บทที่ 8
บทที่ 8
หลังจากภามสั่งให้คนจัดโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เข้ามาเชิญทั้งคู่ออกไปรับประทานอาหาร ธารทีราทำตัวไม่ถูก เมื่อภามเชิญให้นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขตแดน เพราะตอนนี้เธอและเขตแดนได้อยู่กันตามลำพังสองคน ซึ่งชายหนุ่มก็ยังคงไม่ยอมละสายตาจากเธอเลย
“เอ่อ...” ธารทีราอึกอัก เมื่อเหลือบตามองเขตแดน
“ชื่อธารทีราอย่างนั้นเหรอ” เขตแดนถามเสียงนิ่งๆ ทั้งยังนั่งกอดอกหลังพิงพนักเก้าอี้
คนที่ก่อนหน้านี้เอาแต่ก้มหน้าค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเมื่อถูกถาม ก่อนจะตอบรับเบา ๆ
“ค่ะ”
“ไม่เคยได้ยินไอ้ซีลพูดถึง” เขตแดนเริ่มถามในสิ่งที่เขาสงสัย
“พี่ซีลคงไม่อยากเปิดเผยให้คนรู้มั้งคะ คือไอซ์ถูกส่งไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กน่ะค่ะ” ธารทีราบอกออกไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“แต่ฉันรู้จักกับไอ้ซีลมาตั้งแต่เด็ก มันไม่เคยพูดสักคำว่ามีน้องสาวด้วย” เขตแดนยังคงเอ่ยออกมาเช่นนั้น เพราะเขาเป็นเพื่อนรักกับหนึ่งนทีมาตั้งแต่เด็กซ้ำยังสนิทสนมกันมากเหมือนครอบครัว เขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้ และคิดหาทางที่จะไล่ต้อนอีกฝ่ายให้พูดอะไรบางอย่างออกมา
“ไอซ์ก็ไม่เคยได้ยินชื่อพี่จากปากพี่ซีลเลยนะคะ เพราะงั้นก็คงไม่แปลกหรอกค่ะที่พี่จะไม่รู้เรื่องของไอซ์” ธารทีราเถียงกลับ ซ้ำยังทำหน้าตายใส่เขาด้วย
“เหรอ”
เมื่อเห็นดังนั้นเขตแดนก็เงียบไป เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทีน่าสงสัยเลยสักนิด
“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้าให้ชายหนุ่ม แล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าไปอย่างเงียบงัน
เขตแดนตระตุกยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นท่าทีอวดดีเถียงเก่งของเธอ จากนั้นคนทั้งคู่ก็กินข้าวกันเงียบๆ โดยมีแค่เสียงช้อนกระทบจานเท่านั้นที่ดังแข่งกัน…
หลังจากผ่านเวลาไปราวยี่สิบนาทีหนึ่งนทีก็ก้าวออกมาจากลิฟต์ เดินผ่านห้องวีไอพีที่มีเพื่อนๆ รวมกันอยู่ตรงไปยังโซนของบาร์ และเมื่อเห็นน้องสาวนั่งกินข้าวอยู่กับเขตแดนชายหนุ่มก็เอ่ยเรียกน้องสาวของตนทันที
“ไอซ์”
ธารทีรารีบวางช้อนก่อนจะหันไปมองพี่ชาย แต่ก่อนที่เธอจะหันไปก็อดที่จะแอบมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าไม่ได้ พอเห็นว่าเขาทำท่าเหมือนไม่ได้ใส่ใจ จึงหันไปสนทนากับพี่ชายของตนเอง
“พี่ซีล” เธอยิ้มกว้าง แล้วรีบพุ่งตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนกำยำของคนที่อ้าแขนรอรับเธอ
พรึบ!..
“ไง” หนึ่งนทีกอดน้องไว้ด้วยความคิดถึง และพึมพำชิดศีรษะของเธอ
“คิดถึงพี่ซีลที่สุดเลยค่ะ” ธารทีรายังกอดเอวหนาพร้อมทั้งเงยหน้ามองพี่ชาย และทำหน้าหักและเสียงงอแงใส่
“พี่ก็คิดถึงไอซ์ โตเป็นสาวแล้วนะน้องน้อยของพี่” หนึ่งนทีผละออกจากร่างบาง พลางใช้สองมือประคองใบหน้าของน้องสาวไว้ด้วยความทะนุถนอม
และคำว่า ‘น้องน้อย’ก็ทำให้เขตแดนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมนั้น ต้องชะงักมือวางช้อนไว้บนจานข้าว พร้อมกับหันไปสบตาเพื่อนที่กำลังโอบบ่าน้องสาวเอาไว้
“ไอ้ซีล”
เสียงเรียกของเพื่อนรัก ทำให้หนึ่งนทีหันไปมองแล้วเอ่ยทักทายว่า “ไอ้ดิน กูขอบใจนะ”
“อืม” เขตแดนพยักหน้ารับ แล้วลุกขึ้นยืนเดินไปหาเพื่อน ทั้งที่ยังจ้องมองคนตัวเล็กที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย
“ไอซ์รู้จักไอ้ดินเพื่อนพี่แล้วสินะ”
“ค่ะ” ธารทีราขานรับทั้งที่ยังยืนกอดเอวหนาไว้ ซึ่งเธอก็เงยหน้ามองพี่ชาย แล้วหันไปมองหน้าหล่อๆ ของเขตแดนที่ยังจ้องมองเธอตาเขม็ง…
หลังจากนั้นหนึ่งนทีก็พาน้องสาวเดินตามเขตแดนเข้ามาในห้องวีไอพีซึ่งตอนนี้มีพวกเพื่อนปาร์ตี้กันอยู่ในห้อง และเมื่อเห็นเพื่อนๆ ทุกคน หนึ่งนทีก็เอ่ยทักทายและบอกว่า
“ขอบใจพวกมึงมากที่ดูแลน้องกู”
“เออ ไม่เป็นไร คนกันเองทั้งนั้น” ภูริทเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ
หนึ่งนทีพยักหน้าให้เพื่อนทุกคน ก่อนจะหันไปบอกเขตแดนว่า
“ถ้าอย่างนั้นกูกลับล่ะ ไอ้ดิน บิลวันนี้ลงชื่อกูไว้นะ”
“ว้าววว ขอบคุณครับป๋า” ภูริทยิ้มกว้างแล้วเอ่ยเอาใจเพื่อนสนิท
“รวยก็รวย เสือกชอบของฟรี งกจริงนะมึง” จีน่าอดหมั่นไส้ภูริทไม่ได้ จึงพูดแขวะเพื่อนสนิท
“เอ้า หรือมึงไม่ชอบ” ภูริทหันไปถามเพื่อหยั่งเชิง เนื่องจากรู้ดีว่าจีน่าก็คงไม่ต่างจากเขามากนักหรอกที่ชอบของฟรี
“เออชอบ” เมื่อถูกถามมาตรงๆ จีน่าก็พยักหน้ารับ มิหนำซ้ำยังยกกำปั้นจะชกหน้าภูริทอีกต่างหาก
“จบยัง กูจะรีบพาน้องกลับแล้ว” หนึ่งนทีถามพร้อมส่ายหัวให้เพื่อนสนิททั้งสอง ที่ชอบกัดกันเหมือนหมา
จีน่าและภูริทที่ทะเลาะกันอยู่ต่างพากันหันมามองหนึ่งนทีแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“เออ”
“กูไปล่ะ” หนึ่งนทีทำหน้าเอือมระอา แล้วเอ่ยลาเพื่อนๆ ทุกคน จากนั้นเขาก็พาธารทีราเดินออกจากห้องวีไอพีไป และแน่นอนว่าหญิงสาวที่เพิ่งถูกพาออกไปจากห้องก็ยังคงตกเป็นเป้าสายตาของเขตแดนไปจนตัวเธอกับพี่ชายลับสายตา
