ตอนที่ 5. ยืนงงๆ ในดงกล้วย/2
“ทำงานให้เสร็จก่อนค่อยไปก็ได้”
คนขยันไม่ได้สนใจเลย เดินตรวจดูหน่อกล้วยที่คัดแยกแล้วจดจำนวนใส่สมุดบันทึก ในหัวคำนวนว่าจะปลูกได้กี่แปลง คำนวนวันเวลาเก็บเกี่ยวเสร็จสรรพ ให้มีผลผลิตออกพอจะเก็บขายได้ต่อเนื่อง การปลูกกล้วยไม่ได้ปลูกคราวเดียวพร้อมกันทุกแปลง ต้องเว้นระยะให้ออกผลเก็บเวียนได้ทั้งปี ใช้เวลาในการเติบโตจนออกผลนาน6ถึง7เดือน จึงต้องดูแลให้ทั่วถึง
“ไอ้เคน ให้คนเอาหน่อกล้วยที่คัดแล้วไปลงไว้ที่แปลงใหม่ ตรงที่ดินเก่าตาแหวง”
ทองสั่งการเมื่อเห็นคนงานคัดหน่อกล้วยเสร็จแล้ว เขาเพิ่งซื้อที่ดินของตาแหวงมา ตั้งใจจะขยายสวนกล้วยเพิ่มขึ้น ให้มีผลผลิตส่งขายมากกว่าเดิม ซึ่งแทบไม่พอกับออเดอร์ที่ต้องการ ด้วยกล้วยจากสวนของเขามีรสชาติดีกว่าแหล่งปลูกกล้วยแห่งอื่น จากสภาพดินและการดูแลเอาใจใส่รวมถึงคัดเลือกกล้วยหอมทองพันธุ์ดีมาปลูก ส่งผลให้กล้วยของสวนผู้ใหญ่สุวรรณแห่งนี้เป็นที่ต้องการของตลาดส่งออกจนผลิตแทบไม่ทัน สร้างรายได้สร้างงานให้คนในหมู่บ้าน ต่างพากันทำตาม
“ไอ้คิดไปดูคนงานทำลายหน่อเสียด้วย สับให้ละเอียดแล้วเอาไปทำปุ๋ยหมักให้หมด”
ทองสั่งงานสมคิดเสร็จ ก็ยกผ้าข้าวม้าที่พาดไหล่ขึ้นเช็ดเหงื่อ เขามองไปรอบสวนกล้วยของตัวเองด้วยความภูมิใจ มีความสุขที่ได้ทำงานบนผืนดินบ้านเกิดไม่ต้องไปขายแรงงานในเมืองกรุงห่างไกลครอบครัว สายตาแหลมคมมองไปเห็นใครบางคนกำลังซุ่มอยู่หลังต้นกล้วย เขาขมวดคิ้วเขม่นมองแต่อีกฝ่ายเบี่ยงตัวหลบ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มก่อนจะหันไปมองดูคนงานที่พากันขนเข่งใส่หน่อกล้วยออกไปแล้ว
“ไอ้คิดไอ้เคน ทำงานเสร็จแล้วก็ตามไปที่บ้านนะ ฉันกลับก่อนจะไปอาบน้ำ”
ทองแกล้งพูดเสียงดังแล้วเดินหายเข้าไปในสวนกล้วย ไม่ได้ตามเหล่าคนงานออกไป สมคิดมองตามหลังลูกพี่ของตน ยกมือเกาหัวแกรกๆ ด้วยความสงสัย
“ลูกเพ่เดินไปทำไมทางนั้น ไม่ใช่ทางกลับบ้านสักหน่อย หรือจะปวดเยี่ยว”
“ยืนอยู่ทำไม”
ประเคนเดินมาตบหลังเพื่อนรุ่นน้อง รุนหลังให้ตามคนงานขึ้นรถไป สมคิดเลยเลิกสนใจเดินขึ้นรถไปด้วย
“นึกว่าอิตาพี่ทองจะเห็นเสียแล้ว”
น้ำผึ้งถอนหายใจแรง ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องแอบดูชายคนนั้นด้วย หน้าตาก็บ้านๆ ไมได้หล่อใสแบบพี่แมคอดีตแฟนหนุ่มของเธอสักหน่อย สิ่งเดียวที่น่าสนใจคือเขาเป็นเจ้าของสวนกล้วยที่แสนกว้างใหญ่ไพศาลนี่ต่างหาก
“รีบกลับบ้านดีกว่า ใกล้จะมืดแล้ว”
น้ำผึ้งพาตัวเองออกจากที่ซ่อนเดินกลับบ้าน มองดูท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสี ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินฝ่าดงกล้วยออกไปตามทางที่เข้ามา แต่ทำไมเดินไปเดินมาออกไปไม่ได้สักที มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นกล้วย แล้วทางที่เธอเข้ามามันทางไหนกันหนอ...
