บท
ตั้งค่า

บทที่4 ทางออกที่ดีที่สุด 1

ทุกปัญหาย่อมมีทางออก แต่สำหรับปัญหาที่ตฤณรดาและพี่น้องกำลังพบเจอนั้นเธอและครอบครัวยังไม่เจอทางออก ด้านในห้องพักคนไข้ของหม่อมตรีประดับในตอนนี้คับแคบลงถนัดตาเมื่อนอกจากหม่อมราชวงค์ติณกริชและลูกชายทั้งสองแล้วยังมีหม่อมเจ้าปนพพลและหม่อมวรรณาที่ประทับอยู่พร้อมกับหม่อมราชวงค์หญิงประดับฟ้าพี่สาวคนโตของหม่อมราชวงค์ปนัยภพด้วย ไม่นานต่อมาในห้องยิ่งคับแคบเมื่อเตชินทร์พาน้องสาวเข้ามาในห้องพร้อมกับหม่อมราชวงค์หญิงประดับจันทร์และเนตรดาราที่มีสีหน้าหวาดกลัว เด็กสาวยังไม่หายจากอาการหวาดกลัวนัทกรทั้งที่สักพักแล้ว

“หลานหล่อนเป็นอะไรแม่จันทร์ทำไมถึงตัวสั่นแบบนั้น” หม่อมวรรณาเอ่ยถามบุตรสาวที่ช่วยดูแลลูกพี่ชายตั้งแต่แม่ของหลานหนีตามชู้ไป สำหรับนางแล้วเนตรดาราก็ถือเป็นหลานหากแต่จะให้อุ้มชูรักใคร่ออกหน้าออกตาก็กระดากเกินไปเมื่อเด็กคนนี้เกิดมานอกสมรสซ้ำยังอายุน้อยกว่าหลายสาวคนโตเพียงสองปี อย่างไรเสียก็ราวกับมีป้ายติดอยู่บนหน้าว่าลูกเมียน้อยจะให้รักเกินหน้าเกินตาก็ไม่ได้ นางจึงได้แต่เมินเฉยใส่มาโดยตลอด

“นายนัทกรเข้ามาข่มขู่น่ะเพคะท่านพ่อ หม่อมแม่ นายคนนั้นน่ากลัวมากเลยนะเพคะ” คุณหญิงปานจันทร์บอกพร้อมทั้งลูบศีรษะปลอบใจหลานสาวที่ยังมีทีท่ากลัว

“เฮ้อ เธอน่ะมานี่มา มาหาฉัน” หม่อมวรรณาเอ่ยบอกแม้ไม่เจาะจงทางคำพูดแต่สายตาก็บอกชัดว่าเรียกให้หลานสาวนอกสายตาเข้าไปหา เนตรดาราจึงก้าวเข้าไปด้วยท่าทีประหม่า เนื่องด้วยไม่เคยถูกหม่อมย่าเรียกให้เข้าใกล้มาก่อน ตฤณรดาและเตชินทร์มองน้องสาวต่างมารดาด้วยความรู้สึกเดียวกันคือเห็นใจ ในบรรดาหลาน ๆ ติวกุลเขาและเธอมีความคิดเดียวกันว่าคงมีเพียงเนตรดาราเท่านั้นที่ถูกเมินเฉยและตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อย แล้วแบบนี้ทั้งสองจะเกลียดน้องสาวคนนี้ได้อย่างไรกันล่ะ

หม่อมวรรณากอดปลอบหลานสาวที่ขวัญเสียด้วยอารมณ์ปลงตก เรื่องเก่าก่อนควรจะตัดทิ้งไปแล้วมาช่วยกันแก้ปัญหาสักที “ขวัญเอ๋ยขวัญมานะแม่อาย ไม่เป็นไร ย่าจะไม่ยอมให้นายนัทกรแตะต้องใครไม่ว่าจะเราหรือพี่ ๆ ของเรา”

“ฮึก หม่อมย่า อายกลัวฮึก” เด็กสาวระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาทันทีเมื่อได้รับอ้อมกอดอบอุ่นจากคนเป็นย่า มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน เด็กสาวร้องไห้ออกมาเหมือนได้ระบายความอัดอั้นตลอดมา อ้อมกอดอุ่น ๆ แบบนี้เธอไม่เคยได้รับจากมารดาเมื่ออยู่ลับหลังบิดา เป็นเธอ...ที่นอกจากญาติ ๆ ฝั่งบิดาจะหมางเมิงแล้วมารดายังไม่รัก เป็นเธอ...ที่มารดาอยากจะยกให้นัทกรที่สุดเพราะไร้ประโยชน์สำหรับท่าน ไม่มีใครเข้าใจอย่างแน่นอนว่าทำไมเธอถึงร้องไห้ออกมาขนาดนี้ และเด็กสาวจะไม่พูดออกไปอย่างแน่นอนเพราะเพียงแค่นี้ทุกคนก็คงเกลียดมารดาของเธอมากพอแล้ว

“นี่ เลิกร้องไห้ได้ไหม พี่สาวเธอคนนี้ไม่ชอบเสียงร้องไห้นะ” ตฤณรดาที่ฟังน้องสาวแหกปากร้องมาสักพักร้องห้ามขึ้น เธอไม่ชอบเสียงร้องไห้ และก็ไม่ชอบความเงียบ เห็นแล้วขัดหูขัดตาเสียจริง ๆ “ร้องไห้แล้วอะไรมันดีขึ้นไหมเล่า ไม่ดีขึ้นก็เลิกร้องแล้วช่วยกันคิดว่าจะทำไงต่อดีกว่ามั้ง”

“นั่นสิ จะร้องทำไม เฮ้อ” เตชินทร์พูดเสริมน้องสาวก่อนที่สองพี่น้องจะเดินไปนั่งใกล้ ๆ หม่อมยายของตัวเองเพื่อถามอาการคนเครียดหมดสติจนต้องเข้าโรงพยาบาล คล้ายว่าเสียงพูดของทั้งสองนั้นออกมาในเชิงตำหนิแต่ทุกคนในห้องก็มั่นใจว่าความจริงแล้วทั้งคู่แค่ปลอบน้องสาวให้เงียบแบบฉบับพี่ที่ไม่เคยพูดคุยกับน้องดี ๆ ก็เท่านั้น

ก๊อก ๆ ๆ

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นส่งผลให้ทุกคนในห้องต้องหันไปมองเป็นตาเดียวด้วยความสงสัยและแปลกใจ ใครกันที่มาหาหม่อมตรีประดับที่เพิ่งจะเข้าโรงพยาบาลไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง ไม่น่าจะมีใครข่าวสารรวดเร็วขนาดที่รู้ว่าหม่อมชราแห่งวังสิราราชล้มเจ็บลงได้ภายในเวลาไม่นานแน่ เมื่อเสียงเคาะประตูเงียบลงพร้อมกับที่ประตูห้องพักคนไข้เปิดเข้ามาทุกสายตาที่เมียงมองจับจ้องเป็นตาเดียวก็เกิดความตกตื่นและงุนงงในอารมณ์แตกต่างกันไป

“โซ่ พี่สิงโต คุณป้าแพร คุณลุงเสือ” เป็นตฤณรดาที่หลุดเสียงพูดออกมาเมื่อเห็นคนมาใหม่ ที่เข้ามาไม่ได้มีแค่นี้หากแต่เธอรู้จักเพียงแค่นี้ เด็กสาวมองคนมาใหม่ทีละคนเริ่มจากสามคนที่ไม่รู้จักก่อนที่จะมองพลอยวารินทร์ คุณแพรวารินทร์และคุณพงศ์พยัคฆ์ก่อนที่จะไปหยุดที่คนสุดท้ายอย่างสิรดนัย “มา มาได้ยังไงกันคะเนี่ย”

“พี่เพชรโทรบอกเราเพราะเห็นว่าตัวหน้าเศร้า ๆ น่าจะต้องการคนปลอบ มา ๆ โอ๋ ๆ นะ” พลอยวารินทร์เอ่ยบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวและกอดปลอบด้วยท่าทีไม่วิตกกังวล “ไม่ต้องเศร้านะคุณต้อง พ่อเสือกับแม่แพรน่ะมีทางช่วยแล้ว”

