บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เจ้าเป็นใครกันแน่ 1

บทที่ 2

เจ้าเป็นใครกันแน่

เหมยซิงผู้เป็นนางคณิกาของหอหลันฮวายืนนิ่งราวกับหินผา แม้ว่านางจะยืนอยู่ต่อหน้าของเว่ยสือหยาง ผู้เป็นชินอ๋องที่บ้าเลือดและน่าหวั่นเกรงผู้นั้น ทว่านางกลับมิได้รู้สึกหวาดกลัวเขาเลย กลับกัน... นางอยากจะรู้ว่าเขามีค่ามากพอที่นางจะใช้เป็นตัวหมากได้หรือไม่!

"เจ้าร่ายรำได้หรือไม่"

"เพคะ หม่อมฉันถนัดร่ายรำและการเล่นผีผาเพคะ"

"ดี! เช่นนั้นเจ้าก็ร่ายรำให้ข้าดู"

"เพคะ"

แม้จะแปลกใจกับการกระทำของเขา แต่เหมยซิงก็หาได้รู้สึกตกใจไม่ นางขยับตัวออกไปยืนตรงกลางโดยที่ผีผาได้ถูกนางคณิกาคนอื่นนำออกไปแล้ว ทันทีที่เสียงดนตรีขึ้น ร่างอรชรที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้ชุดนางระบำที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสาอย่างชัดเจน ก็ได้หมุนตัวไปตามจังหวะของเสียงดนตรีนั้น

ร่างกายของนางสอดประสานไปกับเสียงของดนตรีที่ดังก้องกังวานอย่างดงาม ท่วงท่าการร่ายรำมีทั้งความอ่อนช้อยและแข็งแรง พลิ้วไหวดั่งใบไผ่ที่ลู่ไปกับสายลมที่พัดโหมกระหน่ำดั่งพายุคลั่ง เห็นได้ชัดว่านางได้ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

เว่ยสือหยางพลันกระตุกยิ้มเย็น ก่อนจะแกล้งโยนผลผิงกั่ว (แอปเปิล) ไปให้นาง หากเป็นสตรีธรรมดาจะตกใจและรีบหลบผลผิงกั่วทันที ทว่าสตรีผู้นี้กลับรับผลผิงกั่วได้อย่างง่ายดาย ทั้งการร่ายรำของนางก็ไม่ได้หยุดชะงักลงเลย แต่ยังกล้ายั่วเย้าเขาอีกด้วย โดยการกัดผิงกั่วไปหนึ่งคำ ก่อนจะใช้สายตาหวานเยิ้มทอดมองมาทางเขาอย่างยั่วยวน

ช่างใจกล้าดีนัก!

บรรดาบุรุษที่นั่งอยู่ตรงนี้ต่างมองเรือนร่างของเหมยซิงด้วยน้ำลายสอ ด้วยนางนั้นมีรูปร่างที่เย้ายวนใจชายยิ่งนาง ยิ่งขยับเคลื่อนไหวร่างกายไปมาตามเสียงของดนตรีที่บรรเลงอย่างรัวเร็ว ยิ่งทำให้นางดูงดงามยั่วยวนราวกับปีศาจสาวที่ลงมายั่วยวนพวกเขาอย่างนั้นแหละ

อยากครอบครองนางเหลือเกิน!

แปะ แปะ แปะ!

เหมยซิงโค้งคำนับเว่ยสือหยางเมื่อการแสดงร่ายรำของนางจบลง ผลผิงกั่วในมือของนางก็ถืออยู่เช่นนั้น ไม่ได้คิดจะนำไปคืนเขาแต่อย่างใด ในตอนนั้นเองบุตรชายเพียงคนเดียวของอี้ไฉ ผู้มีนามว่า 'อี้ไห่หง' ได้เดินออกมาจากที่นั่งของตนเอง ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุราที่ดื่มเข้าไป

"ฮ่าฮ่าฮ่า คนงาม เจ้าช่างร่ายรำได้ถูกใจข้ายิ่งนัก คืนนี้ก็จงมาร่ายรำบนตัวข้าด้วยสิ"

ฝ่ามือหนาเอื้อมมาจะคว้าร่างของเหมยซิงเข้าไปกอด ทว่าตัวนางกลับหมุนตัวหลบหลีกมือของเขาอย่างว่องไว และในจังหวะนั้นเองที่ไม่มีใครสังเกตเห็น นางได้ลอบใช้ปลายเท้าตวัดไปเตะข้อเท้าของเขา เป็นผลให้ร่างกายสูงใหญ่พลันล้มลงอย่างน่าอาย

โครม!

สติที่เริ่มลืมเลือนพลันเด่นชัดเมื่อเจ็บตัว อี้ไห่หงจ้องหน้าเหมยซิงด้วยสายตาวาววับ

"ขออภัยคุณชายอี้ ข้าเป็นนางคณิกาขายศิลป์ไม่ได้ขายเรือนร่างเจ้าค่ะ"

เหมยซิงเอ่ยตอบเขาด้วยท่าทางนอบน้อม ทว่าแววตากลับตวัดมองเขาอย่างเย็นชาด้วยความไม่พอใจ

"หึ! เจ้าเป็นนางคณิกาที่ท่านพ่อของข้าซื้อตัวมา เหตุใดถึงได้เรื่องมากนักเล่า หากข้าต้องการเจ้าผู้ใดกล้าขวางกัน"

"พอได้แล้วอาหง นี่อยู่ต่อหน้าชินอ๋องเชียวนะ"

อี้ไฉรีบลุกมาจูงแขนบุตรชายให้กลับไปนั่งที่ อยู่ต่อหน้าของชินอ๋องจะมาเสียมารยาทเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด ทว่าเพราะเขาตามใจบุตรชายจนเคยตัว อะไรที่เขาอยากได้ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะไม่ได้ ในเมื่อครั้งนี้เขาต้องการตัวเหมยซิง เขาก็ต้องได้!

"ท่านพ่อ ข้าต้องการตัวนางขอรับ" เขามองบิดาด้วยสีหน้าเว้าวอน

"นี่เจ้า..."

เว่ยสือหยางที่นิ่งเงียบมานานพลันหัวเราะออกมาดังลั่น เป็นผลให้ทุกคนต่างลอบมองมาด้วยความสนใจและหวั่นเกรงในคราวเดียวกัน การหัวเราะของชินอ๋องเหตุใดจึงฟังแล้วขนลุกนักเล่า

"พวกเจ้าสองคนพ่อลูกช่างทำให้ข้าเปิดหูเปิดตานัก ในเมื่อเจ้าเอ่ยถามว่าผู้ใดกล้าขวาง แล้วถ้าข้าบอกว่าข้าเองก็อยากได้นางไปร่ายรำในห้องของข้าคืนนี้ด้วย เจ้าจะว่าอย่างไร"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel