่วงได้อย่างไรว่าจะไร้คนสืบสกุล

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel