สยบรักร้ายเจ้าชายสายเถื่อน

340.0K · จบแล้ว
LamoonLove
113
บท
111.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ผมเกลียดเวลาที่เธอทำเสียงเล็กๆ ผมเกลียดเวลาที่เธอส่งสายตามีความสุข สดใสผมเกลียดเวลาที่เธอยิ้มอย่างร่าเริงผมเกลียดร่างกายที่สัดส่วนลงตัว จนผมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้!!เธอน่ะมันเป็นปีศาจ..ขวัญข้าว…ฉัน ขวัญข้าว ผู้หญิงธรรมดา ที่ถึกและบึกบึน..ไม่ว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายแค่ไหนฉันก็รับไหว แต่ทำไม ฉันต้องมาเจอผู้ชายเถื่อนและโหดร้ายอย่างเขาด้วยนะ ..

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักท่านอ๋องรักหวานๆโรแมนติก

ตอนที่ 1

ฟิ้ววววว

เฮ้ววว

ณ ลานสนามแข่งรถขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแห่งนี้ ต่างเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่หลงใหลและคลั่งไคล้ในวัตถุทรงประหลาด ที่สร้างความเร็ว ความแรง ให้พวกเขาเหล่านั้นได้ส่งเสียงเชียร์กันอย่างสนุกปากในตอนนี้

นอกจากจะเป็นมือเชียร์แล้ว พวกเขายังสามารถลงเป็นผู้ขับเคลื่อนวัตถุนั้นเองได้ ถ้ามั่นใจว่าเจ๋งจริง เครื่องแรงจริง

และอย่าหวังริจะเล่นสกปรกในสถานที่แห่งนี้เด็ดขาด เพราะวันนั้นอาจจะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้มีลมหายใจก็เป็นได้.. เพราะไม่มีใครที่เล่นสกปรกในที่แห่งนี้ หลุดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ที่นี่ ไปได้เลยสักคนเดียว

สิ่งสนุกรองเหนือจากการแข่งแล้ว ก็ยังมีการเดิมพันที่ผู้แข่งเป็นคนสร้างข้อตกลงกัน ว่าจะให้มีหรือไม่มีก็ได้ และคงไม่ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไร..

แน่นอน ถ้าไม่มีของเดิมพัน การแข่งมันจะไปสนุกอะไรล่ะ..

  สนามแข่งรถของที่แห่งนี้ มีอยู่ 4 สนาม โดยมีระยะทาง 4 3 และ 2 กิโลเมตร ส่วนอีก 1 สนาม ก็มีระยะทาง 4 กิโลเมตรเช่นกัน แต่ที่ไม่เอาไปเหมารวมกับก่อนหน้านี้ เพราะสนามนี้ ถูกแยกออกมาสำหรับลูกค้าวีไอพีและพรีเมี่ยมเท่านั้น ส่วนลูกค้าทั่วไป คงทำได้เพียงจินตนาการ ว่าสนามนี้มันเป็นอย่างไร เพราะที่แห่งนี้ไม่มีภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวใดๆ ให้ทุกคนได้เห็นกัน มีเพียงแค่ปากต่อปากเท่านั้น เนื่องจากต้องการสร้างความเหนือชั้นอีกระดับ และสร้างความตื่นเต้นให้กับคนที่หลงใหลในการแข่งรถ และแนวคิดนี้ก็มาจากเจ้าของสนามแห่งนี้นั่นเอง

นอกจากสนามแข่งรถแล้ว ยังมีคาสิโนใหญ่อันดับต้นของประเทศ อยู่ภายในบริเวณเดียวกันอีกด้วย..แต่ภายในพื้นที่ร้อยกว่าไร่นี้ ไม่ใช่มีเพียงแค่สองอย่างนี้เท่านั้นหรอก มันมีอะไรมากกว่านั้น ที่คนทั่วไปก็ไม่รู้

คนที่จะรู้ดี ว่าที่นั่นอยู่ตรงไหนในอาณาเขตนี้ และมีไว้ทำอะไร คุณต้องเป็นคนสนิทของเจ้าของที่นี่ หรือ คนที่ถูกเชิญมาโดนประหารเท่านั้น..

