3. ไม่ว่าโลกจะโหดร้ายแค่ไหน
เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นเรียกสติของนิรณา หญิงสาวยันกายขึ้นนั่ง ยื่นมือไปหยิบสมาร์ทโฟนแล้วกดรับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“คุณนานา ที่ทำแซนด์วิชนานาใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ”
“คือเราสนใจอยากสั่งแซนด์วิชค่ะ”
“ได้ค่ะ กี่ชิ้นดีค่ะ” นิรณาตอบกลับเสียงหวานพลางหยิบปากกาเตรียมจดออเดอแซนด์วิช
“หนึ่งร้อยชิ้นค่ะ”
“คะ?”
“เอ่อ...น้อยไปหรือคะ หรือมีขั้นต่ำไหม”
“ไม่มีค่ะ คือถามเพื่อความแน่ใจ” นิรณาขายแซนด์วิชมาได้สักระยะแล้ว เคยรับออเดอสั่งทำแต่ก็ไม่เกินห้าสิบชิ้น “ถ้าสั่งจำนวนมาก ขอมัดจำห้าสิบเปอร์เซ็นต์นะคะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ เราจ่ายให้เต็มจำนวนเลยค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ และเราจะให้คนไปรับเองค่ะ”
“ได้เลยค่ะ” มีลูกค้าดีๆ แบบนี้ ไม่รับได้ไง นิรณาแทบจะร้องกรี๊ดๆด้วยความดีใจ “ต้องการไส้แบบไหนบ้างคะ”
“คุณนานาคละมาให้เลยนะคะ เราจะเอาไปเลี้ยงพนักงานค่ะ”
“โอเค.ค่ะ”
“ขอเลขบัญชีหรือพร้อมเพย์สำหรับโอนเงินด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะ”
ได้ทุกอย่างเลยค่ะ ขอให้ได้เงิน นานาทำได้ค่ะ!
นิรณาคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออไป เธอบอกเลขพร้อมเพย์ไปแล้วจดรายละเอียดของลูกค้า จำนวนสินค้าและเวลานัดหมายการรับสินค้า หลังจากวางสายไม่นาน เสียงแจ้งเตือนเงินเข้าก็ดังขึ้น หญิงสาวยิ้มกว้าง หันไปคว้าแมวอ้วนมากอดแล้วจุ๊บๆ หน้าผากแมว
“เรียกออเดอให้ใช่ไหม เดี๋ยวมี๊ออกไปซื้อของแล้วจะซื้อขนมแมวเลียมาให้”
“เมี๊ยววววว”
หญิงสาวหัวเราะเสียงใสกับท่าทางขานรับของแมวอ้วน ชีวิตเธอถ้าไม่มีเจ้าแมวตัวนี้จะเป็นยังไงนะ คงเงียบเหงาและเหี่ยวเฉาแน่ๆ และที่สำคัญทำให้เธอหลุดพ้นจากความเศร้า ไม่ว่าโลกจะโหดร้ายกับเธอแค่ไหนก็ตาม
พนักงานต่างแปลกใจที่ท่านประธานใจดีแจกแซนด์วิชพนักงานติดต่อกันหลายวัน บางวันก็แจกสบู่สมุนไพร บางวันก็เป็นยาสีฟัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแซนด์วิช ซึ่งก็อร่อยถูกปากพนักงานจึงไม่มีใครกล้าวิจารณ์พูดอะไร ที่สำคัญคือฟรีทุกคนจึงเต็มใจรับ
“บอสค่ะ จะให้สั่งแซนด์วิชของคุณนานาอีกไหมคะ”
เจนขวัญเป็นเลขาหน้าห้องเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มนิด เธออายุมากกว่าเจ้านาย เป็นเลขาหน้าห้องตั้งแต่รุ่นพ่อของท่านประธานคนปัจจุบัน ตอนนี้ก็ยังรับตำแหน่งเดิมอยู่เพิ่มเติมคือเงินเดือนที่มากขึ้นและอายุที่มากขึ้นเช่นกัน
“ถ้าผมสั่งอีกพนักงานจะบ่นอะไรไหมครับ” จิรายุพูดไปตามที่คิด สำหรับเขา เจนขวัญเป็นมากกว่าเลขา เป็นเหมือนที่ปรึกษาของเขาด้วย
“ของฟรีไม่มีคนบ่นหรอกค่ะ” เจนขวัญหัวเราะเบาๆ “แต่บอสจะจีบแม่ค้าขายแซนด์วิชแบบนี้เหรอคะ”
“เอ่อ...ดูชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอครับ” คราวนี้จิรายุยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแก้เขิน เขาเป็นพวกบ้างาน หากเป็นเรื่องงานเขาตัดสินใจได้รวดเร็ว แต่เป็นเรื่องผู้หญิง เขาเกรงจะทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจ กลายเป็นดูเป็นกังวลไปเสียหมด
“ค่ะ” เลขาพยักหน้ารับ เพราะเธอเองก็เป็นคนโทรไปสั่งออเดอต่างๆ จากคุณนิรณาด้วยตัวเอง
“แล้วผมควรทำยังไงดีล่ะ” เขาถอนหายใจเบาๆ จู่ๆจะโผล่หน้าไปบอกว่าจะจีบเหรอ หรือบอกว่าเขาเป็นแฟนคลับเพราะฟังเธอไลฟ์สดขายสินค้ารอบห้าทุ่มจนผล็อยหลับไป
“บอสนี่จริงๆเลย” เจนขวัญส่ายหน้าไปมา “เดี๋ยวดิฉันเขียนแผนมาเสนอให้บอสพิจารณาก็แล้วกันค่ะ”
“ดีเลยครับ ขอบคุณมาก”
เจนขวัญอ้าปากค้างก่อนส่ายหน้าไปมา เธอแค่จะ ‘ประชด’ แต่ดูเหมือนประธานหนุ่มจะเอาจริง ช่างเถอะ เลขาสาวบอกกับตัวเองแล้วถอยหลังออกไปอย่างเงียบเฉียบ
จิรายุมองเลขาเดินออกไปจากห้องทำงานแล้วก็ย้ายสายตามองที่ถาดใส่อาหารว่างตรงหน้า แซนด์วิชขนมปังโฮมวีทโฮลวีทมีไข่ต้มอยู่ตรงกลางและผักสดชวนกิน เขากินมาหลายครั้งแล้ว ไม่เอาเทียบรสชาติกับร้านอาหารหรูระดับห้าดาวที่เขาเคยกิน แต่ถ้าเป็นแซนด์วิชโบราณไส้หมูหยองพริกเผานั้นเขาค่อนข้างชอบมากเลยทีเดียว
