ตอนที่ 2 อนุหน้าด้าน[2/2]
หลังจากที่ทานอาหารจนอิ่ม ชิวว่านก็เงยหน้าขึ้นมาแจกยิ้มหวานให้ทุกคน จนถูกแม่บ้านถลึงตาใส่
“หึ! มัวยิ้มอะไรอยู่ได้ ไปได้แล้ว นายท่านรออยู่!” หลิวลี่ตะคอกเสียงดัง ก่อนจะเดินนำไป
เด็กสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินตามหลังแม่บ้านตรงไปยังเรือนใหญ่ ตามมาด้วยสาวใช้ อาโหยวใช้จังหวะนั้นเดินขึ้นไปตีคู่กับผู้เป็นนาย กระซิบถามอย่างไร้สุ้มไร้เสียง “คุณหนู จะไปจริงๆ หรือ?”
ชิวว่านทำเพียงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม นึกไปถึงใบหน้าถมึงทึงของแม่ทัพเหว่ย ความจริง นางก็แค่อยากรู้ว่าแม่ทัพผู้หล่อเหลาผู้นี้จะเป็นอย่างที่ผู้คนร่ำลือจริงหรือไม่ เดิมทีชิวว่านคิดว่าเหว่ยเทียนเซียวเป็นตาแก่บ้าตัณหา แต่พอได้มาเห็นตัวจริงถึงได้รู้ว่าแค่เรื่องแรกก็ผิดแล้ว ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงต้องการไปพิสูจน์ดู
พอทั้งสามเดินมาถึงหน้าประตูเรือน แม่บ้านประจำจวนก็หันมากล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “รีบเข้าไปสิ!”
เด็กสาวก้าวเข้าไปในเรือนใบหน้ายังประดับด้วยรอยยิ้มอยู่เช่นเดิม ส่วนอาโหยวที่กำลังจะก้าวตามไป แต่ถูกห้ามเอาไว้
“เจ้าไม่ต้อง กลับไปรอที่เรือน นายท่านไม่ชอบให้ข้ารับใช้มายืนเกะกะหน้าเรือน”
ได้ยินอย่างนั้น อาโหยวก็ได้แต่มองตามหลังผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง กระทั่งเห็นชิวว่านพยักหน้าโดยไม่หันกลับมา นางถึงได้ยอมตัดใจเดินจากไป
ท่ามกลางแสงเทียนภายในห้องโถง เหว่ยเทียนเซียวไม่ได้หันไปมองร่างบอบบางที่พึ่งก้าวเข้ามา สายตาเย็นชายังตกอยู่บนมีดสั้นในมือ ทำให้ชิวว่านมีเวลามองสำรวจเขาอย่างละเอียด
แม่ทัพเหว่ยผู้นี้ มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ ภายใต้ชุดสีดำรัดรูป นางพอจะคาดเดาถึงความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายในได้ แต่ที่หน้ามองที่สุด เห็นจะเป็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายที่แตกต่างไปจากบุรุษทั่วไป คิ้วเข้มดกดำพาดเฉียงขึ้นบนราวกับดาบ หัวคิ้วมีรอยต่อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูปอวบอิ่มสีส้มจางๆ รัศมีรอบกายสง่างามแฝงความน่าเกรงขาม
จะว่าไปแล้ว เหว่ยเทียนเซียวคือบุรุษที่สตรีทุกคนใฝ่ฝันหา แต่สำหรับหญิงสาวที่เกิดมาในครอบครัวบุรุษรูปงามอย่างชิวว่าน แม่ทัพหนุ่มจึงแลดูธรรมดาในสายตาของนาง เด็กสาวก้าวเท้าเข้าไปใกล้ร่างสูงที่นั่งอยู่บนตั่งด้วยรอยยิ้ม ไม่ทันให้นางได้ตั้งตัว มีดเล่มเล็กที่เคยอยู่ในมือของท่านแม่ทัพก็พุ่งเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว
ร่างบอบบางพลิ้วกายหลบวิถีทางของมีดสั้นได้อย่างสบาย แต่มันกลับไม่ใช่แค่นั้น เพราะฝ่ามือที่แฝงด้วยพลังของท่านแม่ทัพพุ่งตามมาติดๆ โจมตีเข้าที่หน้าท้องของนางพอดี ทำให้ร่างเล็กกระเด็นลอยไปกระแทกแจกันใบใหญ่จนแตกกระจาย
“อั้ก” นางถึงกับกระอักเลือดออกมา ชิวว่านทำได้เพียงแค่ขยับตัวลุกนั่งคุกเข่า ทาบฝ่ามือลงบนตำแหน่งที่ถูกโจมตี รู้สึกได้ว่าผนึกของบิดากำลังเกิดรอยร้าว ไม่มีเวลาให้คิดมาก นางต้องหาทางไปจากที่นี่ ก่อนที่ผนึกจะพังทลาย
“ใครส่งเจ้ามา!” น้ำเสียงเหยียบเย็นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ไม่รู้ว่าเหว่ยเทียนเซียวกลับไปนั่งสงบอยู่บนตั่งตั้งแต่เมื่อใด แต่เรื่องนั้นไม่ได้ทำให้ชิวว่านสนใจ ร่างบอบบางรีบลุกขึ้นยืนโดยไม่คิดตอบคำถาม พยายามรวบรวมกำลังที่เหลืออยู่เพื่อหนีออกจากห้อง นางขยับได้เพียงก้าวเดียวร่างของแม่ทัพเหว่ยก็มายืนขวางหน้าประตูเอาไว้แล้ว พร้อมกับมองมาที่นางด้วยสายตาเย็นชา ในแววตามีแต่ไอสังหาร
“ท่านแม่ทัพ ท่านต้องปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้!” ชิวว่านมองสบดวงตาคมเข้มอย่างอ้อนวอน เวลาของนางแทบไม่มีเหลือแล้ว เพราะผนึกในร่างเริ่มปริแตกมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ปล่อยรึ? หึ! ทางเดียวที่เจ้าจะออกจากห้องนี้ไปได้ คือกลายเป็นศพออกไป!” ไม่เพียงแค่ไม่คิดจะปล่อยนาง แต่เหว่ยเทียนเซียวยังก้าวเข้าไปหาร่างเล็กทีละก้าวอย่างใจเย็น ราวพยัคฆ์กำลังจะขย้ำเหยื่อ เขาก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว เด็กสาวก็ถอยหนีไปหนึ่งก้าว สิ่งที่นางหวาดกลัวหาใช่แม่ทัพเหว่ยผู้นี้ แต่เป็นตัวนางเอง
“วะ..เหว่ยเทียนเซียว ดะ..ได้โปรด อย่าเข้ามา” ชิวว่านอ้อนวอนเสียงสั่นเครือ สองข้างแก้มเริ่มขึ้นสี ความร้อนรุ่มที่หลั่งไหลออกจากรอยแตกของผนึกเริ่มกระจายไปทั่วร่าง ทำให้เวลานี้เด็กสาวแลดูเย้ายวนไม่น้อย อีกทั้งดวงตาคู่งามยังแฝงไปด้วยความปรารถนาชัดเจน
เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง มุมปากของแม่ทัพเหว่ยก็เหยียดขึ้นเล็กน้อยอย่างนึกดูถูก “คิดใช้แผนยั่วยวนข้า ช่างไม่เจียมตัวจริงๆ” เหว่ยเทียนเซียวก้าวอีกเพียงสองก้าวก็เข้าประชิดตัวนาง เพราะร่างเล็กถอยไปจนติดผนัง
ชิวว่านส่ายหน้ามองใบหน้าหล่อเหลา พยายามกดฝ่ามือที่ทาบอยู่บนหน้าท้องของตัวเองให้แน่นขึ้น แต่มันมิอาจช่วยยับยั้งรอยแตกของผนึกได้ “มะ..ไม่นะ! ถอยออกไป อึก!” ในที่สุด ผนึกพลังวัตรก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
กว่าที่เหว่ยเทียนเซียวจะทันรู้ตัว ร่างสูงใหญ่ก็ถูกจู่โจมจนล้มลงไปนอนหงายที่พื้น พร้อมกับถูกจี้สกัดจุด “ขะ..ข้าเตือนท่านแล้ว” เอ่ยออกมาได้แค่นั้น สติของชิวว่านก็ขาดหายไปทันที พิษบูชาหยางที่ถูกกักขังมาเป็นสิบปีไหลเวียนไปทั่วร่างของชิวว่านอย่างรวดเร็ว
เสื้อผ้าที่ใช้บดบังความแข็งแกร่ง ถูกฉีกกระชากจนขาดไม่เหลือชิ้นดี เผยให้เห็นเรือนร่างกำยำ แววตาของเด็กสาวจับจ้องไปยังอวัยวะกึ่งกลางลำตัวที่แม้จะยังหลับใหลแต่ก็ใหญ่มิใช่น้อยด้วยความพึงพอใจ นางลงมือว่องไวจนน่าเหลือเชื่อ ไม่นานท่อนเนื้ออ่อนตัวก็เข้ามาอยู่ในโพรงปาก
