ตอนที่ 3. แรกพบสบตา/3
“ยายคลี่ ! อยู่หนาย”
สมคิดป้องปากเรียกเจ้าของบ้าน ส่วนประเคนนั้นเป็นคนปากหนักไม่ชอบพูดจึงยืนอยู่เฉยๆ ให้เพื่อนตะโกนเรียกเอง
“ข้าชื่อบัวคลี่ เรียกเต็มๆ สิวะไอ้คิด”
ร่างเล็กในเสื้อคอกระเช้านุ่งผ้าถุงสีน้ำตาลเดินออกมายืนเท้าเอวตามเสียงเรียก ใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัยชักสีหน้าดุใส่เจ้าคนผมทองปากแดงที่มักจะลามปรามเรียกชื่อแกได้ใกล้เคียงกับของเหม็น กราดสายตามองสองหนุ่มที่พากันพนมมือไหว้ แล้วคลายสีหน้าลงเมื่อเห็นรถหกล้อจอดอยู่หน้าบ้าน
“พี่ทองพาหลานยายคลี่ เอ้อ ยายบัวคลี่มาส่งจ้า” เจ้าสมคิดคนปากแดง รีบบอก
“แล้วทำไมไม่เข้าบ้าน จอดรถอยู่ทำไมตั้งนาน”
ปทุมทิพย์เดินมาส่องดูบ้าง มองดูรถหกล้อของเจ้าของสวนกล้วย ก่อนจะเบนสายตามามองสองหนุ่มลูกสมุนของอีกฝ่าย หนุ่มผมทองยิ้มกว้างตามประสาคนอารมณ์ดี ส่วนหนุ่มผิวเข้มผมยาวเคราดกมองสบตาเธอด้วยสายตาหวานเยิ้มชวนจั๊กจี้ ตั้งแต่รู้จักกันมาห้าปีเคนหรือประเคนก็มักใช้สายตาแบบนี้มองสาวรุ่นพี่เสมอ เขาไม่ชอบพูดแต่ใช้สายตาส่งมาให้คนเห็นรู้สึกแปลกๆ แทน ปทุมทิพย์หลบสายตาหวานฉ่ำนั้น หันมามองหน้ามารดา
“หลานน้าทิพย์นอนหลับอยู่ ไม่ยอมตื่น พี่ทองเลยให้ฉันกับพี่เคนมาบอกก่อนจ้า ใช่ไหมพี่เคน”
สมคิดรายงาน พลางพยักพเยิดให้เพื่อนคู่หู ขยับไปเสนอหน้าใกล้ๆ น้าปทุมทิพย์ คนอะไรตัวโตอย่างกับหมีควาย แต่ใจปลาซิวแอบชอบเขามาห้าปีไม่กล้าจีบ ได้แต่มองได้แต่ยิ้มไม่ยอมรุกเสียที แบบนี้อีกสิบปีก็ไม่ได้กิน แก่เหนียงยานกันไปข้างไม่ต้องสงสัย
“อ้อ ยายหนูไม่ตื่นสิท่า”
คนเป็นยายรู้นิสัยขี้เซาของหลานสาวดี ไม่แปลกใจที่ปลุกไม่ตื่น หากได้นอนแล้วน้ำผึ้งจะนอนจนกว่าจะอิ่ม จะปลุกยังไงก็ไม่ตื่นนอกจากนอนเต็มตาแล้วถึงจะตื่นเอง นิสัยแบบนี้ทำให้ปทุมทองไม่กล้าปล่อยให้ลูกไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหนคนเดียว ต้องฝากฝังกำชับให้คอยดูแลเป็นอย่างดี
“คร้าบ นอนหลับปุ๋ยเลย พี่ทองเขาไม่รู้จะทำยังไงดี”
สมคิดพูดไป มือก็ผลักให้เพื่อนคู่หูขยับไปใกล้น้าปทุมทิพย์คนสวย หวังให้ประเคนพูดอะไรออกมาบ้าง แต่คนปากหนักอย่างกับอมหินไว้เต็มปากยังคงทำได้แค่ส่งสายตาหวานๆ เข้าใส่หญิงสาวที่ตัวเองแอบรักแอบหมายปอง ไม่ได้ดั่งใจเลย... สมคิดได้แต่ถอนหายใจ
“แม่ทิพย์ไปดูหลานหน่อยสิ เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมที่นอน ลองอีหรอบนี้ไม่ตื่นง่ายๆ หรอก”
ยายบัวคลี่บอกลูกสาว ขยับจะเดินเข้าไปในบ้าน แต่เหมือนนึกอะไรออกก่อนที่ลูกสาวกับสมุนทั้งสองของพี่ทองจะเดินไป
“ไอ้คิด ยืนรออยู่นี่ ให้แม่ทิพย์กับเจ้าเคนไปดู”
เหมือนคนแก่จะรู้ใจหนุ่มปากหนักเลยเปิดทางให้ สมคิดยักคิ้วให้เพื่อนคู่หูผลักให้เดินตามน้าปทุมทิพย์ที่เดินลิ่วไปยังรถ ประเคนหันมามองหน้ายายบัวคลี่เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าให้ก็พนมมือไหว้ รีบเดินตามสาวรุ่นพี่ไปด้วยความดีใจ ผู้ใหญ่เปิดทางให้เหลือแต่เขาที่ยังไม่กล้าพอ ส่วนหญิงสาวก็ไม่รู้ตัว งานนี้คงลุ้นกันตัวโก่งเหนื่อยไปข้าง
“แหม... ยายคลี่ อยากได้ลูกเขยใช่ไหมล่า หึหึ” สมคิดหัวเราะคิกคัก
“หุบปากเลยไอ้คิด!”
คนแก่ถลึงตาใส่ ก่อนจะเดินสะบัดตูดหนีเข้าบ้านไป ปล่อยให้หนุ่มรุ่นหลานหัวเราะอย่างชอบใจ ยายบัวคลี่เดินขึ้นไปชั้นสองจัดแจงดึงผ้าคลุมเตียงออก แล้วเดินไปชะโงกหน้ามองดูตรงหน้าต่าง เห็นลูกสาวยืนชี้นิ้วสั่งให้หนุ่มตัวดำผมยาวเคราดกเปิดประตูรถให้ลูกพี่ของอีกฝ่ายช่วยอุ้มหลานสาวจอมขี้เซาลงจากรถมา สภาพตัวอ่อนนอนหลับตาซบแผงอกหนาของหนุ่มตัวล่ำบึก ทำให้คนเป็นยายส่ายหน้าระอาใจ หากเป็นคนอื่นแกคงไม่ไว้ใจให้มาอุ้มหลานสาวแบบนี้หรอก นี่เป็นคนที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็กรู้นิสัยรู้จักกันตั้งแต่ต้นตระกูล แต่เสียดายไม่ได้เกี่ยวดองกันเมื่อลูกสาวไปแต่งงานกับหนุ่มกรุง ส่วนลูกชายของบ้านนั้นไปได้สาวเหนือมาเป็นสะใภ้มีลูกกันคนละสองหน่อ รุ่นหลานเพิ่งได้เจอหน้ากันไม่รู้จะลุ้นได้ไหม ต่างกันขนาดนี้
“เอามาวางบนเตียงเลยตาทอง”
ปทุมทิพย์เดินมาจัดแจงตบหมอนให้หลานสาว ทองอุ้มน้ำผึ้งมาวางบนเตียงอย่างเบามือ เขาขยับถอยห่างปล่อยให้ปทุมทิพย์ดูแลหลานสาวต่อ แล้วหันไปพนมมือไหว้ยายบัวคลี่ที่เดินมาดูสภาพหลานขี้เซา
“ขอบใจมากนะตาทอง ยายหนูมันขี้เซาไปหน่อย เลยต้องลำบากอุ้มมาส่ง” คนแก่ขอบใจ
“ไม่เป็นไรครับยายบัว ตัวเล็กแบบนี้ไม่หนักเท่าไหร่ ผมอุ้มไหว”
ทองหันไปมองร่างเล็กบนเตียงแล้วเผลอยิ้ม ก่อนจะคลายยิ้มเมื่อเห็นสายตาของคนชรามองมา มือยกขึ้นเกาท้ายทอยแก้เขิน
“ผมกลับก่อนนะครับ จะไปดูคนงานเขาลงหน่อกล้วยแปลงใหม่”
“ตามสบาย ค่ำๆ แวะมากินข้าวนะ น้าแกงสายบัวของชอบไว้ เดี๋ยวจะตักแบ่งให้ผู้ใหญ่วรรณด้วย” ปทุมทิพย์บอก
“ครับ เดี๋ยวผมแวะมา”
ทองพนมมือไหว้แล้วเดินออกมา ปล่อยให้ผู้ใหญ่ทั้งสองดูแลหลานสาว เขาเดินลงมาชั้นล่างของบ้านเจอลูกสมุนทั้งสองคน เจ้าสมคิดมองเขาด้วยสายตามีเลศนัย ส่วนประเคนนั้นยืนตาลอยเหมือนคนตกภวังค์
“ปะ กลับได้แล้ว”
เขาตบไหล่เจ้าคนหัวทอง แล้วพยักหน้าให้คนตัวดำผมยาวที่เพิ่งหลุดภวังค์
“ลูกเพ่...”
