จุดเริ่มต้นของความรู้สึก - 1
รัญชิดา นั่งรออยู่บนโซฟาตัวเดิมด้วยความกระวนกระวายใจ เธอไม่รู้ว่าอาการของเขาหนักแค่ไหน หรือเขาจะโกรธเธอมากหรือเปล่า เธอได้แต่ก้มหน้ามองพื้นจนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินออกมาจากห้อง
ธีรภัทร์ก้าวออกมาจากห้องตรวจ โดยมีคุณหมอสุทธพงษ์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลวัยกลางคนที่ใบหน้าใจดีและท่าทีอบอุ่น เดินเคียงข้างมาด้วย คุณหมอสุทธิ์ยังเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ธีรภัทร์ให้ความเคารพ ทำให้บรรยากาศดูเป็นกันเองมากกว่าความตึงเครียดในครู่แรก
“หลานไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก” คุณหมอสุทธิพงษ์ เอ่ยพลางยิ้มบาง “แค่แผลน้ำร้อนลวก อาทำความสะอาดแผลและทายาให้เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ”
“ขอบคุณมากครับคุณอาหมอ” ธีรภัทร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ นอบน้อมตามแบบฉบับ ก่อนจะเหลือบสายตามายังหญิงสาวที่นั่งรออย่างกระวนกระวาย
รัญชิดารีบลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล “คุณไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ” เสียงเธอสั่นเล็กน้อยราวกับกลัวคำตอบ
ธีรภัทร์ยกยิ้มบาง คล้ายจะปลอบใจ “ไม่เป็นไรครับ อย่างที่คุณอาหมอบอก แค่แผลน้ำร้อนลวกนิดหน่อยเอง”
รัญชิดาถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก เมื่อมั่นใจว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรง ดวงตาที่คลอไปด้วยความกังวลค่อย ๆ คลายลง แต่กลับกลายเป็นความกระอักกระอ่วนแทน เธอยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบหันไปบอกเขาเสียงสั่นพร่า
“งั้น…ฉันจะไปจ่ายค่ารักษาให้คุณเองนะคะ ถือว่าเป็นความผิดของฉัน”
“ไม่ต้อง...” ธีรภัทร์ร้องห้ามทันที แต่ยังไม่ทันจบประโยค หญิงสาวก็รีบก้มศีรษะให้เขาแล้วหันหลังเดินจ้ำไปทางแผนกการเงินโดยไม่ฟังคำคัดค้าน
ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังเล็กที่รีบร้อนจนเกินไป พลันรอยยิ้มบางผุดขึ้นบนริมฝีปากอย่างห้ามไม่อยู่
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ อาหมอ” ธีรภัทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ
คุณหมอสุทธิพงษ์พยักหน้ายิ้ม ๆ “ได้สิ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ อย่าทำให้หลานสะใภ้ในอนาคตต้องลำบากใจ”
คำพูดทีเล่นทีจริงนั้นทำให้ธีรภัทร์หัวเราะเบา ๆ แต่แววตาคมกลับเหลือบมองไปทางรัญชิดาที่รีบเดินไปยังแผนกการเงินโดยไม่รอเขาเสียแล้ว ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนก้าวเดินตามไปอย่างไม่รีบร้อน
รัญชิดารีบหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาอย่างร้อนรน เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งยอดค่าใช้จ่าย ดวงตากลมโตเบิกกว้างทันที ตัวเลขบนหน้าบิลสูงเกินกว่าที่เธอคาดไว้มาก ห้าพันบาทเต็ม ๆ ซึ่งมันเกือบเท่ากับเงินเดือนครึ่งหนึ่งของเธอเลยทีเดียว
“อะ…เอ่อ ค่ารักษาพยาบาล…เท่านี้เลยเหรอคะ” น้ำเสียงเธอสั่นเครืออย่างไม่ทันตั้งตัว
เจ้าหน้าที่เพียงยิ้มสุภาพและพยักหน้า “ใช่ค่ะ คุณต้องการชำระเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตดีคะ”
"เงินสดค่ะ"
มือบางสั่นเล็กน้อยตอนล้วงหาธนบัตร ใจเต้นรัว ความกังวลตีตื้นขึ้นมาในอก แต่ก่อนที่เธอจะได้ยื่นเงิน ธีรภัทร์ก็ก้าวเข้ามาทันเวลา มือหนายื่นออกไปจับมือของรัญชิดาที่กำลังเลื่อนธนบัตรส่งให้เจ้าหน้าที่เอาไว้แน่นพอที่จะหยุดการกระทำของเธอได้ทันที
ความอุ่นร้อนจากฝ่ามือเขาส่งผ่านมาถึงปลายนิ้ว ทำเอารัญชิดาชะงัก หัวใจที่เต้นแรงอยู่แล้วกลับยิ่งสั่นระส่ำมากกว่าเดิม เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างตกใจ ดวงตาคมของชายหนุ่มทอดมองลงมาเต็มไปด้วยความเด็ดขาดและจริงจัง
“ผมบอกแล้วไงครับ ว่าไม่ต้องออกให้” น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นใกล้หู ราบเรียบแต่หนักแน่นพอให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงหน้าเองยังชะงักไปด้วย
รัญชิดาสะดุ้ง รีบดึงมือกลับทันที ราวกับปลายนิ้วพลันร้อนวูบขึ้นมาเพียงเพราะการสัมผัสเมื่อครู่
ธีรภัทร์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันมาทางเธอ “ขอโทษครับ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ
จากนั้นจึงหยิบธนบัตรในมือเธอคืนอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เธอเสียหน้า ก่อนจะหันไปยื่นบัตรเครดิตของตนให้เจ้าหน้าที่ตรงหน้าแทน
“ใช้ของผมแทนครับ”
“ได้ค่ะ” เจ้าหน้าที่รีบพยักหน้ารับ พลางยื่นมือมารับบัตร
เมื่อเจ้าหน้าที่รูดบัตรเสร็จแล้ว ยื่นบัตรคืนให้พร้อมกับใบเสร็จ ธีรภัทร์ก็รับมาเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ของเขา ก่อนจะหันมามองรัญชิดาที่ยังคงยืนนิ่งราวกับรูปปั้น "ไปกันเถอะครับ"
