บทที่ 5 ผู้มีอำนาจที่สุดในจวน
บทที่ 5 ผู้มีอำนาจที่สุดในจวน
เรือนเกาอ๋อง
เกาหรงซานกลับมาถึงบ้าน เห็นเมียรักกำลังนั่งกินข้าวก็รีบไปนั่งร่วมโต๊ะ
“ข้ากำลังหิวอยู่พอดี ขอกินด้วยคนนะยอดรัก” แล้วส่งสายตาบอกป้าจินให้ตักข้าวให้ตน
“ป้าจิน ไม่ต้องตักข้าวให้ท่านอ๋อง”
“ฮูหยิน”
“ทำตามที่ข้าบอก”
“เจ้าค่ะ” แม้ฮูหยินจะกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่สายตาที่มองมานั้นก็ทำให้นางไม่กล้าขัด ต่อให้ท่านอ๋องจะดุกว่าพระชายาเพียงใด แต่ทุกคนในบ้านนี้ก็รู้ดีว่าต้องเชื่อฟังคำสั่งของใครมากกว่ากัน
“ต้าเอ๋อร์ ไยถึงทำเช่นนั้นเล่า ข้าหิวนะ” เกาหรงซานใจคอไม่ดีเอาเสียเลย แต่ก็ยังทำหน้าทะเล้นหยอกเอิน
“ท่านพี่ไม่ต้องมาเอาใจข้าหรอก ข้ารู้ว่าท่านกินอิ่มมาแล้ว จะมาฝืนกินเป็นเพื่อนข้าอีกทำไม”
“ข้าหรือกินอิ่มมาแล้ว เจ้าเอาอะไรมาพูด”
“ฝ่าบาทคงไม่ปล่อยให้ท่านหิ้วท้องกลับมาเวลานี้หรอก ข้ารู้”
“ไม่จริง ฝ่าบาทใจร้ายกับข้านัก ใช้งานข้าเยี่ยงวัวเยี่ยงม้าทุกคืนเจ้าก็รู้ ข้าเหนื่อยและก็หิวมากด้วย ให้ข้ากินข้าวต้มด้วยเถิดนะยอดรักของข้า”
ปุก!
ถ้วยข้าวต้มที่เพิ่งพร่องไปเล็กน้อยถูกกระแทกลงบนโต๊ะตรงหน้าผู้เป็นสามีจนกระฉอกออกมานอกถ้วย
“เช่นนั้นก็เชิญกินให้อิ่มเถิด” พยายามอย่างยิ่งที่จะพูดเสียงหวานกับเขา แต่กระนั้นก็ยังมีความห่างเหินอยู่ในน้ำเสียง
“ฮูหยิน” เกาหรงซานรีบลุกขึ้นคว้ามือของเมียรักเอาไว้ “เป็นอะไรเล่า ทำไมถึงมึนตึงกับข้านัก”
“อย่าเรียกข้าว่าฮูหยิน เพราะมันทำให้ข้าคิดว่าท่านกำลังทำผิดต่อข้าอยู่”
“พระชายา” เขารีบกลับคำ และอยากตบปากตัวเองที่ทำเหมือนยอมรับผิด “ยอดรัก ต้าเอ๋อร์ ไยถึงเย็นชากับสามีนักเล่า”
“ข้าเหนื่อย ท่านกินข้าวไปเถิด ข้าจะไปนอนแล้ว”
“เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าไปนอน”
“ไม่ต้อง แค่นี้ข้าไปเองได้ กินข้าวให้อิ่มท้องเถิด ป้าจินดูแลท่านอ๋องให้ดี พรุ่งนี้มาบอกข้าด้วยว่าเขากินข้าวหมดถ้วยสมกับความหิวหรือเปล่า” กล่าวจบก็ดึงมือออกจากการเกาะกุม เดินหน้าเชิดจากไปเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
“ต้าเอ๋อร์”
“ท่านอ๋อง” ป้าจินรีบส่งเสียงเรียกประมุขของบ้านที่ทำท่าจะตามภรรยาออกไป “กินข้าวเถิด อย่าทำให้ฮูหยินโกรธไปมากกว่านี้อีกเลย” เตือนสติอย่างคนแก่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน
เกาอ๋องจำใจต้องนั่งลงที่เดิม ยกถ้วยข้าวต้มกับตะเกียบแล้วก็ถืออยู่อย่างนั้นด้วยสีหน้าที่ขึ้งเครียด
“ป้าจิน”
“เจ้าคะท่านอ๋อง”
“ข้าควรทำอย่างไรดี”
“ท่านอ๋องทำผิดต่อนางหรือเปล่าเจ้าคะ”
“ก็ทำนองนั้น ข้ามั่นใจว่าข้าไม่ได้ทำผิด.. แต่ก็ยังหาเหตุผลดี ๆ มาบอกนางไม่ได้”
“ก็ขอโทษนางสิเจ้าคะ สารภาพกับนางไปตรง ๆ นางเป็นคนจิตใจดีและมีเหตุผล นางไม่โกรธท่านอ๋องนานหรอกเจ้าค่ะ”
“แต่เรื่องนี้ข้าเกรงว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้นสิป้าจิน”
“ต่อให้ร้ายแรงเพียงใดนางก็ยอมให้อภัยท่านอ๋องแน่ เพราะนางรักท่านอ๋องมาก นางอาจจะช่วยท่านอ๋องแก้ปัญหาก็ได้”
“..ก็ขอให้เป็นอย่างที่บอกเถิดป้าจิน” หวนคิดถึงครั้งที่เคยทิ้งจดหมายหย่าไว้ให้นางเมื่อประมาณสิบปีก่อน
ครั้งนั้นกว่าจะได้นางกลับคืนมาก็ต้องใช้ทั้งเล่ห์และกลอุบาย ใช้เวลานานเป็นเดือนกว่าจะลงเอยด้วยดี
ยังจำคำสัญญาได้ขึ้นใจ ว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อนางเพียงผู้เดียวไปตลอดชีวิต แต่ตอนนี้เขาทำผิดสัญญากับนางไปแล้ว เขากลัวเหลือเกินว่านางจะไม่ยอมให้อภัย จึงเลือกที่จะปกปิดเอาไว้ แต่ความลับไม่เคยมีในโลกใบนี้ ต่อให้วันนี้นางไม่รู้ วันหน้าก็ต้องรู้จนได้
เฮ้อ..เจ้าจะทำอย่างไรดีเล่าเกาอ๋องผู้เคยปราดเปรื่องเอ๋ย
เช้าวันใหม่
“ฮูหยินเล่า”
“นางไปเดินเล่นในสวนเจ้าค่ะ”
“ตั้งแต่เช้าแบบนี้นี่นะ”
“เจ้าค่ะ”
“อากาศก็หนาว ๆ แบบนี้นี่นะ”
“เจ้าค่ะ.. ท่านอ๋องจะไปไหนเจ้าคะ” ป้าจินถามคนที่กำลังหมุนตัวจะกลับออกไปทางเดิม
“ข้าจะไปหานาง”
“ฮูหยินสั่งไว้ว่าไม่ให้ท่านอ๋องตามนางไปเจ้าค่ะ”
ไร้คำพูดใดหลุดจากปากของเกาอ๋อง นอกจากคิ้วที่ขมวดมุ่นกับหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนไม่สบายใจ
“ถ้าท่านไม่ทำตามนางจะลงโทษข้าด้วยการลงแส้ห้าไม้เจ้าค่ะ” ป้าจินรีบเตือนเมื่อเห็นเขาขยับเท้าจะจากไป
“นางหรือจะกล้า” โกรธเขาแล้วจะไปลงกับคนอื่นกระนั้นหรือ.. เขามั่นใจว่านางไม่ใช่คนไร้เหตุผลถึงเพียงนั้น
“ท่านอ๋อง”
“ป้าจินฟังข้านะ เมื่อคืนนางแยกห้องนอนกับข้า ข้าไม่มีโอกาสได้คุยกับนางสักคำ มาเช้านี้นางก็ยังหนีหน้าข้าอีก ถ้าข้าไม่ได้เจอหน้านาง ไม่ได้คุยกับนางให้รู้เรื่อง ข้าได้อกแตกตายแน่” บุรุษชาตินักรบพรั่งพรูคำพูดอัดอั้นให้คนเก่าคนแก่ฟัง
เมื่อคืนใช่ว่าเขาจะใช้พลังยุทธ์บุกเข้าไปในห้องไม่ได้ เขาทำได้ง่ายมาก ๆ ด้วย แต่ที่ไม่ทำก็เพราะนางคือเมียรัก เมียที่รักมาก ๆ จนต้องให้ความเกรงใจ ไม่กล้าทำให้นางขัดเคืองใจมากไปกว่าเดิม จึงยอมอดทนอดกลั้นนอนวังเวงอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่เพียงลำพัง
“เช่นนั้นก็เชิญไปหานางเถิดเจ้าค่ะ” ป้าจินผายมือให้อีกฝ่าย ต่อให้ต้องโดนแส้ห้าไม้จริงนางก็จะยอม เพื่อให้ผัวเมียได้ปรับความเข้าใจกัน เพราะนางอยากเห็นรอยยิ้มของพวกเขามากกว่าสีหน้าอมทุกข์อย่างตอนนี้
