ตอนที่ 3 ผู้หญิงมีเหา
เจ้าของร่างนี้ไม่สระผมมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว นิลเนตรถอดปิ่นปักผมบนศีรษะออกมาแล้วเพ่งมอง ปิ่นปักผมโบราณสีเงินอันนี้มันเป็นของเธอตอนที่ทำฟาร์มอยู่นี่นา แล้วตอนนี้มันตามเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
แปลก! แต่ช่างเถอะ มาแล้วเธอก็ใช้มันต่อแค่นั้น เธอวางปิ่นปักผมไว้บนชั้นวางสบู่แล้วเริ่มสระผม
บีบแชมพูที่เหลืออยู่ในขวดเพียงน้อยนิด แล้วยีบนศีรษะให้เกิดฟองแต่ผมคงสกปรกมากเกินไป จึงทำให้รอบแรกแชมพูแทบไม่มีฟองเลย รอบสองจึงใช้น้ำเปล่าเทลงในขวดมากหน่อย เขย่า ๆ แล้วสระอีกครั้ง ส่วนครีมนวดก็เหลือไม่ต่างกันนัก อย่างไรก็ต้องเอาวันนี้ให้รอดก่อน นิลเนตรใช้เวลาอาบน้ำไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมงเพื่อขัดสีฉวีวรรณตัวเอง
ได้อาบน้ำจนสะอาดหมดจดแล้วค่อยรู้สึกดีขึ้น เปลี่ยนเสื้อผ้าซับผมพอหมาด ๆ แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรมาเดินเล่นอยู่บนหัวคล้ายกับเดินสวนสนาม มันทั้งคันทั้งรำคาญ เธอยกมือขึ้นเกาและลูบคลำผิวหนังตรงตำแหน่งนั้น ไม่น่าเชื่อเธอจับตัวมันได้แล้ว ลักษณะตัวมันคุ้น ๆ เหมือนจะเป็น…
นิลเนตรดึงสิ่งนั้นออกมาจากเส้นผมอันยาวเหยียด อยากไว้ผมยาวแต่นิลเนตรคนก่อนขี้เกียจสระผมมาก แต่ก็ดีผมเธอยังเป็นเส้นตรงสลวย ถ้าผมหยิกคงหวีลำบากกว่านี้
เธอเพ่งมองสิ่งที่อยู่ในมืออย่างพินิจพิเคราะห์ เพื่อความมั่นใจจึงหยิบไฟมาส่องดู ใจเธอเต้นระทึก จากนั้นก็…
“กรี๊ดดดด!”
“อ๊ายยยย!”
เสียงแรกคือเสียงของหลานสาว เสียงที่สองคือเสียงของย่า
“นิลเป็นอะไรลูก” เจิมจันทร์ถามหลานด้วยความตกใจ เธอสะดุ้งสุดตัวจนเกือบจะตกเตียง
“ย่า…” นิลเนตรทำหน้าเหยเกคล้ายจะร้องไห้
“มีอะไร ร้องตกอกตกใจขนาดนั้น ย่าหัวใจจะวาย” เจิมจันทร์ยกมือขึ้นทาบอกตัวเอง หัวใจเธอเต้นรัวแรง
“หัวหนูมีเหาค่ะ” นี่เหาหรือแมลงเม่าทำไมมันตัวใหญ่ขนาดนี้
เจิมจันทร์ผ่อนลมหายใจออกมา ไอ้เราก็นึกว่าเป็นอะไร ที่แท้ก็เจอเหา ทำเหมือนไม่เคยมีอย่างนั้นแหละ “นิลก็มีเหาอยู่แล้วนะลูก จะตกใจทำไม” ผู้เป็นย่าว่าเสียงเนือย ๆ เสียงกรีดร้องของหลานเล่นเอาทุกส่วนบนร่างกายกระตุกไปหมด
นิลเนตรนิ่งไปครู่หนึ่ง
เออใช่ นิลเนตรมีเหาอยู่แล้วจริง ๆ ก่อนที่ย่าจะป่วยติดเตียง ย่าเป็นคนหวีด้วยหวีเสนียดให้เธอตลอด และยังหาใบน้อยหน่ามากำจัดเหาให้เธอด้วย แต่หลังจากที่ย่าป่วยนิลเนตรก็เป็นคนดูแลร่างกายตัวเองทั้งหมด ผลที่ออกมาจึงเป็นอย่างที่เห็น
“หวีเสนียดอยู่ตรงไหนคะย่า” ถ้าคืนนี้เธอไม่ได้ฆ่าพวกมันบ้างเธอคงนอนไม่หลับแน่
“หลังตู้เสื้อผ้านั่นไง” นิลเนตรเขย่งเท้านิดหนึ่งแล้วหยิบหวีเสนียดลงมา พร้อมกับหากระดาษสีขาวมารอง
อยากจะร้องไห้เป็นภาษาเขมร อายุสิบเก้าแล้วยังต้องมากำจัดเหาบนหัว
โอ้! ไม่อยากจะเชื่อ เธอเบิกตาโตเท่าไข่ห่านสองฟอง เมื่อเห็นเหาไต่อยู่บนกระดาษ มีทั้งเหาชรา เหาที่กำลังตั้งครรภ์ ไปจนถึงเหาที่กำลังอยู่ในวัยเยาว์ แต่เธอจะไม่มีทางปรานีพวกมัน แม้พวกมันจะตัวจิ๋วแค่ไหนก็ตาม
“หนึ่งร้อยหนึ่ง หนึ่งร้อยสอง หนึ่งร้อยสาม…” นิลเนตรทำท่าคล้ายจะเป็นลมเมื่อเหาที่ร่วงลงมาจากหัวนับได้ทั้งหมดหนึ่งร้อยสามตัว ไข่ของมันคงมีมากกว่าพันฟอง เธออยากถามนิลเนตรจังเลยว่าทนอยู่กับปรสิตพวกนี้ได้อย่างไรตั้งมากมาย เธอต้องบริจาคเลือดให้พวกมันกินปีละตั้งเท่าไร
เจิมจันทร์มองหลานแล้วแอบยิ้ม นิลเนตรรู้จักดูแลตัวเองเป็นบ้างแล้ว ก่อนหน้าหลานสาวคนนี้อาบน้ำสัปดาห์ละครั้งหรืออาจจะนานกว่านั้น ไม่ชอบถูกขี้ไคล เทน้ำใส่ตัวสามขันก็เสร็จแล้ว ไม่ค่อยสระผมแต่หวงผมมากเวลาย่าหาเหาให้ผมเหนียวจนเหาเดินไปไม่เป็น หนังศีรษะก็เกาจนถลอกปอกเปิก แต่วันนี้เธออาบน้ำนานเป็นประวัติศาสตร์ กลิ่นตัวหอมกรุ่นอย่างไม่เคยเป็น ทำให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูน่ามองมากขึ้น
นิลเนตรหวีเหาเสร็จก็เอาพวกมันไปเผาไฟให้สิ้นซาก จากนั้นก็จัดยาให้ย่ากินยานี้ได้มาจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จากนั้นก็เดินไปหน้ากระจกเพื่อดูหน้าตัวเองชัด ๆ ผู้หญิงคนนี้ถือว่าเป็นคนสวย ใบหน้าเรียวเล็ก คิ้วเข้มเรียวโก่งดั่งคันศร จมูกโด่ง ริมฝีปากสีระเรื่อ และเธอมีผิวสีแทน ผิดที่ตอนนี้ไม่มีครีมทาผิวเลย
อีกอย่างเธอคือผู้หญิงสวยที่มีเหาดกมาก ถ้าเจ้าของร่างนี้ไม่รักผมมากเธอคงคิดอยากจะโกนผมทิ้งไปเสีย
เธอเดินไปนั่งลงข้างเตียงย่าแล้วนวดขาให้ท่าน “ไม่ง่วงเหรอ” ปกติหลานไม่เคยทำเช่นนี้ ส่วนใหญ่กินข้าวอิ่มแล้วก็หลับเป็นตาย เจิมจันทร์รู้ว่าหลานทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน
“ง่วงค่ะ แต่หนูรอให้ผมแห้งก่อน” เมื่อไม่มีไฟฟ้า พัดลมก็ไร้ประโยชน์
ย่าหลับไปแล้ว แต่นิลเนตรยังนั่งฟังเสียงฝนตกใส่สังกะสีอยู่เพียงลำพัง และหวนคิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ ของตัวเองก่อนจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ ก่อนที่จะมาทำฟาร์มเธอโดนสามีนอกใจ พอเธอจับได้จึงขอหย่าและเขาก็ยอมหย่าอย่างง่ายดาย เพราะหลงผู้หญิงคนใหม่ ยังดีที่ไม่มีลูกด้วยกัน
เธอหอบเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ประมาณหนึ่งล้านบาทมาลงทุนทำฟาร์มเกษตร เธอขุดบ่อเลี้ยงปลานิล ปลาดุก เลี้ยงกบ เลี้ยงไก่ไข่ ปลูกผักหวาน และเลี้ยงมดแดง ปีแรกเธอไม่มีกำไรเลย เพราะปลานิลและกบที่เลี้ยงไว้ตายหมด เธอท้อจนเกือบจะเลิกทำ แต่ก็กัดฟันอดทนลองผิดลองถูกจนเข้าสู่ปีที่สอง มดแดง ผักหวาน เริ่มให้ผลผลิต ปลานิล ปลาดุกก็เริ่มมีกำไร จนปีที่สามที่สี่เธอเริ่มเข้าสู่คำว่ามั่งคั่ง และมีเงินเก็บในบัญชีอยู่ล้านกว่าบาท แต่แล้วเธอก็ต้องมาตายเสียก่อน
เฮ้อ! ฉันต้องเริ่มใหม่อีกแล้วเหรอเนี่ยจะกลับไปที่ฟาร์มเดิมของตัวเองอีกครั้งก็คงไม่ได้แล้ว เพราะคนคงหาว่าเราเป็นพวกต้มตุ๋น พ่อกับแม่ก็จากไปนานแล้ว อีกทั้งถ้าเธอหนีไปอยู่ที่อื่นย่าเจิมจะอยู่กับใคร แต่เริ่มต้นใหม่ครั้งนี้ไม่มีเงินทุนสักบาท ทำเกษตรใช่ว่าจะใช้เงินน้อยเสียเมื่อไร