“ทางช่วย มีทางจริงรึแม่แพร ป้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหม” หม่อมตรีประดับส่งเสียงถามคุณแพรวารินทร์ที่ผูกพันกับสิราราชมาเนิ่นนาน

“จริงค่ะหม่อมป้า แพรกับพี่เสือและพี่วายุเรามีทางช่วยให้ทั้งคุณต้อม คุณต้องตาแล้วก็น้องสาวอีกคนให้ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของนายนัทกรแล้วค่ะ อ้อ รวมถึงเสี่ยวิชัยด้วย เพียงแต่ว่า...” คุณแพรวารินทร์เอ่ยบอกก่อนที่จะมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย “เพียงแต่ว่าแพรไม่แน่ใจว่าทางหม่อมป้าแล้วก็ทางติวกุลจะจะยอมรับข้อเสนอของแพรรึเปล่าค่ะ”

“ข้อเสนออะไรรึแม่แพร บอกป้าให้กระจ่างกว่านี้ได้รึเปล่า” หม่อมตรีประดับสอบถามก่อนที่หม่อมวรรณาจะเสริมด้วยอีกแรง “นั่นสิคุณแพรวารินทร์บอกเราให้ชัดกว่านี้ได้รึเปล่า”

“ใจเย็น ๆ ค่ะ แพรกำลังจะบอกเดี๋ยวนี้ล่ะ” คุณแพรวารินทร์เอ่ยปรามก่อนที่จะเดินมานั่งข้าง ๆ ตฤณรดาและเตชินทร์ “เรื่องของเสี่ยวิชัยให้คุณต่อส่งเงินไปคืนซะแล้วก็ไม่ต้องทำอะไร เสี่ยวิชัยคนนี้มีอะไรน่าสงสัยเยอะถ้าสืบสักหน่อยคงพบอะไรที่หมกเม็ดอยู่แน่นอนค่ะ แพรคุยกับพี่เสือแล้ว พี่เสือจะติดต่อกับผู้กำกับพสินธุ์ให้ตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินให้เร็วที่สุด แพรเชื่อว่าก่อนที่เสี่ยวิชัยจะได้บอกอะไรกับนักข่าวเขาจะต้องถูกดำเนินคดีก่อนแน่นอนค่ะ”

ผู้กำกับพสินธุ์ที่คุณแพรวารินทร์พูดถึงนั้นเป็นนายตำรวจใหญ่ที่โด่งดังและน่าเกรงขามในห้องนี้เธอมั่นใจว่าทุกคนรู้จักและก็รู้ด้วยว่าผู้กำกับพสินธุ์คนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกับคุณพงศ์พยัคฆ์ และก็เป็นคนที่วางใจได้ถ้างานไหนผู้กำกับพสินธุ์ลงมาดูแลเองต้องสืบจนเจอสิ่งที่ซ่อนอยู่อย่างแน่นอน

“ส่วนเรื่องนายนัทกร เท่าที่ทราบนายนัทกรแม้จะเป็นคนมีรสนิยมทางเพศที่ต่างจากปกติแต่ก็ไม่ยุ่งกับคนมีเจ้าของ เราใช้ข้อนี้มาเป็นทางออกได้ค่ะ” คุณแพรวารินทร์บอกพร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะตฤณรดาด้วยความรักใคร่ “ทางออกตอนนี้คือการแต่งงานค่ะ”

“แต่งงาน!” เกิดเสียงอุทานเสียงเดียวกันขึ้นก่อนที่คุณแพรวารินทร์จะพูดในสิ่งที่ไม่ต่างจากการแช่แข็งทุกคนให้นิ่งตะลึง “ทางออกตอนนี้คือการแต่งงาน จะเป็นไปได้ไหมคะที่จะให้คุณต้องตาแต่งงานกับลูกชายของแพรเพื่อป้องกันนายนัทกร”

“จริง ๆ มันก็มีอีกวิธีนะคะแต่แพรจะใช้วิธีนั้นกับคุณ...เอ่อ หมายถึงน้องสาวของคุณต้องตากับคุณต้อมน่ะ ส่วนสำหรับคุณต้อมและคุณต้องตาแพรคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการแต่งงานค่ะ”

“น้องต้องเพิ่งจะอายุ17นะครับคุณป้า ทำไมต้องเป็นการแต่งงานด้วย ทำไมไม่ใช้วิธีเดียวกับอายล่ะครับ”

“เพราะครึ่งหนึ่งคุณต้อมกับคุณต้องตาเป็นสิราราชไงจ๊ะ เมื่อก่อนธิติธาดากุลเคยมีสัญญาบุญคุณกับสิราราชว่าจะให้คุณพ่อของป้าแต่งงานกับหม่อมเจ้าหญิงเตมิรา สิราราช แต่เพราะคุณพ่อของป้ามาพบรักกับคุณแม่ของป้าการแต่งงานจึงไม่เกิดขึ้น เพราะไม่อาจทำตามสัญญาได้ป้าและธิติธารากุลคนอื่น ๆ จึงฝังใจเรื่องนี้มาโดยตลอด ป้าเลยคิดว่าใช้โอกาสนี้ทดแทนบุญคุณและทำตามสัญญาไปด้วยน่าจะดี ป้าจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดเมื่อนึกถึงคุณปู่ของป้าอีก เพราะอย่างนั้นป้าเลยเสนอแบบนี้”

“ที่บอกว่าจะให้น้องต้องแต่งงานกับลูกชายคุณป้า ลูกชายคนไหนครับ คงไม่ใช่นายเพื่อนหรือนายพลายหรอกใช่ไหม” เตชินทร์ถาม “แล้วเรื่องที่จะให้ผมแต่งงาน แต่งกับใครครับ”

คุณแพรวารินทร์คลี่ยิ้มออกมาก่อนที่จะหันไปยังสามีก่อนที่จะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ถ้าคุณต้อมตกลงคุณต้อมจะต้องแต่งงานกับหนูปานมุก ลูกสาวบุญธรรมของพี่วายุผู้นำตระกูลธิติธาดากุลคนปัจจุบันจ๊ะ” พูดจบแล้วก็ผายมือไปให้ชายหนุ่มได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มาพร้อมกับเธอและครอบครัว “นั่นหนูปานมุกจ๊ะ ส่วนคุณต้องตา คนเดียวที่จะปกป้องให้รอดพ้นจากนายนัทกรได้มีแค่คนที่มีอำนาจและแบ็คอัพดีอย่างพี่สิงโตเท่านั้นล่ะ”

“พี่สิงโต!” สองพี่น้องอุทานลั่นพร้อมกันก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนนิ่งตั้งแต่เข้ามาในห้องก่อนที่จะหันมองหน้ากันและหันไปมองคนเป็นยายและพ่อบุญธรรม

“ใช่แล้ว พี่ชายของเราน่ะต้องพี่สิงโตเท่านั้นล่ะที่จะต่อกรกับนายนัทกรได้ เราใช้อำนาจเงินไม่ได้ แต่เรามีความกว้างขวาง ใคร ๆก็รู้ว่าแบ็คอัพของสิรดนัย สัตยบดินทร์ มี4ตระกูลผู้กว้างขวางในวงการธุรกิจหนุนหลังอยู่ถ้าไม่อยากล้มละลายก็อย่าคิดต่อกร อาทรายบอกว่านายนัทกรมีนิสัยไม่ยุ่งกับคนมีเจ้าของอยู่แล้วยิ่งถ้าเจ้าของคนนั้นคือพี่สิงโต คิดว่านายนัทกรจะกล้ายุ่งอีกไหมล่ะ" พลอยวารินทร์เอ่ยบอก “ไม่ต้องคิดอะไรแล้วคุณต้อง แต่งงานกับพี่สิงโตน่ะมีแต่คุ้มกับคุ้ม ได้นั่งเครื่องบินฟรี ใคร ๆ ก็นับหน้าถือตา แล้วของอะไรของพี่สิงโตก็จะเป็นของตัวด้วย อีกอย่างนะ...”

“ตัวจะได้แกล้งพี่สิงโตเมื่อไหรก็ได้ด้วยนะคุณต้อง ไม่ต้องคิดอะไรแล้วตอบตกลงเลย” เด็กสาวกระซิบบอกให้ได้ยินกันแค่สองคนก่อนที่ตฤณรดาจะครุ่นคิดตาม นัทกรจะไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับเธอได้อีกถ้าเธอขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของผู้บริหารหนุ่มแห่งสายการบินดัง เพราะในวงการธุรกิจทราบดีว่าสิรดนัย สัตยบดินทร์ถืออำนาจอยู่ในมือมากขนาดไหน เขามี4ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในวงการธุรกิจและการเมืองหนุนหลัง ธิติธาดากุล ตระกูลฝั่งคุณตา เกตทิวรากุล ตระกูลฝั่งคุณยาย หิรันยวงค์ ตระกูลทางฝั่งคุณย่า และสัตยบดินทร์ ที่มีทั้งนักธุรกิจ นักการเมือง เจ้าของโรงพยาบาล หรือแม้แต่ตำรวจ นี่ยังไม่รวมกิตยกรกุลที่เกี่ยวดองด้วยในฐานะน้องเขยของผู้เป็นพ่อที่พร้อมจะช่วยหนุนหลังถ้าใครคิดต่อกรด้วย เธอจะปลอดภัยถ้าอยู่ใต้ปีกของสิรดนัย และที่พลอยวารินทร์พูดก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย ได้แกล้งเมื่อไหร่ก็ได้...

“เราตอบไม่ได้หรอกเรื่องนี้หม่อมยายจะเป็นคนตัดสินใจ” แม้จะคล้อยตามเพื่อนไปมากแล้วแต่ก็รู้ว่าเธอจะไม่ใช่คนตัดสินใจ แต่เป็นหม่อมตรีประดับและคุณชายติณกริชที่เป็นผู้เป็นผู้ปกครองต่างหาก

“ตามที่แม่แพรเสนอเลยจ้ะ แต่งกับพ่อสิงโตและหนูปานมุกน่าจะดีกว่าแต่งกับคนวิปริตเยอะเลย ยายฝากด้วยนะพ่อสิงโต หนูปานมุก” หม่อมตรีประดับไม่สอบถามความเห็นจากฝั่งพ่อของหลานแต่กลับตอบกลับอย่างมั่นใจ “ยายเชื่อมั่นว่าพ่อสิงโตจะดูแลต้องตาได้นะ”

“ผมจะไม่ทำให้หม่อมผิดหวังครับ” เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ยินเสียงสิรดนัยก็ว่าได้ ชายหนุ่มพูดแค่นั้นก่อนที่จะเอ่ยถามคนเป็นแม่ “จะให้เรียกพี่ขุนเลยใช่ไหมครับแม่แพร”

“จ้ะลูก รีรอไม่ได้เรามีเวลาจัดการไม่นาน" แพรวารินทร์เอ่ยบอกก่อนที่จะหันไปเอ่ยกับคนไข้บนเตียง “แพรจะเรียกทนายขุนกับเจ้าหน้าที่มาเลยนะคะหม่อมป้า”

“ตามที่หนูแพรว่าเลย”หม่อมวัยชราเอ่ยบอกก่อนที่เด็กสาวอ้าปากจะพูดได้ก็หุบปากฉับเมื่อไม่รู้จะพูดอะไรก่อนที่จะได้ยินคำปลอบใจจากคนเป็นยาย " แต่งกับพ่อสิงโตและหนูปานมุกดีกว่ากับนัทกรนะต้องตา ต้อม"

คำปลอบนั้นทำให้สองพี่น้องคล้อยตาม มันก็จริงที่ว่าแต่งงานกับคนปกติย่อมดีกว่าวิปริตแบบนัทกร เมื่อคิดดังนั้นสองพี่น้องจึงยอมพยักหน้าพร้อมกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel