บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9

KwanKwan Part

“พี่จะให้เรายืนโซน D นะ เราเป็นพนักงานใหม่ อยู่โซนนี้เป็นลูกค้าทั่วไปไปก่อน แล้วถ้าพี่เห็นว่าเราทำงานได้ เราค่อยเลื่อนไปโซนอื่นๆ นะ”

“ได้ค่ะพี่คิว”

ตอนนี้ฉันมาเริ่มงานใหม่วันแรกแล้วล่ะ

ตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย

เพื่อนร่วมงานของฉัน มีเยอะมาก แต่คนที่ฉันพอจะคุยและสนิทได้ มีอยู่คนหนึ่งชื่อพี่ออย และมีหัวหน้าที่ใจดีอีกคนหนึ่งชื่อพี่คิว

มาถึงพี่เขาก็บอกกฏมากมายของที่นี่ ที่ทำเอาฉันแทบจำไม่ทัน โดยเฉพาะกฏที่ต้องปฏิบัติต่อเจ้าของของที่นี่

หลักๆ เลยก็มี

ถ้าเขามา พวกเราต้องก้มหัว..นี่มันบ้าอำนาจชะมัดเลย ว่ามั้ย

ห้ามเข้าไปใกล้เขาในรัศมี 2 เมตร

ห้ามพูดคุย ให้ความสนิทสนมกับลูกค้าเด็ดขาด แม้ว่าจะเป็นคนที่รู้จักก็ตาม

อยู่เฉพาะในโซนที่ตัวเองรับผิดชอบเท่านั้น

ทำงานพลาด เท่ากับ ไล่ออกทันที

เอาจริงๆ คือกฏมันเยอะมากกก แต่โดยรวมก็คือ อยู่สงบเสงี่ยมเจียมตัวให้มากที่สุด ห้ามยุ่งกับลูกค้าและห้ามยุ่งกับเจ้าของที่แห่งนี้

และมันก็ไม่ได้ยากสำหรับฉันสักเท่าไรหรอก เพราะเรื่องอยู่คนเดียวเงียบๆ ฉันชินแล้วล่ะ..

อ่อ ยังมีอีกเรื่อง ที่มันไม่ได้เป็นกฏ แต่ทุกคนในที่นี้ต้องรู้เอาไว้ นั่นก็คือ ต้องจดจำสัญลักษณ์ต่างๆ ให้แม่น..ถ้าลูกค้าคนไหนที่มีรอยสักตรงข้อมือตรงกับสัญลักษณ์เหล่านั้น ให้เพ่งเล็งและระวังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมมนสองอันคล้องกัน คล้ายกับรูปโซ่..

“ครับ..ครับ..ได้ครับ” พี่คิว หรือหัวหน้าฉัน คุยโทรศัพท์ ด้วยสายตาที่เคร่งเครียดเล็กน้อย จากนั้นก็วางสายไป

และจากวางสายพี่คิวก็พูดขึ้นมาทันที..

“วันนี้คุณเรียวเข้า.. ข้าว..อย่าลืมที่พี่บอกกฏไปล่ะ” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะแตะลงบนบ่าฉันสองสามครั้ง จากนั้นก็เดินไปจากตรงนี้ ทำให้ฉันต้องหันไปหาเพื่อนร่วมงานใหม่ ที่เป็นพนักงานเก่าที่นี่ด้วยความสงสัย

“ทำไมพี่คิวจริงจังขนาดนั้นอะ พี่ออย”

หลังฉันพูดจบ พี่ออยก็หันซ้ายทีขวาที ก่อนจะกระซิบข้างหูฉันด้วยความกลัวว่าใครจะมาได้ยิน

“คุณเรียวเป็นมาเฟียน่ะ ที่สำคัญคือโหดมาก ถ้าเขาไม่พอใจเขาสามารถเอาเราไปฆ่าได้เลยนะ”

ฮะ!

ฉันได้แต่ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นี่ฉันมาทำงานให้มาเฟียเหรอเนี่ย

เอือก..

แต่เอาเถอะ เราไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกันอยู่แล้ว..ฉันก็แค่ทำงานของตัวเองไป ต่างคนต่างอยู่..

“มีอะไรสงสัยถามได้ตลอดนะข้าว พี่ไปยืนประจำที่ก่อนนะ”

“ค่ะ ^ ^”

พอฉันได้มาทำที่นี่ ฉันก็ได้ข้อคิดอะไรอย่างหนึ่ง..ความจริงใจหาได้ง่ายในคนจน..เพราะที่นี่ เราทุกคนเท่าเทียมกันหมด ทุกคนไม่ได้คบกันเพราะผลประโยชน์ และน้ำใจที่ทุกคนมีให้ ก็มาจากใจกันทั้งนั้นจริงๆ ..

เอาล่ะ ฉันจะมามัวชื่นชมกับมิตรภาพใหม่ไม่ได้

เพราะวันนี้ ฉันทำงานวันแรก

ฉันต้องจริงจัง และฉันจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด!!!

“ข้าว ก้มหัวตามพี่นะ”

ตอนนี้ทุกคนมายืนรอรับ คุณเรียว หรือมาเฟียที่พี่ออยบอกมา ที่หน้าลิฟต์ และดูแล้วทุกคนจะเกรงกลัวมาก ว่าฉันจะทำพลาด เลยพยายามบอกฉันใหญ่ว่าก้มแบบนี้ องศาเท่านี้ ก้มเมื่อไร ขึ้นเมื่อไร

เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?

และพอฉันเอ่ยปากถามออกมา แม้แต่เสียงตอบยืนยันก็ยังไม่มี มีแค่การพยักหน้าเงียบๆ เท่านั้น..

นั่นเลยทำให้การมายืนก้มหัวครั้งนี้ฉันเกร็งเพิ่มอีกเป็นสองเท่าตัว..

นี่ฉันโดนจ้างมาทำงาน หรือจ้างมาก้มหัวกันแน่เนี่ย เครียดยิ่งกว่าตอนทำงานซะอีก

แล้วจะไม่ให้ทำก็ไม่ได้ เพราะพี่คิวบอกว่า เขารู้การเคลื่อนไหวของการเข้าออกพนักงานที่นี่หมด และการที่ฉันมาทำงานวันนี้วันแรก เขาก็รู้

เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่มายืนจะโดนเพ่งเล็งและดูไม่ดี นั่นเลยทำให้ตอนนี้ฉันมายืนซ้อมก้มหัวให้พวกพี่ๆ ดูกันจนฉันคอแทบจะเคล็ดแล้วล่ะ

“โอเค ก้มแบบนี้เลยข้าว เพอร์เฟกต์”

“เอาล่ะทุกคน ตอนนี้คุณเรียวขึ้นลิฟต์แล้ว ทุกคนยืนประจำที่”

พรึ่บ พรึ่บ

ฮืออ.. นี่มันคนหรือหุ่นยนต์กันแน่เนี่ย

เพราะตอนนี้ทุกคนยืนกันตรงดิ่งและช่องว่างห่างของแต่ละคนก็แบ่งกันราวกับเอาไม้บรรทัดมาวัดไว้ เพราะมันห่างเท่ากันหมดเลย

ติ่ง!

ครืดดดด

ทันทีที่เสียงลิฟต์ออก ทุกคนก็เริ่มก้มหัวลงทันที รวมถึงตัวฉันด้วย..

เมื่อกี้ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ที่ฉันเห็นคนในลิฟต์ ราวประมาณ สามคน โดยคนที่ยืนตรงกลาง คือคนที่ฉันคิดว่า น่าจะคือคนที่ทุกคนเกรงกลัวกันอยู่ในตอนนี้.. เพราะใบหน้าที่นิ่งเฉยและยังดูดีราวกับรูปปั้น รวมถึงความรู้สึกอะไรบางอย่างที่บอกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

กอก กอก กอก กอก

ตอนนี้ทุกอย่างในบริเวณนี้ ต่างเงียบงัน ไร้เสียงใดๆ นอกจากเสียงฝีเท้าของคนที่ทุกคนกำลังก้มหัวให้อยู่ในตอนนี้

ฉันมองเห็นเพียงรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม ทรงสวยดูหรูหรา พร้อมกับชายกางเกงสีดำเข้ารูปเท่านั้น แต่มันจะไม่อะไรเลย ถ้ารองเท้าและชายกางเกงนั้น ไม่ได้หยุดเดินและเปลี่ยนทิศทางเท้าหันมาทางฉันแทน!!

นี่ฉันทำอะไรผิด หรือฉันก้มต่ำไป หรือฉันก้มน้อยไป หรือว่า..ฉันใส่ชุดในเครื่องแบบอะไรผิด!

เนื่องจากฉันยังเงยหน้าไม่ได้ ฉันเลยก้มดูกางเกงและเสื้อที่ฉันใส่คร่าวๆ ว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า พร้อมกับแอบเหล่ตามองไปยังของพี่ๆ ข้างๆ ก็เห็นว่า ทุกอย่างเหมือนกัน ฉันไม่ได้ใส่อะไรผิดไปจากคนอื่น

แต่..ทำไมเขาต้องหยุดตรงหน้าฉัน แล้วยังไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

ฉันควรเงยหน้าดีมั้ย หรือจะก้มต่อไปดี

ตึกตึก ตึกตึก

โอ๊ยยยย นี่มันงานบ้าบออะไรกันเนี่ย ทำไมฉันต้องมาเครียดกับแค่การก้มหน้าให้ใครก็ไม่รู้ด้วย..

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel