ตอนที่ 8
“พ่อขาา แม่ขาาา ข้าวกลับมาแล้วค่าาาา”
ฟอดดด
ฟอดดด
“โตขนาดนี้แล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กๆ อยู่ได้นะยัยข้าว”
“ข้าวจะหอมและกอดพ่อกับแม่แบบนี้ไปจนแก่เลยยย” ฉันพูดพร้อมกับกอดแม่อีกครั้งให้ชื่นใจ.. และส่งสายตายิ้มหวานไปยังพ่อของฉัน ก่อนจะผละจากแม่และไปกอดพ่อฉันด้วยเช่นกัน
สองคนนี้คือ เชื้อเพลิงอย่างดีสำหรับฉัน ที่เติมให้ฉันมีแรงและมีไฟที่จะก้าวเท้าออกจากบ้านไปเจอโลกที่โหดร้ายทุกวัน..
“อย่าไปทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหนนะ พ่อเอามันตาย”
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ข้าวจะไปทำกับใครได้ ก็มีแต่พ่อและแม่เท่านั้นล่ะที่ข้าวจะทำ และจะทำทุกวันด้วย”
ฟอดดดด
“ไม่ได้สิพ่อ..ลูกเราต้องแต่งงาน ไม่งั้นเราจะได้อุ้มหลานเหรอ”
“เออว่ะ..แต่ยังไงมันก็ต้องผ่านพ่อก่อนนะ”
“คุยอะไรกัน ข้าวบอกแล้วไง ว่าอยู่กับพ่อและแม่ไปจนแก่นั่นล่ะะะ”
“อยู่ไปจนแก่อะไร ถ้าพ่อกับแม่คิดแบบนี้ ก็คงไม่มีลูกที่น่ารักๆ มาหนึ่งคนแบบนี้หรอก”
“ใช่ๆ ได้ทั้งเมียที่น่ารัก และลูกที่น่ารักแบบนี้ พ่อนี่โชคดีจริงๆ ”
“แหม พ่อก็..”
“อะแฮ่มๆ หนูอยู่ตรงนี้นะค้าา สวีทกันเกินไปแล้ววว”
“งั้นก็หาแฟนสิลูก”
“เออ..กินข้าวกันดีกว่า ข้าวซื้อขาหมูของโปรดพ่อมาด้วย ม่ะๆ มากินกันๆ ”
“ฮ่าๆ ๆ ไหนๆ ..พ่ออยากกินอยู่พอดีเลย”
นั่นคือบทสนทนาทั่วไปของบ้านหลังนี้ของฉันเอง บ้านหลังเล็กแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุข
ถึงแม้ว่าบ้านเราจะไม่ได้รวย ไม่ได้ใหญ่โต เป็นเพียงเรือนไม้เล็กๆ เก่าๆ แต่ครอบครัวเราก็มีกินมีใช้กัน ไม่ได้เดือดร้อนอะไรใคร..และที่สำคัญ พวกเราก็รักกันเอามากๆ เลยล่ะ
“เรียนวันนี้ เป็นไงบ้างลูก” และนั่นก็เป็นคำถาม ที่พ่อและแม่ฉันถามไถ่ฉันทุกวัน หลังจากฉันกลับมาจากมหาลัยนรกนั่น..
แต่ฉันก็ส่งยิ้มไปให้พวกท่านและตอบกลับไปอย่างร่าเริงเช่นเดิม
“สนุกมากเลยย วันนี้ข้าวติวหนังสือให้เพื่อนๆ ด้วยน้าา นีน่าบ่นใหญ่เลยว่าข้าวอะเก่ง ข้าวก็เลยตอบไปว่า เก่งเหมือนพ่อกับแม่ไง ^ ^”
ใช่แล้วล่ะ เรื่องเพื่อนที่มหาลัยแกล้งฉัน ถากถาง และดูถูกฉัน
เรื่องพวกนั้น ไม่เคยถึงหูพ่อและแม่ของฉันเลยสักครั้งเดียว และฉันก็ทำเป็นร่าเริงและมีความสุขมาตลอด เมื่อพูดถึงมหาลัยนั่น..
“แม่เห็นลูกมีความสุข แม่ก็ดีใจ..อีกไม่กี่เดือนลูกเราก็จะปีสามแล้ว เวลาผ่านไปเร็วเนอะพ่อ..”