เพราะสถานที่แห่งนั้นก็คือ..ลานประหาร นั่นเอง

“ไหน หมาตัวไหนมันชื่อเคนตะ”

ชายหน้าตาเหี้ยมเกรียมที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นของใบหน้า ที่มีร่างกายสูงใหญ่และร่างกายนั้นต่างก็เต็มไปด้วยลวดลายต่างๆ พาดไปทั้งตัว เดินเข้ามายังลานร้างหลังลานแข่งรถ พร้อมกับลูกน้องราวสามสิบคน 

เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่มั่นใจว่าในบริเวณนี้เขาคือผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และที่มาที่นี่ก็เป็นเพราะ ลูกน้องคนสนิทของตัวเองได้รับคำท้าในเมื่อวานที่ผ่านมาจากผู้ชายที่ชื่อว่า…เรียว เคนตะ

แม้จะไม่ใช่คู่อริของตนเองโดยตรง แต่ถ้าได้เก็บแต้มประสบการณ์การต่อสู้ ก็ถือว่าเป็นโปรไฟล์ชั้นดีของกลุ่มมังกรพ่นไฟ กลุ่มเล็กๆ ที่กำลังเริ่มสร้างตัว และผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มก็มั่นใจว่าอีกไม่นาน พวกเขาจะเติบโตทะยานเทียบเท่ากับกลุ่มใหญ่ที่เขาใฝ่ฝัน..กลุ่มแบล็กวูฟ กลุ่มทรงอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตอนนี้

สิ้นสุดคำพูดที่ถูกพ่นออกมาจากฝ่ายถูกท้า ควันหนาที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าของอีกฝั่งก็ค่อยๆ จางหายไปทันที ก่อนจะปรากฏกายของผู้ชาย 3 คน ที่ดูภายนอกแล้วเปรียบราวกับเจ้าชาย แต่แท้จริงแล้วภายในคือปีศาจดีๆ นี่เอง

ชายคนแรก คนที่นั่งควงแก้วเหล้าไปมาพร้อมใบหน้าที่เปื้อนยิ้มนั่นก็คือ ..ซัน

หนึ่งในสมาชิก devil prince ผู้อัจฉริยะทางด้านเครื่องยนต์ 

แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงนักศึกษาปี 3 แต่นั่นก็แค่บทบาทบังหน้า เพราะหน้าที่หลักจริงๆ ของเขา คือการเป็นเจ้าของธุรกิจ Tritrans ธุรกิจเกี่ยวกับระบบขนส่ง อันดับต้นของประเทศ ที่เหมารวมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ นอกจากนี้เขายังเป็นมาเฟียที่ควบคุมคลังอาวุธอีกด้วย

ถ้าพูดถึงนิสัย..เขาคือ บุคคลที่อันตรายต่อเพศตรงข้ามและก็ดึงดูดต่อเพศตรงข้ามในเวลาเดียวกัน แน่ล่ะ เพราะเขามันเป็นบุคคลที่ใช้ผู้หญิงเปลืองเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้ายังไงล่ะ และถึงแม้ว่าดูภายนอกเขาดูเหมือนอารมณ์ดีและไม่คิดอะไร แต่ถ้าเมื่อไรที่เขาต้องโหด เขาก็คือปีศาจดีๆ นี่เอง แต่ยังไง ก็ถือว่ายังน้อยไปอยู่ดีถ้าเทียบกับเพื่อนในกลุ่มของเขาอีกสามคน..

ชายคนถัดมา เจ้าชายรูปงามที่นั่งนิ่งๆ พร้อมกับยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นฝั่งตรงข้าม ก่อนจะคว้าเครื่องดื่มน้ำเมาตรงหน้าเข้าปากอย่างช้าๆ โดยไม่ได้มีทีท่าตื่นเต้นหรือตื่นกลัวแต่อย่างใด

ไนท์ สมาชิก devil prince อีกคน และพ่วงด้วยตำแหน่งมาเฟียที่ดูแล สารเคมี สารเสพติดนำเข้า รวมถึงสารเคมีบางชนิดที่เขาเป็นคนคิดค้นเองและนำส่งออกไปเช่นกัน เห็นเขาเป็นนักศึกษาแบบนี้ แต่เขาก็จบแพทย์ วิศวะ มาหมดแล้ว 

นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของของห้างสรรพสินค้าชั้นนำในไทย รวมถึงโรงพยาบาลอีกหลายแห่งหลายสาขาอีกด้วย

ส่วนนิสัยของเขานะเหรอ..อย่าทำให้เขาโกรธ..ไม่งั้นคุณจะไม่ทันได้มีชีวิตเพื่อเห็นร่างปีศาจของเขาด้วยซ้ำไป..

และคนสุดท้าย คนที่เอาแต่เพลิดเพลินกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยที่ภายในแววตาของเขานั้น ไร้ความกลัวใดๆ ทั้งสิ้น เพราะแววตาเขามันมีแต่ความสนุกสนานอย่างปิดไม่มิด..และเขาคนนี้ก็คือคนเดียวกับที่อีกฝั่งเอ่ยชื่อไปก่อนหน้า..เรียว เคนตะ สมาชิกอีกคนในกลุ่ม Devil Prince

“กูว่าแล้วไม่มีผิด ฮ่าๆ ๆ ”

ซัน เอ่ยขึ้นมาพร้อมหัวเราะขันออกมาอย่างสมเพชทันทีเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เพราะในสาส์นที่เพื่อนของเขาท้าไปนั่น คือการดวลตัวต่อตัว  แต่จากภาพที่เห็นตอนนี้ มันไกลกับคำนั้นไปมากเลยทีเดียว

“...พามาตายกันหมดยังไม่รู้ตัวอีก หึ”

ไนท์ พูดออกมาเสียงนิ่ง พร้อมกับส่งสายตาเหยียดให้อีกฝ่าย โดยเฉพาะไอ้คนที่มีเรื่องกับเพื่อนเขาเมื่อวันก่อน ที่ตอนนี้เอาแต่ยืนหลบอยู่หลังใครบางคน คนที่กล้ามาว่าเพื่อนเขาเป็นหมา..

วันนี้พวกมึงนั่นล่ะ จะได้กลายเป็นหมา..และเป็นหมาที่ดิ้นตายจนทุกข์ทรมานด้วย หึ

“สรุป หมาตัวไหนชื่อเคนตะ แสดงตัวออกมาดิวะ”

หลังคำพูดของผู้ชายที่มั่นใจในตัวเองว่าตนเหนือกว่าในศึกครั้งนี้พูดจบ 

เคนตะเจ้าของชื่อที่ถูกพาดพิงถึงสองครั้งสองครา ก็ยังคงสูบบุหรี่ไฟฟ้าต่อไปพร้อมกับมองกลุ่มรวมพลเด็กน้อย ด้วยสายตาที่ยิ้มเยาะ ก่อนจะพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน

เขาค่อยๆ วางสิ่งที่สร้างควันนั้น ลงบนโต๊ะที่ปีศาจในคราบเจ้าชายทั้งสามคนนั่งอยู่อย่างเบามือ ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงที่ยียวน ไม่มีความเกรงกลัวในจำนวนอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

“กูเห็นแต่.. หมาหมู่ว่ะ อ้อ..แต่เป็นลูกหมาหมู่นะ..”

เคนตะลุกขึ้น พร้อมกับยกคิ้วเล็กน้อยท้าทายอีกฝั่งไป พร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋าอย่างสบายใจ ราวกับว่า กำลังคุยกับกลุ่มลูกหมาจริงๆ ..

“ปากดีนะมึง!! เป็นมึงสินะ คนที่มีเรื่องกับลูกน้องกู”

“..ถ้ากูเป็นมึง กูไม่นับคนขี้ขลาดแบบนี้เป็นลูกน้องหรอกว่ะ!!”

“มึงทำเป็นปากดีไปเถอะ มึงไม่รู้หรอก ว่าหัวหน้ากูใหญ่แค่ไหน มึงเคยได้ยินมั้ย แก๊ง มังกรพ่นไฟ!!”

“มังกรพ่นไฟ?”

เคนตะทำเพียงขมวดคิ้วเท่านั้นไม่ได้มีความเกรงกลัวใดๆ กับชื่อนี้ พร้อมกับคิดว่า

แก๊งโนเนม แก๊งเด็กใหม่?

แต่ด้วยที่อีกฝั่งมีความคิดที่ว่า กลุ่มตนยิ่งใหญ่นักหนา จึงเข้าข้างตัวเองว่า อีกฝ่ายคงกลัวชื่อนี้ไม่น้อย จึงได้เงียบไป จึงได้ที ข่มอีกฝั่งต่ออย่างภูมิใจ

“ใช่ พวกกูเป็นกลุ่มมังกรพ่นไฟ และพวกเราก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของกลุ่มแบล็กวูฟ..”

“หื้ม..คู่แข่งกลุ่มแบล็กวูฟ?”

เป็นอีกครั้งที่เคนตะเลิกคิ้วส่งไปหาด้วยความสงสัย ส่วนเพื่อนเขาอีกสองคนก็ทำเพียงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหยิบแก้วที่เต็มไปด้วยน้ำสีเหลืองอำพันกระดกเข้าปากด้วยความใจเย็น และรอฟังว่าอีกฝั่งจะเล่าเรื่องโจ๊กอะไรออกมาอีก

“ถ้ามึงอยู่สายนี้ มึงคงจะพอรู้จักว่าแบล็กวูฟน่ากลัวยิ่งใหญ่แค่ไหน..แต่มึงคงยังไม่รู้ว่าพวกนั้นยังต้องก้มหัวให้พวกกู ฮ่าๆ ๆ ”

เคนตะทำเพียงแค่หัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเพื่อนของตนที่ก็ยกยิ้มมุมปากไม่ต่างกัน.. ก่อนที่จะหันไปอีกฝั่ง แล้วแกล้งเล่นให้สมบทบาทสักหน่อย

“พวกมึงนี่..น่ากลัวเนอะ หึหึ”

“หึหึ กลัวล่ะสิมึง ถ้ากลัว กูให้โอกาสมึงก็ได้ กราบตีนกูซะ เผื่อกูจะมีสักเสี้ยวความคิด ที่จะไว้ชีวิตมึง”

เมื่อผู้เป็นหัวหน้าพูดจบ เขาก็ยืนแอ่นอกภูมิใจในอำนาจของตัวเอง พร้อมกับหัวเราะออกมาดังลั่น และเมื่อหัวหน้าหัวเราะ ลูกน้องก็หัวเราะตามกัน จนทำให้เกิดเสียงดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณนี้

แต่พวกเขาคงไม่รู้ ว่าเสียงหัวเราะนี้จะเป็นเสียงหัวเราะสุดท้ายของพวกเขา เหมือนกับกลุ่มมังกรพ่นไฟ กลุ่มน้องใหม่ ที่จะมีวันนี้เป็นวันสุดท้ายเช่นกัน

“นี่สรุป มึงให้พวกกูมานั่งดูมึงสู้กับกลุ่มเด็กน้อยนี่เหรอวะ เสียเวลาฉิบหาย” ไนท์อดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมา และยกมือขึ้นไปตบแท็กไฟร์ทกับซันที่นั่งยิ้มอยู่แต่แรกไม่ต่างกัน

แปะ!

ส่วนเคนตะได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะตอบเพื่อนเขากลับไป

“ใจเย็นเพื่อน..ไม่ถึงสิบนาที เดี๋ยวมึงก็ได้กลับ..หึหึ”

“หึ ปากดีไปเถอะ แล้วมึงจะได้รู้ซึ้งว่า มังกรพ่นไฟ มันน่ากลัวแค่ไหน!”

“..แต่เท่าที่กูดู กูเห็นแต่... กิ้งกือพ่นน้ำลายว่ะ!”

“มึง!! จัดการมัน!!! ไม่ตายไม่ต้องมาเรียกกูว่านาย!”

ปั่ก

ผลัวะ

 

ผลัวะ

ผลัวะ

ปั่ก

เนื่องจากตรงนี้เป็นอาณาเขตของผู้ชายที่ฉายเดี่ยวในเวลานี้ เพราะฉะนั้น อีกฝ่ายที่เข้ามาราวสามสิบคนนั้น ต้องโดนตรวจอาวุธจากทางเข้ามาแต่แรกอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ภาพยนตร์ที่ยิ่งกว่า 4D ของซัน และ ไนท์ กลายเป็นภาพเพื่อนเขาต่อสู้เพียงตัวต่อตัว ไร้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น กับเด็กน้อยอีก สามสิบคน

ผลัวะ

 

ผลัวะ

ปั่ก

แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีแค่คนเดียว แต่ก็สามารถทำให้อีกฝ่ายที่มีมากกว่า ล้มไปนอนโอดครวญจากอาการแขนขาหักกันเป็นระนาว จนตอนนี้จากสามสิบต่อหนึ่ง กลายเป็นยี่สิบต่อหนึ่ง ในเวลาไม่ถึง ห้านาที

ตลอดเวลา หัวหน้าของกลุ่มน้องใหม่ที่เบ่งอำนาจ คอยพูดและสบถออกมาเป็นระยะๆ เพื่อให้ลูกน้องตนเองจัดการเคนตะให้ได้ 

แต่แค่เพียงจะปล่อยหมัดมาโดนใบหน้าเนียนของเป้าหมาย ยังไม่มีลูกน้องคนไหนทำได้เลยสักคน เพราะฉะนั้นหวังจะให้จัดการตามคำสั่งที่นายพูดไม่หยุดนั้น..คงเป็นไปได้ยาก

“นี่เหรอวะ คู่แข่งแบล็กวูฟ?”

ปั่ก 

ผลัวะ

เคนตะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับยังคงเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายเพื่อจัดการคนที่เข้ามาอย่างง่ายดาย ทุกอย่างมันดูเหมือนถูกซักซ้อมท่าต่างๆ เป็นอย่างดี แต่ความจริงแล้ว นั่นคือความไวของประสาทสัมผัสของเขาล้วนๆ ..แน่ล่ะ ก็เขาอัจฉริยะทางด้านนี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่เขาแค่สะบัดมือหรือขาเพียงเล็กน้อย คนรอบตัวก็ล้มไปนอนบนพื้นเล่นกันหมด

ด้วยความเก่งกาจของฝ่ายคู่ต่อสู้ และปริมาณลูกน้องที่ลดลงไป ทำให้ผู้เป็นนายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประมุขของแก๊งมังกรพ่นไฟ จำเป็นต้องใช้ไม้เด็ดที่เตรียมเอาไว้

“ทุกคนใช้อาวุธลับ!!”

สิ้นเสียงคำสั่งนาย ทุกคนต่างก็หยิบอาวุธหลับที่แปะเนียนกับผิวหนังของตัวเองออกมาทันที ราวกับว่า นี่คือการกระทำที่ทำบ่อยครั้ง

“หึหึ”

ทั้งๆ ที่ตอนนัดหมายก็ชัดเจนแล้วว่าตัวต่อตัว ไร้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น แต่อีกฝั่งก็โกงแล้วโกงอีกไม่หยุดหย่อนสินะ..

ถึงยี่สิบคนจะถือมีดเล่มเล็กเด็กน้อย พุ่งเข้ามาพร้อมกัน เคนก็ไม่มีความกลัวเกิดขึ้นในใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองด้วยซ้ำว่านั่นคือ ฝูงแม่บ้านที่ถือมีดเพื่อเอาไปหั่นผักในห้องครัวเก่าๆ เท่านั้นเอง

เขาทำเพียงแค่แค่นหัวเราะเบาๆ เท่านั้น แล้วหันไปหาเพื่อนเขาที่นั่งกินเหล้าที่มองดูภาพตรงหน้าอย่างได้อรรถรส ก่อนที่จะกระทำบางอย่างอย่างรู้ใจสมกับเป็นเพื่อนที่คบมายี่สิบกว่าปี โดยไม่ต้องเอ่ยปาก

ฟรึบ!!

หมับ!

ฉึ่ง! บล๊อก!

ดาบซามูไรยาวราว 1 เมตร ถูกโยนออกมาจากเพื่อนสนิทของเขา และเคนก็รับดาบนั้นได้แม่นเหมือนจับวาง ก่อนที่ฝักของดาบเล่มนั้นจะถูกปลดออกด้วยความรวดเร็วภายในพริบตา

“ในเมื่อเริ่มสกปรกกับเกมนี้..พวกมึงก็เตรียมตัวไปหั่นผักที่นรกกันได้เลย…หึหึ”

ทันทีที่ฝักดาบถูกปลดออก พร้อมกับท่าจับดาบของอีกฝ่ายที่ยกขึ้นมาแนบหน้า รวมถึงสายตาที่มีความสุขและกระหายเลือดนั้น ทำให้อีกฝั่งที่จับมีดถึงกับยืนสั่นด้วยความกลัว

เพราะสายตาและท่าทางของอีกฝั่งนั้น..คือปีศาจกระหายเลือด..ชัดๆ

แม้ว่าจะกลัวเพียงใด แต่ด้วยศักดิ์ศรีที่มันค้ำคอ ทำให้คนที่ทำหน้าที่เพียงออกคำสั่งเท่านั้น โพล่งสั่งลูกน้องขึ้นมาอีกครั้ง

“กลัวอะไรว่ะ เรามีกันเยอะกว่า ฆ่ามัน!!!”

ทันทีที่เสียงประมุขเอ่ยดังออกมา ทุกคนก็เปลี่ยนเป็นฮึกเหิมแล้วก้าวเท้ามุ่งเข้ามายังเป้าหมายเดียวกันในทันที

ฉึบ

ฉึบ

ฉับ

ฉึบ

บัดนี้ กลิ่นเลือดโชยและคละคลุ้งเต็มไปหมดทั่วบริเวณแห่งนี้ พร้อมกับภาพอันน่าสยดสยองชวนขนลุก ถ้าใครที่ไม่เคยเจอ อาจจะหลอนไปหลายคืนเลยทีเดียว แต่สำหรับคนที่ทำให้เกิดภาพนี้และเพื่อนของเขา ถือว่านี่คือภาพธรรมดาที่เห็นจนเคยชิน

ศีรษะ แขน ขา และลำตัวของผู้ที่เข้ามาก่อนหน้านี้ ต่างกองระเนระนาด ทับกัน จนไม่สามารถเอามาประกอบต่อกันได้เลยว่าแต่ละชิ้นส่วนเป็นของใครของใคร

ฉับ

ฉับ

การต่อสู้ครั้งนี้ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็เหลือเพียงแค่ คนที่เรียกว่าตัวเองเป็นหัวหน้าแก๊งคู่แข่งแบล็กวูฟ และอีกคนตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดลานประหารแห่งนี้ขึ้นมา 

“ไหน ใครอยากตายก่อน ..ยกมือขึ้น” เคนตะพูดด้วยน้ำเสียงเลือดเย็นและสายตาที่แพรวพราวไปด้วยความสุข พร้อมกับลากดาบเดินมุ่งหน้าตรงไปหาอีกสองคนที่ยืนสั่นกลัวก่อนจะเปลี่ยนเป็นเข่าทรุดลงไปในทันที เมื่อพบว่าปีศาจอยู่ใกล้แค่เอื้อมตรงหน้า

“อย่าฆ่าผมๆ คุณฆ่าหัวหน้าผมเลยๆ แล้วผมจะไปเป็นลูกน้องคุณ ผมจะจงรักภักดีกับคุณ จริงๆ นะครับ ผมสัญญา”

“ไอ้เชษ!! มึง ทรยศกู!”

“นะครับ อย่าฆ่าผมให้ ให้ผมกราบเท้าผมก็ยอม”

ชายผู้เคยคิดว่ากลุ่มตัวเองใหญ่โตคับฟ้า และมีหัวหน้ายิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งใด แต่บัดนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่าเล่นผิดคน เมื่อเห็นภาพเพื่อนร่วมงาน ต่างถอดชิ้นส่วนร่างกายกันที่พื้นอย่างสยดสยอง

แต่คำพูดสุดท้าย เพื่อขอชีวิตนั่น ก็ยังคงแสดงความเห็นแก่ตัวและคิดจะเอาตัวรอดเพียงฝ่ายเดียว จนคนที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าที่เขาเทิดทูนหนักหนาได้แต่หันไปมองด้วยสายตาที่ชิงชังและผิดหวัง

ส่วนเคนตะ ก็ทำเพียงยืนมองดูสภาพของผู้ชายสองคนตรงหน้าที่ตอนนี้อะไรที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ เขาก็ยอมทำทุกอย่าง

เพราะอย่างตอนนี้ ผู้เคยเป็นลูกน้องเอาแต่ก้มกราบเขาไม่หยุด..และนั่นก็ทำให้เขารำคาญ

ฉับ!

ฉับ!

อ๊ากกกกก

เคนตะยกดาบตวัดด้วยแรงเบาหวิวเพียงเท่านั้น แขนสองข้างของอีกฝั่งก็ขาดกระเด็นไปทันที

อ๊ากกกกก

เขาทำเพียงยืนมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มสะใจ ราวกับดูการ์ตูนเรื่องโปรดในวัยเด็ก ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำนิ่งๆ ออกมา ที่ทำให้คนได้ฟังถึงกับรู้ชะตาชีวิตของตัวเอง

“คนแบบมึง ไม่สมควรเป็นลูกน้องใคร..และไม่สมควรมีชีวิตอยู่!!”

ซวกกก!

ครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตวัดดาบเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นการใช้ปลายดาบ แทงเข้าไปที่ปากของอีกฝั่ง จนทะลุไปอีกฝั่งของศีรษะ และในที่สุดเสียงร้องโหยหวนของคนตรงหน้าก็ดับลงไป

“หึ อะไรวะ ..ตายเร็วชะมัด”

หลังสิ้นสุดคำพูด เคนตะก็ทำเพียงแค่หงุดหงิดเล็กน้อย..หงุดหงิดที่คนพวกนี้มันตายง่ายเกินไป..เพราะนี่เขายังไม่ทันได้เริ่มออกแรงจริงจังเลยแม้แต่นิดเดียวเท่านั้น

เลยทำให้เขาต้องหันสายตาไปมองอีกหนึ่งชีวิตที่เหลือที่สั่นเหมือนผีเข้า..ของเล่นชิ้นสุดท้ายของเขา

“อย่าฆ่าผมเลย ผมจะไม่มายุ่งกับคุณเคนอีกแล้วครับ ปล่อยผมไปเถอะนะครับ”

หึหึ จากเรียกหมาตอนแรก เปลี่ยนเป็นเรียกคุณเลยเชียวนะมึง!

เคนตะได้แต่คิดในใจ รวมถึงเพื่อนเขาสองคนที่นั่งกินเหล้ามองวิวตรงหน้าเพลิดเพลิน ก็คิดไม่ต่างกัน แต่ก็ยังนั่งจิบน้ำสีเหลืองอำพันดูสถานการณ์ต่อไปอย่างสบายใจเช่นเดิม ...

“ผมกราบตีนคุณก็ได้”

ชายที่เคยคิดว่าตนยิ่งใหญ่ บัดนี้รู้ตัวแล้วว่าเขาเปรียบเหมือนมดเท่านั้น และผู้ชายตรงหน้าต่างหากที่เป็นราชสีห์ตัวจริง

เขาก้มลงกราบเท้าด้วยความลนลาน และหวังว่าผู้ชายตรงหน้าจะเห็นใจ แม้จะรู้ตัวว่าความหวังนั้นจะมีเพียงริบหรี่ก็ตามที

“หึ คนน่าสมเพชอย่างมึงไม่สมควรให้ใครเรียกว่าหัวหน้า”

ฉับ

อ๊ากกกก

เคนตะตวัดดาบอีกครั้งเพื่อสะบั้น 2 มือที่ลงกราบเท้าเขาอยู่ทันที ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นแต่ค่อนไปทางมีความสุข

