จุดเริ่มต้นของความรู้สึก - 3
“คุณ…จะเอาไปทำอะไรเหรอคะ” น้ำเสียงเธอสั่นอย่างห้ามไม่อยู่
“เอามาเถอะครับ ผมไม่ทำอะไรหรอก” เขายิ้มบาง ๆ ดวงตาคมมีแววเจ้าเล่ห์นิด ๆ
สุดท้ายเธอก็ยอมยื่นโทรศัพท์ให้ เขารับมันมาอย่างไม่รีบร้อน ปลายนิ้วสัมผัสกับมือเธอแผ่วเบา ทำเอาเธอรีบชักกลับแทบไม่ทัน
“รหัสล่ะครับ” เขาเงยหน้าขึ้นถามตรง ๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำฟังดูจริงจัง แต่แววตากลับมีร่องรอยขบขันซ่อนอยู่
รัญชิดาเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปสนใจถนน “...หนึ่งหกตัวค่ะ”
ธีรภัทร์เลิกคิ้วขึ้นทันที “ทำไมคุณตั้งรหัสง่ายจัง ไม่กลัวใครเอาไปกดเล่นแล้วข้อมูลหลุดเหรอ”
หญิงสาวยกมุมปากยิ้มจาง ๆ แต่สายตายังจ้องตรงไปข้างหน้า “โทรศัพท์มันไม่มีอะไรสำคัญหรอกค่ะ จะหลุดไปก็ไม่มีใครอยากรู้หรอก”
ธีรภัทร์ยิ้มมุมปากและกดรหัสผ่านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์ของเขาลงไปในเครื่องของเธอ เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนให้เธอ
“เรียบร้อยครับ” เขาพูด “ถ้าคุณอยากใช้หนี้บุญคุณผมจริง ๆ ครั้งหน้าคุณค่อยเลี้ยงข้าวผมซักมื้อก็แล้วกัน”
รัญชิดารับโทรศัพท์คืนด้วยมือสั่น ๆ ใจเต้นโครมคราม เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับธีรภัทร์อีกครั้ง แต่กลับเห็นรอยยิ้มมุมปากที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและแฝงความขี้เล่นอยู่ในที
“คะ…ค่ะ” เธอพึมพำเสียงเบาอย่างเกรงใจ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกประหม่าและเขินอาย
ธีรภัทร์หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ พลางกวาดสายตามองเธออย่างเอ็นดู “ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอกครับ ผมไม่ได้คิดมากอะไรหรอก”
รัญชิดาเม้มปาก พยายามเก็บความตื่นเต้นเอาไว้ แล้วจับพวงมาลัยแน่นขึ้นเล็กน้อย ขณะรถเคลื่อนตัวออกไปบนถนน เธออดไม่ได้ที่จะมองสายตาคมของเขาเป็นระยะ ๆ
รถสปอร์ตคันหรูค่อย ๆ เลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดรถด้านหน้าของคาเฟ ร้านยังคงเปิดไฟสว่างไสว ผู้คนบางตาลงแล้วเพราะใกล้เวลาปิด รัญชิดาชะลอรถจนจอดสนิท หัวใจเธอเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกเมื่อหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“ถึงแล้วค่ะ…” เธอพูดเสียงเบา มือยังวางแน่นบนพวงมาลัย
ธีรภัทร์หันมามองเธอด้วยแววตาสงบนิ่ง ก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ขับเก่งกว่าที่คิดนะครับ”
รัญชิดารีบส่ายหน้าแก้มร้อนวูบขึ้นมา “ไม่หรอกค่ะ ฉันเกร็งจะตายอยู่แล้ว”
ธีรภัทร์หัวเราะเบาๆ “ผมรู้” เขาพูด “แต่คุณก็ยังทำได้ดี”
คำพูดนั้นทำให้รัญชิดาเงียบไป เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจอย่างประหลาด ธีรภัทร์เอื้อมมือไปปลดล็อกประตูรถและหันมามองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน “วันนี้ขอบคุณมากนะครับ”
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณ ที่คุณไม่เอาเรื่อง” เธอตอบออกมาอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ
ธีรภัทร์หัวเราะเบา ๆ เสียงทุ้มต่ำอบอุ่นจนหัวใจเธอสะท้าน “ผมบอกคุณแล้วไงครับ ว่าผมไม่โกรธ… แต่ถ้ามีโอกาสหน้า คุณต้องเลี้ยงข้าวผมนะ”
รัญชิดาชะงักเล็กน้อย แก้มขึ้นสีอย่างห้ามไม่อยู่ เธอเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนพยักหน้าเบา ๆ “ค่ะ…”
แววตาคมของเขายังคงจับจ้องมา ทำเอาเธอต้องรีบเบือนสายตาออกไปทางอื่น หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก
“งั้น…รันไปก่อนนะคะ” เธอเอ่ยเสียงเบา มือบางเอื้อมไปเปิดประตูรถ
“อ้อ เดี๋ยวก่อนครับ” ธีรภัทร์เรียกไว้ทันที น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่แฝงความสนใจ “เมื่อกี้…คุณบอกว่าชื่อรันใช่ไหม”
รัญชิดาหันกลับมาเล็กน้อย ดวงตากลมโตสั่นระริก ก่อนพยักหน้าเบา ๆ “ค่ะ… รัน รัญชิดา”
ธีรภัทร์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมทอดมองเธอด้วยสายตาที่ต่างไปจากก่อนหน้า “รัญชิดา…” เขาออกเสียงชื่อนั้นช้า ๆ ราวกับกำลังลิ้มรส
หัวใจของรัญชิดาสะดุดวูบ ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนอยู่เพียงเสี้ยววินาที รู้สึกเหมือนร่างกายร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว
“ชื่อเพราะดีนะครับ” เขาเสริมเบา ๆ รอยยิ้มยังไม่จางหายไปจากริมฝีปาก
รัญชิดาไม่กล้าสบตา รีบก้มหน้าลงและเอ่ยเสียงแผ่ว “ขะ…ขอบคุณค่ะ”
เธอรีบก้าวลงจากรถ หัวใจเต้นแรงโครมครามราวกับจะระเบิด ขณะที่ประตูปิดลง เธอกลับยังได้ยินเสียงทุ้มของเขาดังสะท้อนอยู่ในหูอย่างชัดเจน
“แล้วเจอกันใหม่นะครับ…รัญชิดา"