สมคิดเรียกลูกพี่ขณะเดินตามมาที่รถ ทองหยุดเดินหันไปมองหน้าที่ยังคงมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มแปลกๆ ของลูกน้อง
“อะไร”
“หลานสาวยายคลี่น่ารักเนาะ”
“อืม”
ทองส่งเสียงในคอแล้วเปิดประตูขึ้นรถ สมคิดยังตามมาเกาะหน้าต่างรถ ยิ้มตาพราวพลางพูดอีก
“ชอบไหม”
“ชะ อื้อ ไปขึ้นรถจะเดินกลับเองหรือไง”
ทองเกือบหลุดปาก ดีที่ตั้งสติทันไล่เจ้าตัวแสบให้ขึ้นรถ บิดกุญแจสตาร์ตเครื่องยนต์เหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนตัว ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะร้องโวยวายรีบตะกายขึ้นรถแทบไม่ทัน
“ลูกเพ่เราตกหลุมรักหลานสาวยายคลี่แน่ๆ ว่ามะพี่เคน” สมคิดขึ้นรถได้ก็หันไปคุยกับคู่หู
“อือ...” คนปากหนักส่งเสียงในคอ
“พี่เคนว่าพี่ทองจะจีบติดไหม”
“อือ...”
“ฉันว่าหลานสาวยายคลี่ ท่าทางจะจีบติดยาก”
“อือ...”
“ชอบกินขี้ไหมพี่เคน!”
สมคิดถามเสียงดัง จ้องหน้าคนที่ตอบคำเดียวอย่างหัวเสีย
“อือ เฮ้ย ! ไม่ชอบ”
ประเคนครางรับตามนิสัย ก่อนจะร้องลั่นส่ายหน้าเมื่อทวนคำถามอีกที เขามัวแต่คิดถึงน้าทิพย์คนสวยเมื่อกี้ได้อยู่ใกล้ ได้เดินเฉียดๆ กลิ่นแป้งน้ำหอมโชยกรุ่นมาให้ได้กลิ่นหอมจรุงใจ ทำเอาสติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บุญวาสนาของไอ้เคนมีน้อยแค่นี้ ได้แค่มองได้ดมกลิ่นจางๆ ก็แสนจะชื่นใจ
“ได้อยู่ใกล้น้าทิพย์ถึงกับใจลอย ถามจริงๆ เหอะ เมื่อไหร่จะรวบหัวรวบหางเสียที ห้าปีแล้วนะ”
“บ้า คนเขาลูกมีพ่อแม่ พูดอะไรให้เกียรติบ้าง” คนพูดน้อยตำหนิเสียยาว
“แหมะ ถ้าเป็นไอ้คิด ไม่รอถึงห้าปีหรอก ป่านนี้ลูกสองในท้องอีกหนึ่ง”
คนขี้โม้ส่ายหน้า มองอีกฝ่ายด้วยความระอาใจ ยุยังไงก็ยุไม่ขึ้น แบบนี้รออีกสิบปีก็อยู่ที่เดิม แอบมองสาวจนหลังคาบ้านทะลุก็ไม่ได้กิน สมคิดหันไปมองลูกพี่ตัวเองแล้วอมยิ้ม รายนี้สิน่าลุ้น พี่ทองของมันมีแววตกหลุมรักหลานสาวยายบัวคลี่ สายตากับการกระทำมันบ่งบอก แต่จะใช้มุกไหนจีบหญิงมันก็อยากเห็นเหมือนกัน ตั้งแต่รู้จักกันมาลูกพี่ของมันไม่เคยต้องสำแดงฝีมือสีหญิง มีแต่ผู้หญิงมาชะม้ายชายตาให้จนแทบตบกันตาย แต่พี่ทองไม่เคยสนใจสาวๆ คนไหนมากกว่ากล้วยในสวน จนพ่อผู้ใหญ่วรรณกับแม่หอมนวลพากันถอดใจคิดว่าชาตินี้คงไร้วาสนาจะได้อุ้มหลานกันแล้ว งานนี้มันต้องไปรายงานเอาความดีความชอบสักหน่อย
