2 จอมบงการ (2)
สีหน้าเครียดขรึมของเขาทำให้นลินอดย้อนถามเพื่อที่จะเอาเรื่องกับเจ้าของบ้านไม่ได้
“ซ่าหริ่มทำอะไรคุณ ฉันเห็นมันอยู่ของมันดีๆ ถ้ามันขึ้นไปเหยียบหัวคุณก็ว่าไปอย่าง” เป็นอีกครั้งที่นลินถูกเจ้าของบ้านมองด้วยสายตาตำหนิ แต่เธอก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ซะ
“มันไม่ได้เหยียบหัวฉันหรอก แต่มันสร้างปัญหาให้ฉัน”
“ปัญหาอะไร?”
“เธอเดินไปดูที่ข้างโต๊ะทำงานฉันสิ”
นลินมองอีกฝ่ายตาวาว แต่ก็ยอมเดินไปที่โต๊ะทำงาน พร้อมกวาดสายตาไปยังอุปกรณ์เขียนภาพพร้อมด้วยของจุกจิกที่วางเกลื่อน แล้วยังมีโจ๊กวางไว้อีกหนึ่งถุง
“ไม่เห็นมีอะไรเลย” นลินตอบ
“ไม่ได้กลิ่นเลยหรือไง หรือรูจมูกตันแล้ว”
“บ้าสิ” หญิงสาวโต้กลับไปแล้วทำจมูกฟุตฟิต แล้วเธอก็รีบเอามือบีบจมูกกับกลิ่นอึของเจ้าแมวเหมียว
“อ้า... ซ่าหริ่มก่อเรื่องให้มะนาวถูกเชือดแล้วไง” หญิงสาวงึมงำแล้วหันหน้าไปหาเจ้าของบ้านด้วยสีหน้าติดทะเล้นนิด ๆ แต่ปวาฬไม่มีอารมณ์ร่วมด้วยแต่อย่างใด
“เป็นไงกับผลงานลูกชายเธอ?”
“ก็... สร้างสรรค์ดีนะ”
คำตอบของยัยเปรี้ยวที่ปวาฬแอบตั้งให้ ทำให้ใบหน้าคมเข้มบึ้งตึงกว่าเดิม
“สร้างสรรค์บ้าซิ!” ปวาฬตวาดเสียงดัง ทำให้นลินสะดุ้งโหยง “มันอึใส่ภาพเขียนของฉันจนเสียหาย เธอจะรับผิดชอบยังไง?”
“ก็...” นลินอึก ๆ อัก ๆ สีหน้าไม่สู้ดี
“แล้วคุณจะให้ฉันรับผิดชอบยังไงล่ะ ให้วาดรูปพวกนี้ฉันทำไม่เป็นหรอกนะ”
ปวาฬเงียบแล้วหรี่ตาลง ซึ่งการมองของเขาชวนให้นลินหายใจไม่ทั่วท้อง เขาอาจจะเชือดคอเธอแล้วจับเธอหมกไว้ที่เรือนแพก็ได้
“จัดการกับอึของลูกชายเธอซะ แล้วรีบ ๆ ทำความสะอาดซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”
“ถ้า...”
“ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันสั่ง ฉันจะลากคอเจ้านี่ไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้ารถถัง”
นลินตาโต แม้จะไม่เคยเห็นหน้าเจ้ารถถัง แต่จิตนาการก็ลอยไปถึงสุนัขตัวโตท่าทางโหดร้ายป่าเถื่อนและเกลียดชังแมวเหมียวเหมือนกับเจ้าของเรือนแพหลังนี้
“อย่าทำแบบนั้นนะ”
“ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อเธอเป็นคนเลือก” เจ้าของบ้านตอบหน้าตาย น้ำเสียงเย็นชา
“โหดร้ายป่าเถื่อนที่สุดเลย ไอ้คนใจร้าย!”
“ช่วยไม่ได้ เธอทำตัวเองนี่”
นลินหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ แต่เธอก็ไม่พูดอะไร เพราะรู้ว่าถ้าได้หลุดปากมาแล้ว มันอาจเป็นสาเหตุให้เจ้าของบ้านกลายเป็นฆาตกรจริง ๆ ก็ได้ ดังนั้นเธอจึงยุติการต่อปากต่อคำด้วยการหันหลังให้ แล้วเริ่มต้นจัดการกับสิ่งที่เจ้าซ่าหริ่มทำไว้ทันที
ปวาฬมองหญิงสาวอีกครั้งก่อนอุ้มเจ้าตัวก่อเหตุไปนั่งเก้าอี้โยกที่ระเบียงบ้าน แต่นลินที่มองตามแผ่นหลังกว้างไปกลับคิดว่าเจ้าของบ้านจับเจ้าซ่าหริ่มเป็นตัวประกันมากกว่า เธอจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาตักอึเจ้าซ่าหริ่มไปทิ้ง...
พอจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วนลินก็เดินมาหาจอมบงการที่หน้าระเบียง แต่สิ่งที่เห็นก็สร้างความแปลกใจให้ไม่น้อย เจ้าซ่าหริ่มยังคงเล่นกับปวาฬไม่ยอมไปไหน ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่เขาได้ขู่ว่าจะเอาเจ้าซ่าหริ่มไปอยู่กับสุนัขที่ชื่อรถถัง
“เสร็จแล้วเหรอ?” ชายหนุ่มถามลอย ๆ เมื่อได้ยินเสียงลูกกระพรวนข้อเท้าดังกรุ๊งกริ๊ง โดยที่ไม่หันไปมองร่างบางที่ยืนอยู่ใต้กรอบประตู นลินไม่ตอบแต่เดินลงส้น มาอุ้มเจ้าซ่าหริ่มไปดื้อ ๆ
“ได้เวลากินแล้วซ่าหริ่ม” หญิงสาวกอดแมวเอาไว้อย่างรักใคร่ โดยทำเป็นมองไม่เห็นเจ้าของบ้านที่นั่งหัวโด่อยู่บนเก้าอี้โยก
“เหลือเกินจริง ๆ ” ปวาฬส่ายหน้าน้อย ๆ กับมารยาทยอดแย่ของผู้อาศัย
“โจ๊กที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานเอาไปกินสิ อ้อ แล้วก็ช่วยถอดลูกกระพรวนบ้า ๆ บอ ๆ นั่นออกด้วย รำคาญเสียง”
นลินชะงักเท้าแต่ก็พยักหน้ารับแล้วผละไป โดยทิ้งคำว่า ‘ขอบคุณ’ ทันทีเมื่อหันไปสบตากับอีกฝ่าย เพราะสายตาที่มองมานั้นมันคือการเยาะเย้ย
‘ตาบ้า!’ หญิงสาวบริภาษอีกฝ่ายในใจ
ดูเถอะ ซื้อโจ๊กมาฝากแทนที่จะให้เธอกินก่อนแล้วค่อยจัดการกับอึของเจ้าซ่าหริ่ม แต่นี่เขากลับใช้ให้เธอทำงานก่อนถึงยอมให้กิน ตอนนี้อาหารเช้าของเธอคงเย็นชืดหมดแล้ว
ทำไงได้ ก็หลงมาอยู่กับ... กับ... ‘พ่อมดเลี้ยงใจร้าย’ ก็ทน ๆ หน่อยละกัน