“กูไม่ได้ชอบให้ใครมากราบตีนว่ะ..เพราะกูชอบ..ฆ่าคน”

ฉับ

อ๊ากกกกก

ฉับ

อ๊ากกกกก

คราวนี้เคนตะทำเพียงแค่สะบั้นแขนและขาของอีกฝ่ายอย่างละข้างเท่านั้น ก่อนจะหยิบผ้าเฉพาะของดาบคู่ใจของเขา เอามาเช็ดดาบของตนเองที่เปื้อนเลือดอย่างช้าๆ พร้อมกับมองภาพตรงหน้าไปด้วยความเหี้ยมโหด

และในขณะที่ดาบกำลังจะจมลงฝักนั้น เคนตะก็นั่งยองๆ มองดูภาพตรงหน้าที่เปล่งเสียงโหยหวน พร้อมกับพูดเบาๆ ออกมา

“ก่อนตายกูอยากให้มึงรู้ไว้..กูไม่เคยมีคู่แข่งที่ชื่อมังกรพ่นไฟว่ะ..”

บล๊อค

คำพูดสิ้นสุดพอดีกับฝักที่ปิดสนิทกับตัวดาบ และเสียงนั่นก็เป็นเสียงสุดท้ายที่ไม่ใช่เสียงร้องของตัวเองที่ผู้ชายตรงหน้าจะได้ยินเช่นกัน

อ๊ากกก

“ไอ้สัส แหกปากขนาดนี้ กูรำคาญ” ไนท์โพล่งปากเสียงดังลั่นทันที เมื่อเห็นเคนตะเพื่อนของเขาลงมานั่งข้างๆ พร้อมกับรินเหล้าอย่างสบายใจ โดยไม่สนใจเสียงโหยหวนของอีกคนที่นอนจมกองเลือดด้วยแขนและขาอย่างละข้าง

“มึงก็จัดการสิวะ”

“สัส กูไม่อยากเปื้อนเลือด”

“ก็เรื่องของมึง”

อึก อึก

ปั่ก 

“ไอ้เหี้ยเคน กวนตีนกูเก่งนะมึง.. กูจัดการเองก็ได้วะ” ไนท์พูดพร้อมกับหยิบมีดคู่ใจในเสื้อออกมา และเดินไปยังต้นเสียงใกล้ๆ ที่มองมาอย่างขอชีวิต แต่แล้วปีศาจร้ายตนนี้ก็ไม่ได้หวังที่จะมาช่วยหรือปลดชีวิต เขาทำแค่เพียงให้อีกฝ่ายหยุดร้อง..แต่ก็ไม่ได้ตาย

ฉับ!

อือออ

แม้จะยังมีเสียงร้องอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเบาลงไปพอสมควร เพราะบุคคลที่เคยร้องตอนนี้เขาปราศจากลิ้นอีกต่อไปแล้ว

หลังไนท์จัดการเสร็จ ก็กระทำทุกอย่างคล้ายลอกเพื่อนมาเลยทีเดียว นั้นคือเช็ดมีด เก็บเข้าปลอกมีด และเดินไปนั่งที่โต๊ะดังเดิมด้วยความสบายใจ

ทุกการกระทำของทั้งสองคน เหมือนกับว่า แค่เดินไปตัดต้นไม้ ตกแต่งกิ่งเล็กน้อย แล้วก็มานั่งกินเหล้าชิว เพื่อมองดูความสวยงามของต้นไม้ที่ตนตัดแต่งไป

“สัสเอ๊ย แทนที่วันนี้จะไปนั่งกินเหล้าร้านกู กลับต้องมานั่งกินเหล้าผสมกลิ่นเลือดแบบนี้”

“กูว่ายี่สิบ”

เคนตะไม่สนคำโวยวายของเพื่อนเขา แต่เลือกที่จะเล่นเกม เกมที่ทำให้เขาชวนเพื่อนทั้งสองคนมานั่งดูการแสดงเมื่อครู่นี้

และเกมนั้นก็คือ ทายจำนวนวินาทีที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ของคนที่เขา..ฆ่า

“กูว่า สามห้า”

“กูให้ยี่สิบสอง”

หลังจากสามหนุ่มพูดจบ ก็ยกนาฬิกาข้อมือมาดู พร้อมกับมองร่างกายผู้ชายผู้มีชีวิตรอดคนสุดท้ายของกลุ่มมังกรพ่นไฟ ที่ตอนนี้แค่พ่นหายใจยังแผ่วเบาเหลือเกิน

และทันทีที่วินาทีถึงสิบเก้า ดวงตาของชายผู้นั้นก็ดับลงไป

“กูใกล้เคียงสุด เอารถพวกมึงมา!”

“ไอ้สัสเคน รถมึงก็มีเยอะแล้วมั้ย จะเอาอะไรอีกเยอะแยะ เอาไป!”

“เออ ไอ้สัส เอาไป!”

“ฮ่าๆ ๆ เกมก็ต้องเป็นไปตามเกม แพ้แล้วอย่าพาลโว้ยยย! ..กูไปล่ะ บายย”

“ยูตะ เคลียร์ด้วย”

สิ้นเสียงคำสั่งลูกน้องด้วยภาษาญี่ปุ่นนั้น ผู้ชายที่เพิ่งคร่าชีวิตคนสามสิบเอ็ดคน ก็เดินหยิบกุญแจรถของเพื่อนที่เกิดจากการเดิมพันไว้ก่อนหน้า ออกไปจากตรงนี้ทันที

พร้อมกับยิ้มและคิดในใจว่า

ขอบคุณมึง ที่โกงในคาสิโนกู..นอกจากสนุกแล้ว กูยังได้รถมาสองคันอีก..หึหึ

ที่มาของเหตุการณ์ลานประหาร

ชายผอมแห้งกรัง ตามตัวเต็มไปด้วยรอยสัก เดินเข้ามาในคาสิโนใหญ่อันดับต้นของประเทศด้วยท่าทางนักเลง พร้อมกับความคิดนึกคะนองอยากลองของบางอย่าง ของที่เขาเอาไปใช้มาหลายคาสิโนแล้วก็ไม่มีใครจับได้..และความยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ก็เป็นสถานที่ทดสอบความท้าทายของเขาได้เป็นอย่างดี

..แต่ชายผู้นั้นอาจจะไม่รู้ตัวว่า..ที่นี่และวันนี้ ไม่ใช่ที่ลองของของเด็กอ่อนอย่างเขา!

เนื่องจากวันนี้เป็นวันเดียวกับเจ้าของคาสิโนแห่งนี้ ปีศาจคลั่งเลือด มาตรวจงานพอดี และนั่นก็ทำให้การโกงที่มั่นใจของชายผู้นั้น ถูกจับได้เพียงแค่โดนมองผ่านกล้องวงจรปิดแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้น..

ใครที่กล้ามาโกงในสถานที่แห่งนี้... จะต้องโดนลากไปซ้อม ยึดทรัพย์และติดแบล็กลิสห้ามมาคาสิโนนี้อีก 

และทุกคนที่ผ่านมา ต่างก็หายหน้าหายตาจบกันไป ยกเว้นชายผู้นี้ ผู้ที่คิดว่า กลุ่มที่ตนอยู่ในตอนนี้ ยิ่งใหญ่และ..เขาต้องฟ้องหัวหน้าแก๊ง..ของเขา

“มึงมันก็ดีแต่ปาก สั่งแต่ลูกน้อง แน่จริง มึงสู้กูตัวตัวสิวะ นัดวันมาเลย” เขาพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังโดนรุมซ้อมอยู่ โดยปกติแล้ว เรื่องแบบนี้เจ้าของคาสิโนแห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องมาดูเลยด้วยซ้ำ..แต่เนื่องจากชายผู้นี้ตะโกนท้าเจ้าของสถานที่แห่งนี้ตลอดเวลา จนทำให้เขาเดินมาฟังสักหน่อย ว่าชายผู้นี้จะพูดอะไร และคำที่ได้ยินนั้นก็ทำให้เขานึกสนุกอะไรบางอย่างขึ้นมา

เรื่องสนุกที่เขาห่างหายไปนาน หลังจากเขาต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หลังจากที่เขาต้องเริ่มมาบริหารธุรกิจมากมายของกลุ่มตัวเอง..

“หยุด..“ เขายกมือห้ามและเอ่ยปากบอกลูกน้องตนเองที่รุมซ้อมคนที่พลั้งปากพูดอย่างไม่คิดเอาไว้ และเหล่าลูกน้องก็หยุดตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที 

ชายผู้นั้นก็ยกยิ้มด้วยความพอใจพร้อมกับคิดว่า

มึงต้องเจอกับหัวหน้ากู

แต่ในขณะเดียวกันกลุ่มคนมากมายในห้องนี้ ต่างก็มีความคิดเห็นตรงกันว่า

นรกมาเยือนมึงแล้ว ยังไม่รู้ตัวอีก..

ปีศาจปรับเป็นหน้านิ่งด้วยสายตาที่แพรวพราวในสิ่งที่เขากำลังจะพูดออกไป ก่อนจะเอื้อนเอ่ยเสียงเรียบและเดินออกจากห้องนี้หลังพูดจบ

โดยทิ้งความสยดสยองให้กับเหล่าลูกน้องเอาไว้..ให้สงสารอีกคนเล่นๆ

“ห้าโมงพรุ่งนี้ ตัวตัว ห้ามใช้อาวุธ..ลาน B สนาม RTY....และจำชื่อกูให้ดี..กู เรียว เคนตะ..”