บท
ตั้งค่า

10. อยากเป็นปลาเค็มแต่ทำไมได้

ทว่าเมื่อคล้อยหลังสาวใช้ ผู้ที่นั่งก้มหน้าอย่างคนตื่นกลัว กลับเงยหน้าขึ้นมาเผยแววตาคมกริบ ไร้ซึ่งแววหวาดหวั่นให้เห็น

“นายท่านที่ว่าคงจะเป็นฉีอ๋องสินะ ว่าแต่ทำไมอีตาอ๋องนี่ถึงได้เอาชีวิตคนตระกูลหานมาขู่บังคับเราล่ะ ปกติหานซืออินก็รักหลงเขามิใช่หรือ เขาบอกอะไรนาง นางย่อมเชื่อฟังทุกอย่างอยู่แล้วนี่ ทำไมต้องเอาชีวิตคนจวนหานมาขู่ ตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ ทำไมมันดูวุ่นวายจัง แล้วภาพวาดอะไรนั่นมันมีความหมายยังไง ทำไมฉีอ๋องถึงอยากได้นัก” ซืออินครุ่นคิดหาเหตุผล เกี่ยวกับเรื่องที่ฉีอ๋องเอาชีวิตคนตระกูลหานมาขู่จนรู้สึกปวดศีรษะ ถึงกระนั้นนางก็ยังหาคำตอบให้ตนเองไม่ได้

ในประวัติศาสตร์มันไม่ได้ระบุเรื่องพวกนี้เอาไว้ ในนั้นบอกเพียงว่า หานซืออินร่วมมือก่อกบฏกับชายชู้ คนผู้นั้นก็คือฉีอ๋อง และมีคนตระกูลหานร่วมรู้เห็นด้วย

ทว่าเท่าที่สาวใช้นางนี้เอ่ย มันเหมือนตระกูลหานไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วย ที่สำคัญเหมือนเรื่องนี้หานซืออินจะเป็นคนทำผู้เดียว ทว่ากรรมกลับตกกับทุกคน

“เฮ้อ! ถ้าเป็นแบบนี้ ความคิดที่เราจะอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรมันคงไม่เวิร์คสินะ อุตส่าห์จะอยู่เงียบ ๆ ไม่วุ่นวายกับใครแล้วเชียว แบบนี้เราก็ต้องเอาตัวเข้าไปอยู่ในวังวนการก่อกบฏแล้วน่ะสิ” พึมพำจบก็เกยคางบนขอบหน้าต่างอย่างหมดอาลัย

เพราะความฝันที่นางตั้งใจจะใช้ชีวิตแบบไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด กลับต้องมาจบลง ด้วยคำข่มขู่ของกลุ่มคนมีอำนาจ

“หรือเราควรบอกเรื่องนี้กับท่านโหวดี…” ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้ม ทว่าไม่ถึงอึดใจมันก็เหือดหายไป “เหอะ! ฝันไปเถอะ เขาคงเชื่อหรอก เรื่องบ้าบอพันธุ์นี้ ตามประวัติฉีอ๋องคือบุรุษที่มีคุณงามความดี ทำคุณประโยชน์ต่อบ้านเมืองมาก เขาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋อง หากเราบอกว่าอีกสี่เดือนคนผู้นี้จะกบฏ คงมีคนเชื่อหรอก” ซืออินกล่าวโต้เถียงกับตนเองอยู่เช่นนั้น

“เฮ้อ! เอาไงดี หรือเราคล้อยตามไปก่อน รอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไร หากเข้าตาจนค่อยบอกเรื่องนี้กับท่านโหว ถ้าเราไม่ลงมือกับซีเอ๋อร์ และไม่ลงมือกับโจวเป่ยโหว ไม่แน่ทุกอย่างอาจแก้ไขได้ อีกสี่ห้าเดือนข้างหน้า เขาอาจกลายเป็นกำลังสำคัญให้กับชินอ๋อง ช่วยปราบกบฏที่คิดแย่งชิงบัลลังก์ได้ ใช่…เอาตามนี้แหละ เราแค่รอเวลา ไหลไปตามน้ำก่อนก็พอ” ซืออินแนะตนเอง ทว่าจู่ ๆ คิ้วสวยก็ขมวดเป็นปม ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกว่า

“เอ๋! แล้วคนตระกูลหานล่ะ จะปล่อยให้พวกเขาตกเป็นตัวประกันอยู่อย่างนั้นหรือ” นางเงียบราวกับกำลังครุ่นคิด ไม่นานก็เปล่งเสียงพูดอย่างหมดอาลัย “เฮ้อ! ทำไงดีล่ะ ทำไมหมอธรรมดาอย่างเรา จะต้องมาแก้ปัญหาใหญ่ระดับชาติแบบนี้ด้วยนะ”

สิ้นคำ ร่างอรชรก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่หราบนตั่งที่ตนนั่ง ไร้ซึ่งท่าทางความเป็นกุลสตรีให้เห็น เป็นเหตุให้สาวใช้ข้างกายถึงกับมึนงง ต้องรีบเข้ามาประคองเพราะคิดว่านายตนอาจล้มป่วย

“ฮูหยิน เป็นอันใดไปเจ้าคะ”

“ข้าไม่เป็นไร แค่อยากนอนพัก” เอ่ยแล้วซืออินก็ขยับกายนอนตะแคงหันหลังให้ทั้งคู่ นางไม่อยากให้ใครเห็นท่าทางเหนื่อยอ่อนของตน ซึ่งยามนี้มันลามมาถึงใจจนทำให้ห่อเหี่ยวขึ้นมาแล้ว

วันต่อมา…ยามซื่อ [09:00-10:59]

ท่านโหวออกจากจวนแล้ว หานซืออินจึงตรงมาที่เรือนพักของเขาซึ่งอยู่ห่างออกมาไม่ไกลนัก เมื่อมาถึงนางก็เดินตรงขึ้นไปที่ห้องตำราของเขาตามคำบอกเล่าของเจียอี

ด้านบนยังคงปิดเงียบสนิทไม่มีแม้แต่ยามคอยเฝ้า

“พวกเจ้ารอที่นี่ ข้าจะขึ้นไปคนเดียว” ซืออินหันมาสั่งบ่าวทั้งสามที่ติดตามมาด้วย ซึ่งอันที่จริงนางตั้งใจกันท่าเจียอีต่างหาก

“ข้าน้อยจะขึ้นไปด้วยเจ้าค่ะ เผื่อฮูหยินมีอะไรให้…”

“ไม่ต้อง! ข้าบอกจะขึ้นไปคนเดียวไยไม่ฟังคำสั่ง” ซืออินใช้สายตาดุมองเจียอี อีกฝ่ายก็ใช้สายตาเดียวกันมองตอบกลับมา ทว่ามันก็เพียงแค่ชั่วครู่ เพราะนางเกรงสาวใช้ที่ตามมาด้วยจะเห็น

ซืออินยกยิ้มโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ จากนั้นนางก็เดินขึ้นไปด้านบน ซึ่งเป็นเรือนยกสูงบันไดเจ็ดขั้น สภาพแวดล้อมร่มรื่นเหมาะแก่การทำงานมาก และเมื่อเปิดประตูเข้าไปซืออินก็ปิดมันทันที เพราะนางไม่ต้องการให้คนด้านนอกรับรู้อันใด

จากนั้นจึงหันกลับมาสำรวจด้านใน “สมกับเป็นเรือนพักของท่านโหว ห้องตำรายังใหญ่กว่าบ้านของคนธรรมดาสามัญอีก” ชื่นชมในความโอ่อ่าแล้วร่างอรชรในชุดสีเขียวอ่อนก็เดินสำรวจไปทั่ว นางเลือกที่จะเดินดูมุมที่เป็นภาพวาดก่อน เพราะซืออินอยากรู้เต็มทีว่าภาพวาดที่ฉีอ๋องปรารถนาเป็นเช่นไร กระทั่งสายตานางมาสะดุดเข้ากับภาพวาดแผ่นหนึ่ง ซึ่งมันแขวนอยู่บนฝาผนัง

คิ้วสวยเริ่มผูกกันเป็นปม เพราะภาพตรงหน้าแค่มองก็รู้ว่ามันไม่ใช่ภาพที่คนโบราณวาดขึ้นแน่นอน นางจึงรีบตรงเข้าไปดูว่าตามมุมมีชื่อเสิ่นเจี้ยตามที่สาวใช้ผู้นั้นบอกหรือไม่

“เสิ่นเจี้ย Shen Jie" ซืออินนิ่งไปทันที

ซืออินยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สายตายังคงจับจ้องไปยังนามที่ถูกสลักเอาไว้ เนิ่นนานกว่าที่นางจะเอ่ยออกมาได้

“ทะ…ทำไมมีชื่อภาษาอังกฤษอยู่ตรงมุมล่างด้วยล่ะ” หญิงสาวพึมพำออกมา จากนั้นนางก็เงยขึ้นมองภาพวาดเบื้องหน้าอีกครั้ง มันถูกแขวนไว้เป็นทางยาว จึงทำให้มองภาพได้ง่าย และไม่นานคนจากยุคปัจจุบัน ที่เคยฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับภูมิศาสตร์มาบ้าง ก็เริ่มเข้าใจความเป็นไปของภาพวาดที่ปรากฏตรงหน้า

“นี่มันแผ่นที่แหล่งแร่ไม่ใช่เหรอ ทำไมคนยุคนี้ถึงวาดมันออกมาได้ล่ะ หรือว่าจะมีนักสำรวจตายแล้วมาเกิดใหม่เหมือนเราจากนั้นเขาก็วาดภาพพวกนี้เอาไว้” หญิงสาวเอ่ยพึมพำไปเรื่อย

เพราะสำหรับซืออินแล้ว เรื่องมหัศจรรย์มันสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ หากมีใครมาเล่าให้ฟัง นางย่อมเชื่อทั้งหมด เพราะเรื่องราวของนางมันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ คนตายแล้วเกิดใหม่มันมีอยู่จริง

วาสนาปลาเค็มลูกสาวเราไม่มีเลย 555

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel