สตรีอย่างข้าอะไรก็เป็นที่สุด

78.0K · จบแล้ว
ล้านปีแสง
41
บท
21.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ปากเสีย ใจกล้า หน้าด้าน ยังมีอะไรอีกที่ไม่สุด ก็ข้าเป็นถึงบุตรสาวหัตถ์พญายมผู้เลื่องชื่อนี่นา จะทำให้บิดาเสื่อมเสียมิได้ ในยุทธภพ มีคำล่ำลือเกี่ยวกับธิดาพญายม ถึงความชั่วร้ายของนาง บ้างก็ว่านางฆ่าคนไม่เลือก ชอบบังคับขืนใจบุรุษ เป็นสตรีที่หน้าด้านไร้ยางอาย มิหนำซ้ำนางยังเป็นคนอัปลักษณ์ คำเล่าลือเหล่านี้โด่งดังไปทั้งแผ่นดิน และไม่มีใครที่ไม่เชื่อ แต่จะมีสักกี่คนที่เคยเห็นตัวตนจริงๆของ ธิดาพญายม นิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายภาคต่อ เรื่อง กระบี่แม่ลูกอ่อน เป็นเรื่องของ ชิวว่าน บุตรสาวคนเล็กของตระกูล

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนางเอกเก่งจีนโบราณอัจฉริยะฟินๆ

ตอนที่ 1 คุณหนูบ้านใด [1/2]

นาม หัตถ์พญายม ในยุทภพไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก ในเมื่อทุกคนรู้จักหัตถ์พญายม ก็ย่อมต้องเคยได้ยินชื่อธิดาพญายมซึ่งเป็นบุตรสาว ข่าวลือเกี่ยวกับสตรีนางนี้ ล้วนเป็นเรื่องเลวร้ายทั้งสิ้น บ้างก็ว่านางฆ่าคนไม่เลือก ชอบบังคับขืนใจบุรุษ เป็นสตรีที่หน้าด้านไร้ยางอาย มิหนำซ้ำนางยังเป็นคนอัปลักษณ์ คำเล่าลือเหล่านี้โด่งดังไปทั้งแผ่นดิน และไม่มีใครที่ไม่เชื่อ แต่จะมีสักกี่คนที่เคยเห็นตัวตนจริงๆ ของ ธิดาพญายม

"นี่พวกเจ้า ได้ข่าวแล้วหรือยัง ว่ากันว่าธิดาพญายมก่อเรื่องอีกแล้ว คราวนี้ถึงกับไปทำร้ายคนรักของประมุขอู่เลยเชียวนา" 

"เฮอะ! สตรีพรรค์นั้น เจ้าจะเอ่ยถึงให้เสียปากทำไม"

"ชู่ๆ เบาหน่อย อยากตายหรือไร ลืมแล้วหรือ ว่านางเป็นบุตรสาวผู้ใด นั่นยังไม่นับบิดาที่เหลือรวมทั้งพี่ชายของนางอีก หากเข้าหูตัวประหลาดพวกนั้นล่ะก็ ชาตินี้เจ้ากับตระกูลเจ้าอย่าหวังได้ตายดีเลย" 

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของบุรุษทั้งสามชั้นล่าง ทำให้หญิงสาวสองนางที่นั่งอยู่บนชั้นสองต้องส่ายหน้า "อีกแล้วหรือเจ้าคะคุณหนู แม่นางกู่ผู้นั้นเหตุใดจึงยังไม่ยอมเลิกราอีก"

"ช่างเถิดอาโหยว อย่าไปสนใจเลย รีบกินจะได้รีบไป" ชิวว่านที่กำลังตกเป็นจำเลยในบทสนทนาหาได้สนใจวาจาดูถูกดูแคลนเหล่านั้นไม่ นั่งกินอาหารบนโต๊ะอย่างสบายใจจนเกลี้ยงจาน ผิดกับสาวใช้ ที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด

หลังจากที่วางเงินไว้บนโต๊ะ สองนายบ่าวก็ลุกออกจากโต๊ะก้าวลงบันได 

"พวกเจ้า ดูนั่น!"

