บท
ตั้งค่า

บทที่ 3.1

พิธีแต่งงานของอรพิมกับทรงฉัตรในช่วงเช้าผ่านไปได้ด้วยดี ชายหนุ่มเพิ่งได้เห็นหน้าผู้ชายของอรพิมที่คุณทิพย์บอกเมื่อหลายวันก่อน พฤกษ์ นิยมสุขนั่นเอง ทนายหนุ่มฝีมือดีที่คุณทรงพุ่มเคยพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง เพิ่งได้รู้จักกันเป็นเรื่องเป็นราวก็วันนี้เอง

ทรงฉัตรสังเกตว่าพฤกษ์ดูจะเป็นห่วงเป็นใยว่าที่เจ้าสาวของตนตลอดเวลา ความใกล้ชิดสนิทสนมนี้คงไม่ใช่แค่การร่วมงานกันเท่านั้น มันต้องมีอะไรที่มากกว่าเพราะเท่าที่เห็น ดูเหมือนว่าทุกเรื่องของอรพิมนั้นทนายหนุ่มจะรู้ดีกว่าใครทั้งหมด

“แม่ว่ามันชักจะยังไงอยู่นะ ตาฉัตร แม่น้าสาวก็ไม่โผล่มาให้เห็นส่งหลานกับทนายความมาแทน ดูสิแขกผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่ญาติ เป็นลูกค้าทั้งนั้น” คุณทิพย์ตั้งข้อสังเกตความผิดปกติของงานแต่งงานในวันนี้

ดลยาไม่มาปรากฏตัวทั้งที่ความจริงแล้วควรมาเป็นญาติผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าสาว แขกที่มาร่วมงานรวมถึงคนที่ทำหน้าที่ผู้ใหญ่แทน กลับเป็นประธานบริษัทที่มีชื่อเสียงซึ่งคุณทรงพุ่มและนางรู้จักคุ้นหน้าเป็นอย่างดี สร้างความสงสัยให้กับคุณทิพย์เหลือเกินว่า เพราะอะไรดลยาจึงไม่มางานสำคัญเช่นนี้ และมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เกิดงานวิวาห์นี้ขึ้น

“พ่อบอกว่าคุณดลยากลับมาไม่ทันครับ ตอนนี้เธออยู่อเมริกา” ทรงฉัตรกระซิบตอบมารดาที่ยืนอยู่ข้างๆ สายตาจับจ้องมองเจ้าสาวที่กำลังเดินเข้ามาหา เพื่อร่วมส่งแขกที่ทยอยกลับในเวลานี้

“ดีนะ ตัวเองบัญชาการอยู่เมืองนอกส่งหลานสาวมาจัดการ เจ้าทนายนั่นก็เหมือนกันไว้ใจไม่ได้ ฉัตรต้องคอยจับตามองดูให้ดีๆ นะลูก คอยดูด้วยว่าสองคนนั้นทำอะไรในบริษัทบ้าง” คุณทิพย์ทิ้งท้ายแล้วหันหลังเดินหนี ไม่อยากเห็นหน้าศรีสะใภ้ที่ก้าวมายืนเคียงข้างบุตรชาย

“เธอสนิทกับนายพฤกษ์อะไรนั่นถึงขั้นไหนแล้ว” ทรงฉัตรกระซิบถามเจ้าสาวคนสวยที่ยืนอยู่เคียงข้าง

วันนี้อรพิมสวย สวยกว่าทุกวันที่เคยเห็น เจ้าสาวแสนสวยแม้จะไม่ค่อยมีรอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏบนใบหน้าสักเท่าไรก็ตามที แต่ก็ไม่ได้บดบังความสวยของเจ้าสาวเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ทรงฉัตรเข้าใจเองว่า การที่เจ้าหล่อนไม่ยิ้มก็เพราะไม่เต็มใจที่จะเข้าพิธีวิวาห์ด้วย แต่อาจมีเหตุผลอื่นนั่นก็คือ พฤกษ์นั่นเอง

“แล้วนายสนิทกับแม่นางเอกนั่นถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะ” อรพิมย้อนถามกลับไปบ้าง

แม้วันนี้มุกดาราจะไม่ได้มาปรากฏตัวในสถานที่แห่งนี้ แต่อรพิมก็ได้ยินเสียงซุบซิบของแขกที่มาร่วมงานบางคน ที่เอ่ยถึงนางเอกสาวซึ่งพลาดการเป็นเจ้าสาวในวันนี้ รวมถึงการพูดคุยกันต่างๆ นานาถึงสาเหตุงานวิวาห์สายฟ้าแลบที่ไม่มีวี่แววมาก่อนของเธอกลับทรงฉัตรอย่างสนุกปากเลยทีเดียว

“นี่สนใจผมมากถึงขนาดหาข้อมูลเชียวเหรอ” ทรงฉัตรชำเลืองมองเจ้าสาวของตน เพื่อสังเกตสีหน้าว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

นางเอกสาวไม่มาร่วมงานในวันนี้ ไม่ใช่เพราะเสียใจกับงานวิวาห์ครั้งนี้ แต่เพราะติดงานส่วนตัวทำให้ไม่มีโอกาสได้มาร่วมแสดงความยินดี แต่กระนั้นมุกดาราก็ยังส่งของขวัญพร้อมคำอวยพรในฐานะเพื่อนที่แสนดีมาให้

“หาข้อมูลอะไร” อรพิมหันมาสบตาคนถาม

“ก็หาว่าผมคบกับใคร คุยกับใครบ้าง หรือว่าคุณไม่ได้ทำแต่เป็นคนอื่นทำให้” ทรงฉัตรเดาว่าอาจจะเป็นพฤกษ์ ซึ่งมีท่าทีสนิทสนมกับเจ้าสาวของตนเสียเหลือเกิน มันก็ไม่แปลกหากทนายหนุ่มจะทำเช่นนั้น อย่างน้อยอรพิมก็จะได้รู้เสียบ้างว่า คนอย่างทรงฉัตรเป็นที่สนใจของใครต่อใครมากมายแค่ไหน

“ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก ของแบบนี้ความลับมันไม่มีในโลก โดยเฉพาะคนบางคนที่ชอบทำอะไรโจ่งแจ้งไม่สนใจสายตาคนอื่น” อรพิมเชิดหน้า

“พวกทำตัวเป็นไฮโซนิยมไม้ประดับสวยๆ ทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยลอยไปลอยมา วันๆ ดีแต่หาเรื่องคนอื่นสมองคิดอะไรดีๆ ไม่เป็น มักจะไม่รู้ว่าอะไรควรและไม่ควร แต่ถึงคุณกับเธอจะไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ฉันก็ไม่สนเพราะไม่อยากลดตัวไปเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ”

ทรงฉัตรหน้าชากับคำพูดจิกกัดของอรพิม มุกดาราไม่เคยว่าเจ้าหล่อนสักคำหนำซ้ำยังพยายามพูดให้เข้าใจเธออีกต่างหาก แต่นี่อะไรเจ้าสาวที่พ่อเลือกให้กลับใช้คำพูดถากถางเหน็บแนมทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้เป็นแบบนั้น

“มีสิทธิ์อะไรไปว่ามุกแบบนั้น มุกไม่ใช่ไม้ประดับบ้าบออย่างที่คุณพูด จะว่าคนอื่นดูตัวเองก่อนดีไหมว่าทำดีแล้วหรือยัง” ทรงฉัตรอดไม่ได้ที่จะต้องเหน็บกลับไปบ้าง

“ฉันทำดีแน่ และทำดีชนิดที่คุณจะต้องไม่มีวันลืมเลยล่ะ อย่าลืมเตรียมคำขอบคุณฉันไว้นะ” เจ้าสาวคนสวยทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินจากไปดั่งนางพญาตามแบบฉบับของอรพิม

ทรงฉัตรนับหนึ่งถึงร้อยดังๆ ในใจ นี่ขนาดเข้าพิธีแต่งงานแล้วเจ้าหล่อนยังไม่มีทีท่าอ่อนน้อมต่อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ไม่อยากคิดเลยว่าต่อไปแม่เจ้าประคุณจะวางท่าอะไรอีก เห็นทีงานนี้เขาต้องสั่งสอนให้รู้เสียบ้างแล้วว่า การเป็นเมียที่ดีควรทำตัวอย่างไร

คนที่อรพิมคิดถึงที่สุดเวลานี้ก็คือน้าสาวสุดที่รัก ผู้เป็นต้นเหตุของงานแต่งงานในวันนี้ เธอปลีกตัวขึ้นมาพักผ่อนในห้องพักของโรงแรมก่อนเวลางานเลี้ยงช่วงเย็นจะเริ่ม เมื่อมีเวลาอยู่ลำพังอรพิมก็ยิ่งคิดถึงดลยาและอดน้อยใจไม่ได้ว่า วันสำคัญที่สุดในชีวิตของตนเช่นนี้ น้าสาวผู้เปรียบเสมือนมารดากลับไม่มาร่วมงาน ซ้ำปล่อยให้เธอต้องเผชิญหน้ากับสามีอย่างทรงฉัตร ซึ่งพูดได้เต็มปากเลยว่าทั้งคู่ไม่มีวันลงรอยกันอย่างแน่นอน

“คุณพิม” เสียงพฤกษ์ดังขึ้นทางด้านหลัง อรพิมรีบเช็ดน้ำตาที่แก้มให้แห้งแล้วจึงหันมาหาผู้ช่วยคนสนิท

“ว่าไงพฤกษ์ ได้เวลาแล้วเหรอ” อรพิมพยายามทำใจลงไปร่วมงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของตน แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ได้ยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ยังไม่ต้องลงไปตอนนี้ ดูนี่ก่อน” ทนายหนุ่มวางแทบเล็ตตรงหน้าและต่อสัญญาณอินเตอร์เนทข้ามทวีปไปหาใครบางคนที่เจ้าสาวคนสวยคิดถึงสุดหัวใจ

“หนูพิม” เสียงน้าสาวสุดที่รักทักทายพร้อมกับโบกมือด้วยรอยยิ้ม

“น้ายา” อรพิมแทบจะหยิบมันขึ้นมากอดเสียด้วยซ้ำ ทันทีที่เห็นหน้าคนที่คิดถึงน้ำตาแห่งความดีใจเสียใจก็ร่วงหล่นอีกครา

“วันแต่งงานไม่ร้องไห้นะ ยิ้มสิลูก ยิ้มให้น้ายาดูสิว่าหลานน้าสวยแค่ไหน สวยมากลูก หนูพิมเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลย”

“น้ายาจะมาเมื่อไรคะ” อรพิมถามเสียงเครือ พยายามยิ้มให้น้าสาวสุดที่รักเห็น

“อีกสักพักนะ น้ายังพักไม่หายเหนื่อยเลย ทำงานมาเท่าอายุหนูพิม ขอพักให้สบายใจหน่อย หนูพิมทำงานแทนน้าได้ใช่ไหม”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวหลังงานพิมจะเริ่มโปรเจคที่น้ายาสั่งทันที”

“ดีจ้ะ มีอะไรก็ถามทรงฉัตรนะ ต่อไปหนูพิมต้องเชื่อฟังพี่เขา มีอะไรก็ปรึกษาหารือกัน แต่งงานแล้วพี่เขาก็คือผู้นำในชีวิตหนู”

ผู้นำเหรอ นำความหายนะมาสู่ชีวิตต่างหาก ตั้งแต่วันที่เขาล่วงเกินจูบเธอในห้องหอ หญิงสาวก็ไม่คิดญาติดีหรือเป็นมิตรด้วยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีใครรู้ว่าทรงฉัตรเป็นคนอย่างไรกันแน่ ทุกคนว่าเขาดีทั้งๆ ที่จริงแล้วเป็นนักฉวยโอกาสและปากเสียมาตลอด

“รับปากน้านะ หนูพิม ต่อไปจะเชื่อทรงฉัตร ไม่ดื้อกับพี่เขา” คุณดลยาย้ำอีกครั้ง

“ค่ะ น้ายา” หญิงสาวรับคำเสียงเบา

“เชื่อน้านะ ทรงฉัตรเป็นคนดี หนูพิมจะมีสามีที่ดีที่รักและดูแลไปตลอดชีวิต”

“ค่ะ น้ายา” อรพิมฝืนรับคำ ดลยาหันมาสั่งงานพฤกษ์ต่อ ปล่อยให้เจ้าสาวทำใจอีกสักหน่อยก่อนจะต้องลงไปร่วมงานหลังจากที่การสนทนาจบสิ้นลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel