1 รองเท้าที่หายไป (7)
ปวาฬไม่ตอบได้แต่ยืนกอดอกในท่าสบาย พอนลินลุกขึ้นเดินไปได้สองสามก้าว เสียงทุ้มก็ดังขึ้น
“เดี๋ยว”
“อะไรอีกล่ะ?” หญิงสาวหน้ายุ่งเมื่อหันกลับมา
คนเรียกกลับไม่ตอบ แต่ล้วงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อแล้วโยนให้ ซึ่งหญิงสาวสามารถรับได้พอดี
“สมบัติของเธอ เผื่อเปลี่ยนใจอยากโทรหายัยสิกามารับกลับบ้านตอนนี้”
นลินแทบกรี๊ดเมื่อเห็นรอยยิ้มกวน ๆ แล้วปวาฬก็เดินผ่านเธอไป ก่อนที่เสียงปิดประตูจะดังตามมา!!
ดวงตากลมโตอัดแน่นด้วยความโกรธตวัดไปยังบานประตูเหมือนจะมองทะลุไปยังร่างเจ้าของบ้าน มือบางกำเข้าหากันแน่น ทั้งเธอยังขบฟันจนแก้มเห็นรอยบุ๋มข้างแก้ม
อยากจะกรี๊ดให้สาแก่ใจ แต่เธอต้องกลั้นเอาไว้
“เชอะ! ถ้ายอมอะไรง่าย ๆ ก็ไม่ใช่ไอ้มะนาวแล้วสิ” หญิงสาวรีบกดโทรศัพท์หาเพื่อนสาวทันที แต่โทรครั้งแล้วครั้งเล่ารักษ์สิกาก็ไม่ยอมรับสาย
“ให้มันได้อย่างนี้สิ ยัยชบา!” นลินงึมงำอย่างหงุดหงิดอารมณ์ เมื่อทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ สุดท้ายเธอก็เดินไปดับตะเกียงแล้วกลับมาทิ้งตัวลงนอนตามเดิม
##### 2
จอมบงการ
เสียงนกร้องในยามเช้าคือนาฬิกาปลุกชั้นเลิศ นลินรู้สึกตัวแล้วแต่เธอขี้เกียจที่จะลุกจากที่นอน เธอเลยนอนหลับต่อ โดยมีเจ้าซ่าหริ่มนอนขดอยู่ปลายเท้า อากาศกำลังเย็นสบายเพราะมีลมพัดโชยตลอดโดยไม่ต้องอาศัยพัดลมแต่อย่างใด
ก็เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับเพราะแปลกที่ ซ้ำยังคิดมาก ซึ่งกว่าจะข่มตาให้หลับลงได้ก็ตอนที่ฟ้าใกล้สาง พออยู่คนเดียวความฟุ้งซ่านก็กลายมาเป็นเพื่อนเธอ ความเงียบเหงาคืบคลานเข้ามา เสมือนว่าโลกทั้งใบทอดทิ้งเธอไว้ลำพัง...
ความอ้างว้างถาโถมใส่ แต่ที่กรีดใจที่สุดเห็นจะเป็นการ์ดสีชมพูใบสวยที่เธอนำติดตัวมาด้วย เพราะทำอะไรไม่ได้ เธอเลยได้แต่กอดเข่าร้องไห้กับพระจันทร์ ประหนึ่งว่าพระจันทร์จะช่วยปลอบประโลมและเยียวยาความเจ็บช้ำให้เธอ
เธอไม่เข้มแข็งอย่างที่รักษ์สิกาเข้าใจ มันก็แค่ความเข้มแข็งจอมปลอมที่อำพรางตัวตนที่แท้จริงของเธอไว้เท่านั้น
แท้จริงแล้ว เธอยังอ่อนไหว และยังอ่อนแออยู่มาก ส่วนสาเหตุที่เป็นแบบนี้ เป็นเพราะเธอแอบหลงรักเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานมาตลอดห้าปีกว่า แต่แล้วเขาก็กำลังจะแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ!
พอรู้ข่าวเธอถึงกับช็อกไปเลย เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจ!!
การ์ดเชิญร่วมงานแต่งงานคือสาเหตุของการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ จนเป็นเหตุให้เธอต้องลาพักร้อนชนิดไม่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า รวมถึงการเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเดินทางมาถึงที่นี่...
ระหว่างที่นลินกำลังหลับสบาย ประตูบ้านได้ถูกเปิดออก ปวาฬเข้ามาในบ้านพร้อมกับอุปกรณ์เขียนภาพและโจ๊กร้อน ๆ อีกหนึ่งถุง ทว่าเรือนแพก็เงียบกริบราวกับไม่มีผู้อาศัย...
เจ้าของบ้านพุ่งสายตาไปยังที่นอนซึ่งอยู่มุมหนึ่งของบ้านทันที แต่สิ่งที่เขาเห็นทำเอาต้องขมวดคิ้วยุ่ง เพราะผู้อาศัยยังหลับสบายอยู่ในมุ้ง ทั้งที่ตอนนี้แปดโมงกว่าแล้ว...
“ให้ได้อย่างนี้สิแม่คุณ” ชายหนุ่มบ่นอุบ พอวางโจ๊กและอุปกรณ์เขียนภาพบนโต๊ะทำงานได้ กลิ่นเหม็นอันไม่พึงประสงค์ก็โชยเข้าจมูก
ใบหน้าสีแทนเครียดขรึมขึ้นมาทันทีเมื่อหันไปเห็น ‘อึ’ แมวอยู่บนภาพวาดของเขา!
แค่เห็นกลางอกของปวาฬก็ร้อนวาบขึ้นมา เขาขบกรามเข้าหากันเป็นสันนูนที่ข้างแก้มด้วยความโกรธ เขาตรงดิ่งไปยังที่นอนของหญิงสาวทันที
“มะนาว!” ปวาฬเพียงยืนเท้าสะเอวอยู่ปลายเท้าของหญิงสาว แต่เสียงเรียกของเขาก็ไม่สามารถปลุกคนนอนขี้เซาให้ตื่นขึ้นมาได้
“ยัยมะนาว!” ชายหนุ่มเพิ่มเสียงดังกว่าเดิมอีก แต่คนถูกเรียกทำได้แค่ขยับตัวอย่างรำคาญเท่านั้นเมื่อถูกรบกวนเวลานอน
ดวงตาดำสนิทหรี่ลง ขณะเดียวกันปวาฬก็เพิ่มบทลงทัณฑ์มากกว่าเดิม พอหญิงสาวไม่ลุกเขาเลยจัดการปลดหูมุ้งออก แต่ผู้ที่ผงกหัวขึ้นมานั้นกลับเป็นเจ้าแมวเหมียวสามสี แล้วมันก็ลุกขึ้นจากที่นอนมาเหยียดตัวบิดขี้เกียจอยู่ข้าง ๆ เขา