จากที่ชายทั้งสามกำลังนั่งด่าธิดาพญายม พอเห็นเด็กสาวที่พึ่งก้าวลงมาจากชั้นสอง ก็พากันตกตะลึง  "งดงามยิ่งนัก คุณหนูบ้านใดกัน"

"ข้าก็อยากรู้เหมือนเจ้า แต่ข้าไม่เห็นองครักษ์ข้างกายของนาง สงสัยจะไม่ใช่คุณหนูมีชาติตระกูล"

"อ่า จริงด้วยสิ ถ้าอย่างนั้น....." หนึ่งในชายทั้งสามรีบจัดเสื้อผ้าให้ดูดี ก่อนจะลุกขึ้นยืนแทนประโยคที่เหลือ เพื่อไปดักรอหญิงสาว แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ ก็ล้มลงไปนอนชักดิ้นชักงอ 

ชิวว่านเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่กลอกตามองบน ก้าวข้ามร่างนั้นไปโดยไม่สนใจไยดี กระทั่งออกมายืนหน้าโรงเตี๊ยม "นี่! พี่สามพี่สี่ พวกท่านเลิกตามข้าเสียที! เอาแต่ตามข้าเช่นนี้ ข้าจะทำอะไรได้เล่า!" เด็กสาวตะโกนไปรอบๆ ด้วยใบหน้างอง้ำ จากนั้นก็เดินไปเอาม้าด้วยความหงุดหงิด 

หลังจากที่ชิวว่านและสาวใช้ควบม้าจากไป ชายหนุ่มสองคนถึงได้ปรากฏกายออกมา "พี่สาม ข้าว่าพวกเราทำให้น้องเล็กโกรธแล้วแหละ" 

"ข้าเห็นแล้ว แต่ปากเจ้าพวกนั้น โดนแค่นั้นมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ"

"แล้วพวกเราจะตามต่อไปหรือไม่" 

"ไม่ต้องหรอก กลับไปรายงานพวกท่านพ่อก่อนดีกว่า ถ้าน้องโกรธจนทำให้พวกเราหานางไม่พบ จะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่"

เรื่องเลวร้ายของธิดาพญายม ในที่สุดก็มีเพิ่มมาอีกหนึ่ง

ไม่ทันข้ามวัน ข่าวว่านางฆ่าคนบริสุทธิ์ในโรงเตี๊ยมก็ดังไปทั่วยุทธภพ 

ด้วยความที่อยากออกผจญภัยโดยไร้ซึ่งพี่ชายตามก่อกวน เด็กสาวจึงเลือกที่จะเดินทางข้ามแคว้น ไปในที่ซึ่งจะไม่มีใครรู้จักธิดาพญายม และไม่เกรงกลัวต่อครอบครัวตัวประหลาดของนาง

ชายแดน แคว้นเส้า 

"คุณหนูพวกเราจะข้ามไปจริงๆ หรือเจ้าคะ" 

"ก็ใช่นะสิ มาถึงนี่แล้ว" 

"ถ้าพวกนายท่านรู้เข้า มีหวัง..." อาโหยวไม่กล้าคิดต่อ ว่าหากตัวประหลาดที่บ้านรู้จะเป็นอย่างไร คราวก่อนแค่คุณหนูของนางหนีเข้าไปอยู่ในกองโจร เขาลูกนั้นยังถูกเผาเสียจนวอดวายไม่มีเหลือ แล้วนี่ถึงกับหนีเข้าไปต่างแคว้น ไม่ใช่ว่าจะก่อสงครามหรอกหรือ

"อย่าพูดมากน่า อาโหยว ท่านพ่อกับพวกพี่ๆ ไม่รู้หรอก ข้าดูแล้ว ไม่มีใครตามมา ไปกันเถิด ข้าจะไปติดต่อกองคาราวานขนสินค้า เดินทางไปพร้อมพวกนั้นสบายกว่าขี่ม้าไปเองตั้งเยอะ" ชิวว่านก้าวนำไปโดยไม่สนใจสีหน้ากังวลของสาวใช้

เรื่องของเรื่องคือนางเที่ยวเล่นที่นี่จนเบื่อแล้ว อยากลองไปที่ที่แตกต่างดูบ้าง และแคว้นเส้าก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย ว่ากันว่าจอมยุทธที่นั่นล้วนเก่งกาจมีวิชาเป็นเอกลักษณ์ นางถึงได้อยากลองไปพิสูจน์ดู

กองคาราวานขนสินค้าข้ามด่านพวกนี้ ส่วนใหญ่เป็นพวกพ่อค้าที่มีอิทธิพลและกองกำลังในมือมากพอควร เพราะไม่เช่นนั้น คงขนสินค้าข้ามเขาเขตแดนที่มีโจรและคนเถื่อนอยู่ชุกชุมไม่ได้ ชิวว่านเลือกกองคาราวานที่ดูแข็งแกร่งที่สุด เพราะนางขี้เกียจจะเจอปัญหาตอนเดินทาง 

แค่เห็นใบหน้าของนาง หัวหน้ากองกำลังคุ้มกันก็รีบตอบรับทันที เด็กสาวเลยได้เดินทางข้ามแคว้นอย่างสบาย มิหนำซ้ำในกองคาราวานนี้ยังมีสตรีกลุ่มใหญ่เดินทางไปด้วย ชิวว่านเลยยิ่งสบายเข้าไปใหญ่

เดิมทีชิวว่านสวมชุดคล้ายบุรุษ มัดผมสูงไว้กลางศีรษะ แต่เพื่อให้ดูกลมกลืน นางจึงขอซื้อชุดจากสตรีเหล่านั้นมาสามสี่ชุดสำหรับนางและสาวใช้ใส่ อีกอย่าง ก็เพื่อไม่ให้ใครสงสัยฐานะของนาง

ชิวว่านยังรู้อีกว่า หนึ่งในหญิงสาวที่มากับขบวน กำลังจะถูกส่งไปเป็นอนุของแม่ทัพเหว่ยเทียนเซียว เพื่อเชื่อมสัมพันธ์

ว่ากันว่าแม่ทัพผู้นี้ โหดเหี้ยมวิปริตอำมหิตผิดมนุษย์ ซ้ำยังมักมากในกาม สตรีในจวนมีมากยิ่งกว่าฮ่องเต้แคว้นเส้า

การเดินทางในช่วงเดือนแรก เป็นไปอย่างราบรื่น แต่พอเริ่มต้นเดือนที่สองได้สี่ห้าวัน สตรีที่ต้องไปเป็นอนุของแม่ทัพเหว่ย อยู่ ๆ ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ขบวนมิอาจไปต่อ จนอีกหลายขบวนด้านหลังต้องพากันหยุดลง

“ท่านกู่ จะทำอย่างไรกันดี คุณหนูหายไปเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ ๆ อีกอย่างพื้นที่แถบนี้มีแต่โจร ต่อให้ได้ตัวนางกลับมาก็คงไม่เหลือแล้ว”

“ไฮ้! มันเกิดเรื่องบัดซบเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน” ผู้ดูแลกองคาราวาน ถอนใจออกมาเสียงดัง ท่าทางกลัดกลุ้มไม่น้อย

กู่ตั้วหยาเงยหน้ามองฟ้าก็แล้ว ก้มหน้ามองดินก็แล้ว ก็ยังคิดไม่ออกว่าควรแก้ปัญหานี้อย่างไร เพราะหากไม่ได้ส่งอนุไปเชื่อมสัมพันธ์กับแม่ทัพที่ดูแลเขตชายแดน ปัญหาใหญ่ต้องตามมาแน่ ดีไม่ดี พวกเขาอาจจะไม่สามารถข้ามเขตชายแดนได้อีก

“เฮ้อ!” หลังจากที่ถอนใจเป็นรอบที่สิบ ลมหายใจของทานกู่ ก็ต้องสะดุดไปเล็กน้อย เพราะเด็กสาวที่มายืนอยู่เบื้องหน้า

“ข้าจะปลอมเป็นคุณหนูผู้นั้นไปเป็นอนุแม่ทัพแคว้นเส้าให้เอง”

แปดเดือนต่อมา

“คุณหนูเจ้าคะ บ่าวไม่เข้าใจเลย เหตุใดท่านต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วยเจ้าคะ”