“ตายแล้ว ทางออกมันอยู่ทางไหนเนี่ย จำได้ว่าต้องข้ามสะพานถึงจะกลับบ้านยายบัวคลี่ได้ สะพานมันอยู่ตรงไหน”
น้ำผึ้งหยุดเดินหมุนตัวมองไปรอบๆ ฟ้าก็หมดแสงมีเพียงแสงจันทร์สาดส่องลงมาเป็นเงาสลัวๆ ลมเริ่มพัดแรงขึ้นใบกล้วยสะบัดไปมาดังพรึบพั่บ เสียงแมลงกลางคืนกรีดร้องระงมขึ้นมา สองเท้าย่ำไปตามทางลัดเลาะต้นกล้วยเดินไปเรื่อยเปื่อย ดวงตาสอดส่ายหาทางออกจากดงกล้วยที่น่ากลัวนี้ แต่เวรกรรมยิ่งเดินยิ่งเหมือนจะหาทางออกไม่เจอ
“เดินไปเจอแต่ต้นกล้วย กรรมแล้วยายผึ้งเอ๋ย...”
น้ำผึ้งครางเสียงแผ่ว รู้สึกหวาดหวั่นเพิ่มมากขึ้น ถ้าไม่มัวแต่แอบดูอิพี่ทองคงกลับบ้านทันก่อนมืด นี่มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นกล้วยเต็มไปหมด สวนกล้วยก็กว้างขนาดนี้จะออกไปยังไง
สาวชาวกรุงได้แต่ยืนงงๆ อยู่ท่ามกลางดงกล้วยสูงท่วมหัว ใบหน้าชื้นเหงื่อเริ่มเหยเก ใจหล่นไปกองอยู่ที่พื้น มาที่นี่วันแรกต้องฉลองความปัญญาอ่อนด้วยการนอนตากน้ำค้างกลางดงกล้วยเสียแล้วไหมล่ะ จะเดินไปทางไหนก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอทางกลับบ้าน เดินต่อไปเรื่อยๆ คงหลงอยู่ในดงกล้วยนี่แหละ ชอบกินกล้วยแล้วมาหลงทางอยู่กลางสวนกล้วย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
แกรก แกรก สวบ สวบ !!!
เสียงบางอย่างดังแว่วเหมือนเสียงฝีเท้าคน น้ำผึ้งมองไปรอบตัวด้วยความหวังว่าจะเจอใครสักคนเดินผ่านมาทางนี้ อาจจะช่วยพาเธอกลับบ้านได้ แต่ความหวังก็พังทลายเมื่อต้นตอของเสียงปรากฎกายให้เห็น
“โถ่ ! หมานี่นา”
น้ำผึ้งย่อตัวนั่งยองๆ อุ้มลูกหมาพันธุ์ทางสีน้ำตาลเนื้อตัวมอมแมมขึ้นมา มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นแม่หมา หรือมันจะหลงทาง
“เจ้าตูบ แกมาทำอะไรแถวนี้ หรือว่าหลงอยู่ในดงกล้วยเหมือนฉัน”
อาการหวาดหวั่นเริ่มลดลง เมื่อมีเพื่อนสี่ขาอยู่ใกล้ๆ มันกับเธอคงประสบชะตากรรมเดียวกัน น้ำผึ้งไม่คิดปล่อยให้ลูกหมาน้อยเดินไปไหนต่อ เธอจะพามันออกจากดงกล้วยนี่ด้วยกัน
“ไป เราหาทางออกจากที่นี่กันเถอะ”
สองเท้าเริ่มมีแรงเพิ่มขึ้นจากการอยากช่วยเหลือเจ้าหมาน้อย น้ำผึ้งพาตัวเองเดินไปข้างหน้า แต่ยิ่งเดินก็เหมือนยิ่งวนอยู่ในดงกล้วย หาทางออกไม่เจอ จนเหนื่อยหอบยืนพิงต้นกล้วย ความหวังหมดลงไปอีกครั้ง
“สงสัยฉันกับแก คงต้องนอนอยู่ในดงกล้วยนี่สักคืน”
คนร่างเล็กรูดตัวลงนั่งกองใต้ต้นกล้วย แสบท้องไปหมดด้วยความหิว มองดูกล้วยบนต้นก็ยังเขียวปี๋กินไม่ได้สักลูก ทั้งคนทั้งหมามองหน้ากัน ก่อนที่คนจะถอนหายใจแรงๆ หมาน้อยก็แลบลิ้นมาเลียแก้มคล้ายปลอบโยน
“ยายบัว น้าทิพย์ ช่วยหนูด้วย หนูหลงอยู่ในดงกล้วยนี่”
น้ำผึ้งครางเสียงแผ่ว ซบหน้ากับเจ้าลูกหมาบนตัก
“บ๊อก บ๊อก บ๊อก!”
เสียงเจ้าลูกหมาเฮ่าออกมา ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นหันไปมองรอบๆ ก่อนจะเบิกตากว้างดีใจสุดขีดเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้า ถึงเขาจะไม่หล่อ แต่ยามนี้พี่ทองในสายตาของเธอคือเทพบุตรชัดๆ เขามาปรากฎตัวในยามที่เธอต้องการพอดี
“มาทำอะไรที่นี่”
เสียงทุ้มเหมือนเสียงดีเจวิทยุชุมชนเอ่ยถาม
“มะ มาเดินเล่นค่ะพี่ทอง กำลังจะกลับบ้านพอดี พี่ทองล่ะคะ มาทำอะไรแถวนี้”
น้ำผึ้งรีบลุกขึ้นยืน ปั้นหน้าสดชื่นเอ่ยถามเสียงใส จะยอมให้เขารู้ไม่ได้ว่าเธอหลงอยู่ในดงกล้วยนี่...
