1 รองเท้าที่หายไป (5)
“เฮอ...” ลมหายใจถูกผ่อนออกมายาว ชายหนุ่มเดินเอื่อย ๆ มาทิ้งตัวนั่งห้อยขาที่ระเบียง
เขาเอาขาราน้ำเล่นปล่อยให้สมองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย มองโลกในด้านดี อย่างน้อยเรือนแพหลังนี้ก็ไม่ใช่เขาคนเดียวที่อกหัก แต่ยังมี ‘ผู้หญิง’ อีกคนที่เก็บเสื้อผ้าหนีความเจ็บปวดมาเช่นกัน
ตอนแรกเขานึกว่า ‘ไอ้นาว’ ที่รักษ์สิกาพูดถึง คือหนุ่มน้อยรุ่นราวคราวเดียวกับหลานสาวของเขา ที่ไหนได้เป็นผู้หญิงเฉยเลย
แล้วดูการมาเยือนของเจ้าหล่อนเถอะ มาถึงก็ก่อเหตุทำรองเท้าส้นเข็มหล่นลงมาเปื้อนภาพเขียนที่เขาตั้งใจวาดให้เป็นของขวัญวันแต่งงานของดาริกา ซึ่งมันทำให้เขาโกรธมาก ถึงขนาดจะไปเอาเรื่องผู้กระทำ แต่พอออกไปหาตัวก่อเหตุ ก็ไม่เจอหน้าใครสักคน
แต่ครู่เดียวเท่านั้น ‘ตัวการ’ ก็มาเผยโฉมหน้าให้เขาเห็นถึงหน้าบ้าน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด ไม่แคร์สายตาคนทั้งโลกรายนี้เป็นใคร เห็นเธอมาด้อม ๆ มอง ๆ ทะเลาะกับเจ้ารถถังสุนัขตัวโปรดที่หน้าประตูรั้ว เขาได้ยินเสียงเจ้าหล่อนแจ้ว ๆ ว่า ‘มาเอารองเท้าคืน’ เท่านั้น
อ้อ... นางซินฯ มาตามหารองเท้า
เธอทำภาพเขียนที่เขาบรรจงวาดทั้งสัปดาห์เปรอะเปื้อนไปหมด มีหรือเขาจะสนองความต้องการของเจ้าหล่อน... ให้รองเท้าคืนง่าย ๆ ก็ไม่ใช่ปวาฬแล้วสิ!!
ดังนั้นเขาจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ซะ ถือเป็นการลงโทษของผู้กระทำผิดละกัน ภาพวาดซึ่งใกล้เสร็จสมบูรณ์ของเขาเสียหายทั้งหมด ถึงขนาดต้องเริ่มต้นวาดใหม่เลยเชียว
ระหว่างนั้นโทรศัพท์รุ่นดึกดำบรรพ์ก็ดังขึ้น ขณะที่เขาจัดการเก็บอุปกรณ์เขียนภาพอย่างหงุดหงิด
‘น้าวาฬจ๋า ไอ้นาวอยู่ที่เรือนแพแล้ว ถ้าน้าวาฬว่างก็ช่วยดู ๆ มันหน่อยนะ คนอกหัก กำลังมีปัญหา เดี๋ยวมันคิดสั้นฆ่าตัวตายล่ะยุ่งเลย’
จริง ๆ เขาเองไม่อยากเข้าไปยุ่งกับผู้มาขอพักอาศัยเท่าไหร่นักหรอก แต่เพราะคำพูดของรักษ์สิกาสะดุดใจนี่ล่ะ ถึงทำให้เขาต้องมาที่เรือนแพ อย่างน้อยได้ทำความรู้จัก ‘เพื่อนหลานสาว’ ไว้คงไม่เสียหายอะไร อีกอย่างเขาต้องการบอกข้อตกลงของการอยู่ร่วมกันด้วย
ที่ไหนได้ พอเจอหน้าผู้มาเยือนครั้งแรก ทำเอาเขางงเป็นไก่ตาแตกเชียว เพราะ ‘ไอ้นาว’ ที่รักษ์สิกาเรียกจนติดหู คือ ‘หญิงสาว’ ไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่เขาคิด และเจ้าหล่อนก็ทักทายเขาด้วย ‘การกัด’ เสียด้วย
ปวาฬมีสีหน้าขรึมลงเมื่อมองรอยเขี้ยวที่ปรากฏหลังมือ พลางนึกถึงวงหน้าตกอกตกใจของผู้มาเยือน
ไม่แปลกหรอก หากเจ้าหล่อนจะตกใจเมื่อเห็นเขา ขนาดรักษ์สิกาหลานสาวในไส้แท้ ๆ ยังร้องเสียงหลงเลยเมื่อเห็นหน้าเขาตอนที่กลับจากต่างประเทศใหม่ ๆ
‘สิกานึกว่ากัปตันโจรสลัดแจ๊ค สแปร์โร่ว์หลุดออกมาจากจอนะเนี่ย’
พอนึกถึงคำพูดล้อเล่นของหลานสาว ชายหนุ่มก็อดลูบหนวดหนาที่ขึ้นรกใบหน้าไม่ได้ เคยตั้งใจว่าจะกำจัดมันทิ้งซะ แต่เวลานี้เขาเปลี่ยนใจแล้วล่ะ คิดว่าน่าจะเก็บเอาไว้ให้ขัดลูกหูลูกตาใครบางคนเล่นน่าจะดีกว่า
ดวงตาดำสนิทฉายแววประกายวาววับ ก่อนร่างสูงจะลุกขึ้นแล้วคว้าตะเกียงน้ำมันกลับเข้าไปในเรือนแพ
ผ่านประตูเข้ามาในบ้าน ปวาฬก็เห็นมุ้งสีขาวซึ่งเป็นที่นอนของเขาถูกกางขึ้นเพื่อใช้งานเรียบร้อยแล้ว และร่างบางก็นั่งอยู่ในนั้น หากสิ่งที่ทำให้เขาต้องชะงักไป เป็นเพราะคำแผ่เมตตาของหญิงสาวที่ดังขึ้นมานั่นเอง!
นลินรู้ว่าเจ้าของบ้านเข้ามาเธอเลยแกล้งสวดมนตร์แบบส่งเดชไปอย่างนั้น และมันก็เป็นผล เพราะปวาฬยืนเท้าสะเอวส่งสายตาไม่พอใจมาที่เธอ
“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ” ปวาฬบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันกำลังยุ่งอยู่ คุณไม่เห็นเหรอ”
“ไม่ต้องปากเก่ง หากยังอยากอยู่ที่นี่ก็ลุกขึ้นมาคุยกัน”
คำขู่ของเขาเป็นผล เพราะหญิงสาวก้มกราบหมอนสามครั้งแล้วลุกพรวดออกจากมุ้งทันที
“มีเรื่องอะไร ?”
น้ำเสียงห้วน ๆ ปราศจากหางเสียง สร้างความไม่พอใจให้ชายหนุ่มเป็นอย่างมาก ปวาฬไม่ตอบ แต่เขาเดินเอื่อย ๆ ไปหยุดที่ประตูเชื่อมกับหน้าระเบียงซึ่งมีโมบายเปลือกหอยห้อยอยู่
ทว่าพฤติกรรมของเจ้าของบ้านช่างขัดลูกนัยน์ตาของนลินนัก
“นี่คุณ ถ้ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ไว้ค่อยพูดกันพรุ่งนี้แล้วกัน ตอนนี้ฉันง่วงนอน” หญิงสาวบอกพลางอ้าปากหาวหวอด