แต่สำหรับฉันมันช้ามาก ฉันอยากให้พรุ่งนี้ลืมตา ก็พบว่าเป็นวันรับปริญญาเลยด้วยซ้ำไป..
“นั่นสิ..พ่อกับแม่ภูมิใจในตัวลูกจริงๆ ทั้งสวย น่ารัก และเก่งขนาดนี้ ลูกเขยพ่อต้องคัดสรรดีๆ หน่อยแล้วล่ะ..”
“หยุดพูดเรื่องลูกเขยได้แล้วพ่อ..เรามาคุยเรื่องอื่นดีกว่า..ข้าวว่า ข้าวจะทำงานเสริมอะ”
“ลูกจะเหนื่อยเกินไปรึเปล่า แล้วงานมหาลัยล่ะ..หนักมั้ย”
แม่ฉันพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาทัดหูฉัน ก่อนจะตบมือฉันเบาๆ ด้วยสายตาที่กลัวฉันจะเหนื่อยเกินไป.. แต่เพื่อคนตรงหน้าสองคนนี้ ฉันไม่เหนื่อยหรอก
“ไม่ค่ะ ข้าวไม่เหนื่อย..ข้าวแค่มาบอกพ่อกับแม่เฉยๆ เพราะพรุ่งนี้ ข้าวจะกลับบ้านดึกหน่อยนะคะ..”
ก็ตามที่ว่านั่นล่ะ..ฉันได้งานแล้ว
เรื่องมันมีอยู่ว่า
แม่ของฉันขายดอกไม้ และพวงมาลัยที่ร้อยขายเอง ทุกวันแม่ฉันจะมีออเดอร์ล้นหลาม เนื่องจากฝีมือของแม่จันดีของฉัน ใครๆ ก็พูดกันปากต่อปากว่าแม่ร้อยพวงมาลัยสวย และประณีต
นั่นมันก็ดี..งานเข้ามาเยอะ เงินก็ตามมาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ ช่วงหลังๆ ที่ฉันรู้สึกว่าแม่ฉันรับงานมาหนักมาก ท่านนอนดึกๆ ดื่นๆ ทุกวัน แม้ว่าฉันจะอยู่ช่วยแม่ด้วย แต่ฉันทนเห็นแม่อดหลับอดนอนทุกคืนไม่ได้หรอกนะ
ฉันจึงตัดสินใจที่จะเริ่มออกหางานทำ แต่แล้วก็เหมือนโชคชะตาเข้าข้างฉันซะเหลือเกิน เพราะอยู่ๆ ระหว่างที่ฉันกำลังเดินทางกลับจากมหาลัย..ก็มีคนมาแจกใบปลิวหาพนักงานพอดี แต่ที่มันล่อตาล่อใจสุดๆ ก็คือเงินเดือนนี่ล่ะ
มันได้ตั้งสามหมื่นบาทต่อเดือนเลยนะ
แต่พอฉันรู้ว่ามันเป็นงานอะไร ก็ไม่แปลกใจสักเท่าไร..ที่มันจะแพงขนาดนั้น แต่ก็ไม่เคยคิดจริงๆ ว่าเรทเงินเดือนงานแบบนี้จะได้สูงขนาดนี้
ฉันเลยตัดสินใจไปที่นั่นและขอสมัครทันที ตอนแรกฉันก็กังวลว่าจะได้งานหรือเปล่า มันต้องมีประสบการณ์มั้ย แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด เพราะทางร้านถามคำถามแค่สามคำถาม เท่านั้น แล้วก็รับฉันทำงานเลย
คำถาม คือ ชื่ออะไร รู้ช่องทางการสมัครจากไหน และเริ่มงานได้วันไหน
อะไรมันจะโชคดีขนาดนั้นนะ และนั่นก็เลยทำให้ฉันตกลงรับเลยทันที..
ตอนนั้นมันดีใจไง และส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเงินเดือนมันล่อตาล่อใจมาก นี่ยังไม่รวมกับทิปอีกนะ ฉันก็เลยรับปากไป
แต่พอระหว่างขากลับฉันก็มาคิดๆ ดู ว่ามันแปลกไปหรือเปล่า เงินเดือนสูงขนาดนั้น ไม่ถามสักหน่อยเหรอ ว่าฉันมีประสบการณ์ทางนี้หรือเปล่า? แล้วแบบความอดทน ความตั้งใจในการทำงานไรพวกนี้ ไม่ถามหน่อยเหรอ
แต่พอฉันเอาชื่อสถานที่นี่ไปค้นหาดู ก็พบว่ามันคือสถานที่ที่ใหญ่อันดับต้นของประเทศเลยเชียวนะ และก็มีมาหลายปีแล้วด้วย..เพราะฉะนั้นเรื่องหลอกลวงพนักงานหรือต้มตุ๋นคงไม่มีหรอก..แม้ว่าสถานที่แบบนั้นจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไร แต่ฉันก็คิดว่าลองไปทำดูสักวัน ก็คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง
งานนี้มันไม่ได้เป็นงานที่ดี แต่มันก็ไม่ได้แย่.. และมันโอเคในเรื่องของเวลาด้วย ที่ทำเฉพาะช่วงกลางคืน ซึ่งมันดีมากๆ สำหรับนักศึกษาอย่างฉัน และงานนั่นก็คือ ..พนักงานในคาสิโน
“ได้งานแล้วเหรอลูก ทำงานที่ไหน”
“พนักงานเสิร์ฟทั่วไปค่ะแม่ เออ..งานนี้มันเลิกดึกหน่อยนะแม่ มันเป็นร้านเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง เลยทำให้ข้าวอาจจะต้องเข้ากะดึก ก็จะเลิกดึกหน่อย ”
ฉันบอกความจริงไม่ได้หรอก ว่าฉันทำที่ไหน..ไม่งั้นพ่อกับแม่คงเป็นห่วงและไม่ให้ไปอย่างแน่นอน
ฉันส่งยิ้มให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่และพ่อของฉันด้วยความสุข จนกระทั่ง พ่อของฉันเอื้อมมือมาลูบหัวของฉันเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบาๆ พร้อมส่งยิ้มมาให้ด้วยความรัก
“พ่อขอโทษนะ ที่พ่อทำให้ลูกต้องเหนื่อย”
“เหนื่อยที่ไหน คนเรามันต้องมีประสบการณ์สิ ต้องออกไปเจอโลกเยอะๆ จะได้เก่งเหมือนพ่อ..กับแม่ไง .. แล้วหลังจากนี้ ข้าวจะดูแลพ่อเองนะคะ ^ ^”
ฉันพยายามที่จะไม่อ่อนแอให้พวกท่านเห็น ก็เหมือนที่พวกท่านไม่แสดงความอ่อนแอให้ฉันเห็นเช่นกัน จึงทำให้เราพ่อแม่ลูกต่างส่งยิ้มให้ฉันด้วยความรัก
“ถ้าเหนื่อย..ก็หยุดพักนะลูก..อย่าฝืน”
“ค่ะพ่อ...^ ^”
เอาล่ะ หลังจากนี้ ฉันจะต้องยืนได้ด้วยตัวเอง..ฉันต้องดูแลพ่อกับแม่ฉันไม่ให้พวกท่านต้องเหนื่อยอีกต่อไป
Ken Part
“ไม่พาแฟนมึงมาด้วยเเหรอวะ ฮ่าๆ ”
“ไอ้สัส”
พู่วววววว
เมื่อหลายวันก่อน ไม่รู้ใครแม่งปล่อยข่าวว่าผมมีแฟนแล้ว แล้วข่าวนั่นก็ดังแพร่สะพัดไปทั่ว จนไอ้ไนท์เอามาล้อผมในตอนนี้ยังไงล่ะ
“สรุปว่าไง แอบซุกแฟนไว้แล้วไม่บอกเพื่อนเหรอ มึงอะ”
พู่วววววว
“พวกมึงมาซุกตีนกูก่อนมั้ย สัส” ผมพูดพร้อมกับยกนิ้วส่งไปให้มันทันที กับความกวนตีนของเพื่อนผม..
ตอนนี้ผมให้ลูกน้องผมตามไปสืบอยู่..ว่าใครเป็นคนที่แอบอ้าง
อย่าให้กูรู้นะ แม่งจะจับฆ่าให้หมดเลย
“กูว่า แม่งเป็นเรื่องโจ๊กที่ฮาสัส ถ้ามึงมีแฟนนะไอ้เคน กูว่าแฟนมึงต้องโคตรน่าสงสารเลยว่ะ”
ผมเลิกคิ้วส่งให้ไอ้ไนท์ทันที ก่อนที่มันจะพูดต่อ
“ก็ถ้าแฟนมึงพูดจาไม่เข้าหู มึงไม่ซ้อมเช้าซ้อมบ่ายเลยหรือไง๊!”
