2 จอมบงการ (1)
“ให้ได้อย่างนี้เถอะแม่คุณ!” ชายหนุ่มหัวเสีย เท้าสะเอวมองนลินตาวาว เขาจี้ถึงตัวขนาดนี้แล้วเจ้าหล่อนยังหลับไม่รู้เรื่องอีก...
พอหญิงสาวพลิกกายอีกครั้ง ทีนี้ใบหน้าเครียดขรึมของปวาฬก็เปลี่ยนเป็นแดงซ่านขึ้นมา
ผ้าแพรสีเหลืองอ่อนห่มกายของหญิงสาวเลื่อนออกไป กระโปรงนอนสีฟ้าอ่อนเลิกขึ้นมาจากหัวเข่าจนถึงสะโพกขาวนวล จนเห็นสายกางเกงในเส้นจิ๋วสีเปลือกมังคุด ภาพที่ชายหนุ่มเห็นจึงไม่ต่างจากภาพวาดกึ่งนู๊ด
เพียงแต่เป็นภาพนู๊ดที่มีชีวิต!
ความโกรธถูกระงับไว้เพียงชั่วคราว ดวงตาแข็งกร้าวเปลี่ยนเป็นอ่อนแสงลง พร้อมกวาดสายตาสำรวจหญิงสาวตั้งแต่วงหน้าเนียนที่พริ้มหลับราวเด็กน้อย เส้นผมดำขลับราวแพรไหมที่กระจายอยู่บนแก้มใส แต่กลับน่ามอง...
ปวาฬกวาดสายตามาที่ซอกคอขาว อกอวบ เอวคอด สะโพกผาย และต้นขาขาว ๆ ยิ่งมองก็ยิ่งอยากสำรวจค้นหา เพราะเขาไม่เคยหยุดสายตาไว้ที่ผู้หญิงคนไหนนานเท่านี้มาก่อน แม้แต่ ‘ดาริกา’ ผู้หญิงที่เขาคิดว่าสวยก็เถอะ...
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา เพราะการมองนลินมันทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจเปลี่ยนไป
“ให้ตายเถอะ! เธอนี่ยั่วกิเลสฉันได้ดีจริง ๆ เลย” ชายหนุ่มบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด ก่อนก้มไปสะกิดข้อเท้าเพื่อปลุกหญิงสาวอีกครั้ง “นี่แม่คุณ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน?”
ดวงตารียาวปิดสนิทเริ่มขยับ ก่อนตามมาด้วยเสียงอู้อี้ของคนขี้เซา “อีกนิดนะสิกา”
นลินได้ยินเลือน ๆ เหมือนใครเรียก ก็คงเป็นรักษ์สิกานั่นแหละ พอลืมตาขึ้นแล้วเพ่งสายตาไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่ปลายเท้า เธออุทานเสียงหลงรีบลุกขึ้นขยับชุดนอนให้เข้าที่แล้วรีบลุกเดินออกจากที่นอน ทั้งนี้เป็นเพราะสายตาวาววับของอีกฝ่ายที่มองมานั่นเอง
“คุณไม่ได้ทำอะไรบ้า ๆ กับฉันนะ” หญิงสาวถามเสียงขุ่นใบหน้าแดงก่ำ สายตาที่มองปวาฬนั้นเหมือนมองฆาตกรโรคจิตก็ไม่ปาน
ปวาฬไหวไหล่นิดหนึ่งแล้วย้อนถามด้วยน้ำเสียงเรียบสนิท “คิดว่าฉันพิศวาสเธอหรือไง?”
“มันก็ไม่แน่หรอก คนอย่างคุณท่าทางไม่น่าไว้วางใจ”
“เหรอ...” ชายหนุ่มลากเสียงยาว “ขอโทษเถอะ ไอ้ที่ว่าไม่น่าไว้วางใจต้องเป็นฝ่ายฉันต่างหากที่พูด เธอลืมแล้วหรือไงว่าอยู่บ้านของใคร”
นลินเม้มปากจนเห็นลักยิ้มข้างแก้มเมื่อถูกจี้ใจดำ
“ไม่ลืม แต่ฉันไม่อยากใส่ใจ” เถียงออกไปแล้ว หญิงสาวก็เชิดหน้าขึ้นน้อย ๆ
“เธอนี่มัน...” ปวาฬพูดไม่ออก เขาต้องข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ เพราะหากหงุดหงิดอารมณ์เสีย มีหวังผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้คงได้ใจ หาเรื่องยั่วอารมณ์เขาอีกแน่
“มีอะไรล่ะ ถึงปลุกฉันแต่เช้า”
คิ้วหนาของชายหนุ่มเลิกขึ้น เช้าของเธอ แต่สายสำหรับเขา ครั้นจะต่อปากด้วยปวาฬคิดว่าคงไม่สนุกแน่ เพราะเขามีวิธี ‘เอาคืน’ ได้ดีกว่านั้น
“มีเรื่องต้องเคลียร์กันหน่อย และฉันก็ไม่ชอบที่ต้องคุยกับเธอในสภาพนี้”
ดวงตาของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นวาววับ และนั่นก็เป็นเหตุให้นลินกระแทกส้นเท้าลงพื้นด้วยความไม่พอใจกับสายตาของเขา โดยไม่ลืมฉวยผ้าขนหนูที่พาดเอาไว้กับเก้าอี้หวายเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันที
“เธอยังรู้จักฉันน้อยไป ยัยเปรี้ยว!!” ปวาฬคำรามในลำคอก่อนจะเดินไปนั่งรอที่หน้าระเบียงบ้าน
หลังจากจัดการกับกิจวัตรตัวเองเรียบร้อย นลินที่อยู่ในชุดใส่สบาย เป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีแดงสด ก็มายืนเท้าสะเอวมองเจ้าของบ้านที่ยืนกอดอกหน้าบอกบุญไม่รับที่กรอบประตู
“มีอะไรก็ว่ามา”
ปวาฬไม่ตอบในทันที แต่เขาก้าวยาว ๆ ไปที่ระเบียงพร้อมหิ้วคอเจ้าเหมียวสามสี “ไอ้ตัวปัญหา”
“ซ่าหริ่ม...” หญิงสาวทำตาโต แล้วชักสีหน้าไม่พอใจใส่เจ้าของบ้าน
“นี่ เอาลูกชายฉันมานะ คุณจะบ้าหรือไงถึงอุ้มมันอย่างนั้น รู้หรือเปล่าว่ามันเจ็บ” โวยเสร็จหญิงสาวก็ตรงเข้าไปหาเพื่อเอาแมวคืน แต่ปวาฬก็เอี้ยวตัวหลบ
“เป็นแมวหรือไงถึงรู้ว่ามันเจ็บ”
