บท
ตั้งค่า

บทที่5 พี่สิงห์กับคุณต้อง 2

แต่เมื่อเสร็จจากการเลือกแหวนแต่งงานสถานที่ที่ตฤณรดาวางเป้าหมายไว้ตอนแรกกลับถูกโยนทิ้งไปและเปลี่ยนจากร้านชาบูเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวริมถนนซอยเข้าวังสิราราชแทน

“ไปกินก๋วยเตี๋ยวกับคุณต้องนะพี่สิงห์” เสียงอ่อนหวานถูกส่งมาให้ทำเอาคนที่ตั้งใจไว้แค่แรกว่าไม่ว่าเด็กสาวจะไปร้านไหนเขาก็จะนั่งรอที่รถไม่เข้าไปด้วยต้องใจอ่อนลง

“นะคะ” ไม่เข้าใจว่าเพราะเสียงออดอ้อนหรือใบหน้าออดอ้อนกันแน่ที่ทำให้สิรดนัยเปิดประตูรถและก้าวออกไปยืนด้านนอกรถ เด็กสาวยิ้มยินดีก่อนที่จะตามออกไป

“งั้นผมพารถไปจอดรอที่จอดรถตรงนั้นนะครับ”วสันต์เอ่ยบอกสิรดนัยที่ตั้งใจจะชวนวสันต์ลงมากินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันเป็นการชิงตัดหน้า เขาอยากให้สองหนุ่มสาวต่างวัยได้อยู่กันสองต่อสองมากกว่ามี ก.ข.ค. แบบเขา

“เข้าไปในร้านกันเถอะ” เด็กสาวเอ่ยบอกก่อนที่จะยื่นมือมาจับลำแขนแข็งแรงดึงกระชากเข้าไปในร้านและสั่งเจ้าของร้านทันที “หวัดดีค่ะเฮียโท เอาเหมือนเดิมสองที่นะวันนี้”

“ได้ๆ ไปนั่งเลยยัยหนู” เฮียโท หรือ ทวิภาค เจ้าของร้านผู้สืบทอดกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้มาจากบิดาเอ่ยบอกลูกค้าประจำที่มีเชื่อสายผู้ดีแต่กลับไม่ถือตัว

“ร้านนี้มีสูตรการทำน้ำซุปรสเด็ดที่สืบทอดมารุ่นสู่รุ่นมากกว่า50ปี รสเด็ดไม่เหมือนใครถูกปากทุกเพศทุกวัย ไม่มีใครกินแล้วไม่แวะมากินอีก หนูคอนเฟิร์ม” เมื่อมาถึงโต๊ะที่ว่างอยู่เจ้าถิ่นก็เอ่ยสาธยายสรรพคุณของร้านให้ผู้บริหารหนุ่มฟังราวกับได้ค่านายหน้าจากเจ้าของร้าน

“อั๊ยย๊า อาหนูคุงต้องตา นี่ลื้อพาไฮโซที่ไหนมาร้านอั๊วเนี่ย ดูๆชุดอีช่างไม่เข้ากับร้านอั๊วเลย” เสียงบ่นยืดยาวจากอาแปะเทียนอดีตเจ้าของร้านผู้เป็นพ่อของทวิภาคเอ่ยดังมาเมื่ออาหนูลูกค้าขาประจำพาสิรดนัยมานั่งที่โต๊ะ

“แปะก็ว่าไป ไม่เข้ากับร้านที่ไหน แปะรู้รึเปล่าวันนี้แปะได้เกียรติต้อนรับคนดังเชียวนา ถ้ามีคนรู้ว่าระดับท่านผู้บริหารสายการบินซันชายมานั่งร้านแปะเนี่ย รับรองดัง” เด็กสาวลูกค้าขาประจำผู้มาบ่อยจนสนิทกับเจ้าของร้านเอ่ยบอกก่อนที่จะยื่นมือไปหาแปะเทียน

“อะไรของลื้อ?” อดีตเจ้าของร้านถามด้วยสีหน้างุนงงหลังจากที่มีแววตกใจอยู่เมื่อครู่ที่เด็กสาวบอกว่าไอ้หนุ่มที่มากับคุณเธอเป็นระดับผู้บริหารสายการบินดัง