“ไอ้เหี้ยไนท์ หน้ากูเหมือนคนที่ชอบทำร้ายผู้หญิงหรือไง แล้วอีกอย่างเลิกพูดคำว่าแฟนกูได้แล้ว ขนลุกแม่ง สัสเอ๊ย!! ”
อึก อึก อึก
ปั่ก!!
ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์ขึ้น ผมเลยยกเครื่องดื่มตรงหน้าเข้าปากก่อนจะกระแทกแก้วลงโต๊ะด้วยอารมณ์ที่โมโห
แม่งอย่าให้เจอตัวคนปล่อยข่าวนะ!!
“เอาจริง ถ้าไอเหี้ยเคนมี กูว่าไอ้เคแม่งก็มีได้”
“แล้วมึงล่ะ?” ผมหันไปถามไอ้ซัน คนที่พูดประโยคก่อนหน้าพร้อมกับเลิกคิ้วกวนไป
จริงๆ อย่าว่าแต่ไอ้เค หรือ ไอ้ซันเลย ผมว่าทั้งกลุ่มผมนั่นล่ะ..ที่ไม่มีวันมีคนรักหรอก ..ผมนึกภาพมีคนรักของพวกมันไม่ออกเลยจริงๆ
อ่อ..ยกเว้นไอ้ไนท์..ที่ผมเคยเห็นเป็นหนักช่วงหนึ่งของชีวิต..แต่มันไม่รู้ตัวเองหรอก
“มีไปทำไมวะ ภาระชีวิตฉิบหาย อยู่กินผู้หญิงไปเรื่อยๆ แบบนี้ มีความสุขที่สุดละ”
พู่วววววว
หลังจากไอ้ซันพูดจบ ผมก็ยกนิ้วส่งไปให้มันทันที และครั้งนี้ก็ไม่ใช่นิ้วกลางเหมือนกับทุกครั้ง แต่คือนิ้วโป้ง! เพราะแม่งมันพูดถูกใจผม
มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิต เท่ากับฆ่าตัวตายชัดๆ และก็เป็นภาระชีวิตอย่างที่ไอ้ซันมันว่านั่นล่ะ..
“นายครับ ผมได้ข้อมูลมาแล้ว” เสียงจากเครื่องสื่อสารที่ไอ้ซันคิดค้นให้พวกผม ที่แฝงไว้ในรูหู ก็ดังออกมา จากการรายงานของลูกน้องผมเอง..
ติ้ง..
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือใหม่ล่าสุด ออกมาดูรายงานของลูกน้องผมเกี่ยวกับสิ่งที่ผมกับเพื่อนเพิ่งคุยประเด็นก่อนหน้านี้กัน..และทันทีที่ผมเปิดดูรูปและข้อมูล ผมก็ค่อยๆ ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
หึหึ..บางทีโลกมันก็กลมนะ หาตั้งนานไม่เจอ แต่พอบทจะเจอมันก็ง่ายแค่นี้เอง..แถมอีกฝ่ายยังเป็นคนเข้ามาเองซะด้วย
ที่ผ่านมาปีกว่าๆ ผมให้ทุกคนหารายชื่อเด็กมัธยมที่ชื่อข้าว ที่กระบี่สถานที่ที่ขึ้นเรือในวันนั้นมาตลอด แต่ผมก็ไม่เคยเจอตัวเลยสักครั้ง แต่ผมก็เข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไมไม่เจอ..เพราะยัยนี่ไม่ได้เป็นเด็กมัธยม และไม่ได้อยู่ที่กระบี่..
“ทำยังไงก็ได้ ให้ยัยนั่นมาสมัครเป็นพนักงานคาสิโนกูให้ได้”
ผมกรอกเสียงส่งไปให้ลูกน้องคู่ใจของตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ผมเปิดดูรูปของยัยนี่ที่รู้สึกว่าเปลี่ยนไปเล็กน้อยผ่านทางหน้าจออีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มที่รู้สึก อีกไม่นานผมคงมีเรื่องสนุกให้เล่นสินะ..
หึหึ..บอกแล้ว..ต่อให้ห้าปีสิบปี ผมก็ไม่มีทางลืม..
แล้วเจอกัน ขวัญข้าว!
