ตอนที่สอง ต้องหนีให้รอด2
ตอนที่สอง
ต้องหนีให้รอด
ปากแดงขบเม้มแน่น หายใจลึกข่มความหวั่นไหว พยายามเค้นสมองระหว่างกวาดมองจนเหลือบเห็นเศษหินซึ่งแตกเป็นคมแหลมอยู่ไม่ไกล
ใช้การปลอบให้ไอ้บ้านี่ใจเย็นลงหน่อยน่าจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นเนื้อตัวคงเขียวช้ำไปหมดและไม่มีแรงหนี
หลันหลันคือนางแบบแนวปลุกอารมณ์ราคะเสน่หาอยู่แล้ว เธอจึงรู้จุดอ่อนของผู้ชายได้ดี
ทันทีที่โถวหลางโน้มหน้าลงใกล้ หญิงสาวจึงแสร้งทำเป็นอ่อนแรง หลุบตาลงเหมือนยอมจำนนไม่ดิ้นรนสะเปะสะปะอีก
ร่างบางที่เผยสองเต้าเต่งตึงอวบอัดขาวผ่องช่างล่อตาล่อใจทำให้ผู้บัญชาการทหารแห่งเผ่าถูเจียก้มลงกัดกลืนกินความนุ่มเด้งทั้งบีบขย้ำด้วยความหิวโหย
“อืม...ของดี อวบใหญ่สู้มือนัก”
แน่นอนว่าโยวหลัวหลันเป็นถึงองค์หญิงย่อมได้รับการดูแลปรนนิบัติผิวพรรณจนผุดผ่องเนียนนุ่ม ทั้งพื้นฐานของนางยังเป็นสตรีงดงามที่มีสัดส่วนพอเหมาะ นั่นย่อมปลุกราคะของอีกฝ่ายจนลุกโชน
โถวหลางซึ่งว่ายน้ำตามมาจนเหนื่อยใช้ริมฝีปากดูดเม้มขบกัดเต้าทรวงทั้งสองข้างสลับกับการคลึงเคล้นจนเป็นรอยแดงไปทั่วด้วยอยากเอาคืน
“ทำให้ข้าต้องเหนื่อย เจ้าก็ต้องเหนื่อยมากกว่า” ผู้บัญชาการหนุ่มไม่ใส่ใจความเลอะเทอะด้วยพวกเขากำลังเกลือกกลิ้งอยู่ริมฝั่งน้ำ
เขาคิดเพียงเร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นเข้าไปในร่างขององค์หญิงต่างเผ่าอย่างสาสมเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ทั้งมวลที่ปะทุขึ้น
แม้จะโดนขย้ำขยี้จนเจ็บปวดแต่หลันหลันยังพยายามตั้งสติหาทางรอด
ทางหนึ่งใช้ลีลาล่อลวงปลุกความกระสันอยากด้วยการเดี๋ยวรุกเดี๋ยวถอยเดี๋ยวดิ้นรนสักพักเคลิ้มไหว
และพออีกฝ่ายเผลอเลื่อนมือลงไปสนใจร่องดอกไม้ที่ด้านล่างเพียงชั่ววูบ นางจึงฉวยจังหวะนั้นหยิบเศษหินคมกริบข่วนเข้าที่ใบหน้าเต็มแรง
“อ๊าก!” เสียงคำรามต่ำดังลั่นขณะร่างสูงใหญ่ผงะออกไปเพื่อจับบาดแผลเพียงเสี้ยวอึดใจ นั่นจึงเป็นโอกาสเดียวที่นางจะรอด
นางแบบสาวในร่างองค์หญิงตัดสินใจกัดฟันผลักร่างที่ทับตัวเองให้ออกห่างแล้วขยับยกเข่าเสยเข้าที่ส่วนกลางกายอันเป็นจุดอ่อนไหวอย่างเต็มแรง
“อ๊าก!” เสียงร้องโหยหวนดังสนั่นขึ้นอีกครั้งพร้อมร่างหนาที่ทรุดลงกำส่วนสงวนของตนเองทำให้แรงถาโถมบนเนื้อตัวผ่อนคลายลง
จังหวะนี้เองหญิงสาวจึงรีบใช้แรงเฮือกสุดท้ายสะบัดตัวเองให้หลุดพ้น แล้วลุกขึ้นวิ่งให้เร็วที่สุดทั้งที่เท้ายังสั่นและหายใจหอบแรง
เสียงฝีเท้าที่ไล่ตามมาดังสะท้อนในความเงียบของป่าทึบขณะโยวหลัวหลันรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดวิ่งไม่หยุดด้วยความรู้สึกว่าทรวงอกของนางที่เปล่าเปลือยช่างแกว่งแรงเหลือเกิน
ด้วยจังหวะวิ่งที่รวดเร็วยามนี้สายลมจึงตีเข้าทำให้ผมยาวสลวยของนางหลุดลุ่ยปลิวกระจาย ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลพรากด้วยความหวาดกลัว ทว่าในแววตายังฉายแสงของการไม่ยอมจำนน
ใช่ เธอจะไม่มีวันปล่อยให้ผู้ใดย่ำยีได้ง่ายๆ อย่างเช่นร่างเดิมเด็ดขาด
ต้องหนีให้รอดเท่านั้น!
โอ๊ย!...เหนื่อย เหนื่อยจริง
ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย?
นางแบบสาวในร่างองค์หญิงวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยรอยถลอกและขีดข่วนจากกิ่งไม้ ขณะที่หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา
ในตอนที่วิ่งจนแทบหมดแรงทั้งยังสะดุดรากไม้จนเซถลา สายตาตื่นตระหนกพลันเหลือบเห็นร่างสูงของบุรุษในชุดที่แตกต่างยืนขวางอยู่กลางทาง
‘มู่หรงเหว่ย’ ข่านผู้นำแห่งเผ่าถูเจีย