“เอ๊า ก็ค่าพาผู้บริหารมากินก๋วยเตี๋ยวร้านแปะไง” คนพาผู้บริหารมากินก๋วยเตี๋ยวเอ่ยบอกก่อนที่จะได้มะเหงกมาหนึ่งลูก

“ลื้อพามาเอง ก็จ่ายตัวเองสิ ตามสบายนะอาคุงผู้บริหาง อั๊วรับประกันว่าได้ชิมแล้วจะติดใจ ถ้าชอบแนะนำคนมาเยอะๆนะ” แปะเทียนเอ่ยบอกก่อนที่พนักงานเสิร์ฟจะยกก๋วยเตี๋ยวมาให้ตามที่ตฤณรดาสั่ง ชายหนุ่มหยิบตะเกียบแต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรเสียงห้ามก็ดังขึ้น “ช้าก่อน”

"ถ่ายรูปโปรโมทร้านให้แปะแกหน่อย พี่สิงห์นั่งนิ่งๆนะ ยิ้มด้วย” ตฤณรดาเอ่ยบอกก่อนที่จะถ่ายรูปชายหนุ่มคู่กับชามก๋วยเตี๋ยวสองรูปและขยับไปนั่งข้างๆ

“1 2ส้าม ยิ้มหน่อย” แช๊ะ คนถ่ายรูปเดินกลับมายังที่นั่งของตัวเองพร้อมกับรอยยิ้ม “นี่รูปแรกเลยนะที่คุณต้องถ่ายรูปกับพี่สิงห์ นอกจากโพสต์ลงเฟสแล้วสงสัยต้องเก็บไว้ให้ลูกให้หลานดูด้วยว่า นี่นะภาพแรกที่ถ่ายคู่กับมนุษย์น้ำแข็งยิ้มยากแห่งปี”

“เพ้อเจ้อ ลงมือกินได้แล้ว” มนุษย์น้ำแข็งยิ้มยากแห่งปีเอ่ยบอกก่อนที่จะลองชิมน้ำก๋วยเตี๋ยวที่เจ้าถิ่นคุยให้ฟัง ว่าจะเด็ดสมราคาคุยรึเปล่า

“ขอลูกชิ้นลูกได้มั้ยอ่า” ยังไม่ทันจะได้ลงมือกินอย่างจริงจังผู้บริหารหนุ่มก็ต้องชะงักเมื่อเด็กสาวที่วันนี้มาแปลกเอ่ยด้วยใบหน้าออดอ้อน คนอายุมากกว่าคีบลูกชิ้นไปยื่นตรงหน้าคล้ายจะป้อนอย่างนึกสนุก

เด็กสาวอ้าปากรอรับด้วยใบหน้าดีใจก่อนลูกชิ้นนั้นจะถูกยื่นเข้าใกล้ปากแล้วก็เลื่อนกลับมาเข้าปากคนคีบก่อนที่ใบหน้าไร้ที่ติจะยักคิ้วข้างเดียวให้แบบที่เด็กสาวไม่เคยเห็น

“นี่ ! แมลงวันจะบินเข้าปากแล้ว” ผู้บริหารหนุ่มเอ่ยบอกเมื่อเห็นตฤณรดาอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เด็กสาวหุบปากฉับก่อนที่จะมองคนนั่งตรงข้ามอย่างงุนงง

“วันนี้มาแปลกเว้ยเฮ้ย” บอกตัวเองเบาๆแต่ยังคงเมียงมองอย่างงุนงง

"ทีวันนี้เรายังทำตัวแปลกๆเลย พี่จะทำบ้างไม่ได้เหรอ หรือทำแล้วตำรวจจะจับ" สิรดนัยเอ่ยบอกแต่เขารู้ดีว่ามันคือข้ออ้างในการปล่อยตัววางมาดนักธุรกิจทิ้งไว้ชั่วคราวก็เท่านั้น ไหนๆวันนี้ตฤณรดาก็ทำตัวแปลกๆใส่เขาแล้ว เขาก็แสดงตัวตนที่เธอไม่เคยเห็นให้เธอได้เห็นบ้างจะเป็นไรไป

“ไม่มีตำรวจจับหรอก แต่มันไม่เหมือนที่คุณต้องเคยเห็นนี่” เด็กสาวบอก เขาจะทำตัวแปลกๆโดยไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้เธอก็ปรับตัวไม่ทันนะ มนุษย์หินแปลงร่างรึไงกัน

“วันนี้คุณต้องก็ทำตัวไม่เหมือนที่พี่สิงห์เคยเห็นเหมือนกัน” ชายหนุ่มท้วง เอาจริง ๆเขาก็ต้องเลิกคิ้วแล้วเลิกคิ้วอีกอย่างสงสัยเพราะวันนี้เธอทำตัวแปลกๆไม่เหมือนยัยตัวป่วนที่เขารู้จักนะ

“หึ้ย ที่คุณต้องทำตัวแปลกๆก็เพราะอารมณ์แปรปรวนก่อนเป็นวันนั้นของเดือนหรอก ไม่เหมือนพี่สิงห์ที่อยู่ ๆก็แปลก” เด็กสาวเอ่ยแย้ง ที่เธอทำตัวออดอ้อนเขาเนี่ยก็เพราะมันเป็นอาการเตือนก่อนมีประจำเดือนของเธอหรอก เวลาใกล้มีวันนั้นเธอก็จะแปลก ๆ เพี้ยน ๆ ชอบตีสนิทแบบนี้ล่ะ ไม่ได้อยู่ ๆก็แปลกแบบเขาซะหน่อย

“อ๋อ! อย่างนี้เอง วันนี้คุณต้องกำลังจะเป็นวันนั้นของเดือน”สิรดนัยเอ่ยก่อนที่จะยกยิ้ม “งั้นวันนี้พี่สิงห์ก็ขอเป็นแบบนี้บ้างจะเป็นไรไป ถือซะว่าเป็นวันเกิดพี่สิงห์แล้วกัน เกิดอยากจะเป็น”

‘กวน’ ก็ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าแต่เด็กสาวรู้สึกว่า ‘พี่สิงห์’ คนนี้ช่างกวนประสาทอย่างที่เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อน “สรุปว่าวันนี้จะเป็นแบบนี้?”

“มั้ง” ผู้บริหารหนุ่มเอ่ยบอกก่อนที่จะยักคิ้วข้างขวาใส่เด็กสาวก่อนที่จะลงมือกินก๋วยเตี๋ยวต่อ คนมองได้แต่กัดฟัน ‘กวนประสาทชัดๆ’

“อย่าเอาแต่มองถ้าไม่อยากโดนขโมยลูกชิ้น” คนถูกปรามาสในใจว่ากวนประสาทเอ่ยบอกพลางทำท่าจะเลื่อนตะเกียบไปที่ชามของเด็กสาว คนไม่เคยเจอ ‘พี่สิงห์’ ในภาคกวนประสาทรีบคว้าชามหนีทันที

“เรื่องอะไรเล่า อันนี้ของคุณต้อง อย่ามาแย่งนะ” ว่าแล้วก็รีบลงมือกินอย่างกลัวๆ กลัวคนกวนประสาทจะแย่งไปจริง ๆ สิรดนัยยิ้มขำก่อนที่จะลงมือกินต่อจนกระทั่งหมดชาม

“อร่อยมากครับอาแปะ นี่ถ้าคุณต้องไม่พามาผมก็ไม่รู้เลยว่านอกจากเฒ่าแก่ทาม ร้านใกล้โรงเรียน...แล้วยังมีร้านที่อร่อยและรสชาติแบบเดียวกันอีก”สิรดนัยเอ่ยบอกยืดยาวก่อนที่จะเอ่ยถาม “เป็นญาติกันรึเปล่าครับ ผมรู้สึกว่าคล้ายกันมากเลย”

“ใช่ๆ อาเฮียทามน่ะ อาเฮียอั๊วเองล่ะ” แปะเทียนเอ่ยบอก “อาคุงผู้บริหางเคยไปกิงร้านอาเฮียแล้วเหรอ”

“ครับ คือจริง ๆแล้วคุณพ่อกับคุณแม่เคยเป็นศิษย์เก่าที่โรงเรียนนั้นครับ แล้วก็เคยไปกินไปช่วยงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเฒ่าแก่ตั้งแต่สมัยพ่อของเฒ่าแก่ทาม” ผู้บริหารหนุ่มเอ่ยบอก “สมัยผมเรียนที่นั่นหลังซ้อมบาสเสร็จก็ไปกินร้านเฒ่าแก่ทามทุกวัน วันไหนมีเวลาว่างก็เคยช่วยเสิร์ฟอยู่บ้าง สมัยนั้นเฒ่าแก่ทามก็จำหน้าผมได้ดีเลย”

“อืม” คนฟังครางรับก่อนทีจะพิจารณาใบหน้าของผู้บริหารหนุ่มอย่างละเอียดก่อนจะร้องอย่างตกใจ “อั๊ยย๊า อั๊วจำได้เลี้ยว หน้าลื้อเหมือนอาเสือ รุ่นน้องอั๊วสมัยม.ปลาย ลื้อเป็นลูกอีเหรอ”

“ใช่ครับ พ่อผมชื่อเสือ” ชายหนุ่มเอ่ยรับก่อนที่จะยิ้มขำกับท่าทีของแปะเทียน

“งั้นลื้อก็เป็นลูกชายอาเสือกับอาหมวยแพรน่ะสิ โอ้ อานังหนูลื้อนี่ช่างเลือกแฟนได้ดีนะเนี่ย เจ๋ง อั๊วยกนิ้วให้เลย” แปะเทียนบอกทำให้คนถูกชมส่ายหน้าพรืด

“ไม่ใช่แฟนซะหน่อยแปะ” คนถูกชมปฏิเสธจนทำให้หัวคิ้วแปะเทียนขมวด “ไม่ใช่แฟนแล้วลื้อพามาทำไม อั๊วเคยบอกลื้อไว้นิ อั๊วจะให้กินฟรีถ้าพาแฟนมา แต่ถ้าไม่ใช่แฟนลื้อห้ามพาผู้ชายมาร้านอั๊วน่ะ ไม่พาแฟนมาแต่ผิดสัญญาอั๊วงั้นมื้อนี้ลื้อจ่ายมาเลยห้าเท่า”

“แหม่ แปะก็ ต้องตาพูดเล่นหรอก เราสองคนเป็นแฟนกัน เนาะพี่สิงห์เนาะ” เด็กสาวเอ่ยเปลี่ยนคำพูดทันทีเมื่อได้ยินว่าต้องจ่ายห้าเท่าก่อนจะหันไปขอเสียงสนับสนุนจากคนมาด้วย

“จริง ๆเราก็ไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกครับแปะ” สิรดนัยเอ่ยบอกทำเอาคนขอเสียงสนับสนุนถึงกับหน้าเจื่อน ชายหนุ่มคิดก่อนที่จะเอ่ยต่อ “แต่เรากำลังจะแต่งงานกันเดือนหน้านี้ล่ะ”

“ห๊า แต่งงานเดือนหน้า อั๊ยย๊า อั๊วดีใจด้วยนะอานังหนู อั๊วได้ยินแบบนี้เลี้ยวโล่งใจเลย ทีแรกคิดว่าอย่างลื้อนี่ต่อให้โตเต็มที่ก็ยังไม่มีใครกล้าเอาไปเป็นเมียซะอีก โล่งใจแทนอาคุงหม่อมท่านนะหลานสาวมีคนมารับไปเลี้ยงดูต่อแล้ว”แปะเทียนเอ่ยอย่างยินดีจนเด็กสาวรู้สึกตงิด ๆ อะไรคือการโล่งใจ และอะไรคือทีแรกคิดว่าไม่มีใครกล้าเอาไปเป็นเมีย ‘หน็อยแหนะ’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel