บทที่ 2.4
“ฝากบอกผู้ชายของคุณด้วยว่า ถึงเราจะแต่งงานกันด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้คุณคือคนในครอบครัวที่ผมต้องดูแล เพราะฉะนั้นอย่าให้เป็นข่าวว่าผมมีเขางอกบนหัวโดยไม่รู้ตัว”
“ไอ้บ้า ไอ้คนคิดสกปรก” อรพิมเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายพูดทันที
“อย่าเพิ่งเต้น ผมพูดเผื่อไว้เท่านั้น อย่ามาทำตัวเป็นแมวขโมยปลาย่างเพราะผมก็ไม่ยอมให้ใครมาหยามกันแบบนี้แน่”
“ดี พูดแบบนี้ก็เตือนตัวเองด้วยแล้วกัน ฉันไม่ชอบใช้ผู้ชายร่วมกับใครทั้งนั้น ถ้าคุณทำตัวเป็นไฮโซชอบมีไม้ประดับอยู่ข้างๆ ก็กรุณาเลิกซะ แล้วบอกสาวๆ ของคุณด้วยว่าคนอย่างอรพิมไม่มีวันลดตัวไปแย่งผู้ชายด้วยแน่ เมื่อไรที่ฉันทำตามคำสั่งน้ายาเสร็จทุกเรื่อง ฉันจะรีบคืนคุณให้แม่พวกนั้นทันที” อรพิมเชิดหน้าด้วยมาดนางพญาอีกครั้ง
“น้าคุณสั่งอะไรมา” ทรงฉัตรหูผึ่งทันที
“ไม่เกี่ยวกับคุณ รับรองว่าภายในสามเดือนเราสองคนจะไม่ได้เห็นหน้ากันอีก”
“บอกมา น้าคุณสั่งให้มาทำอะไร เรื่องบริษัทใช่ไหม” เขารวบตัวอรพิมเข้ามาถามด้วยสีหน้าจริงจังจนอีกฝ่ายตกใจ
“ยอมรับแล้วใช่ไหมว่า น้าคุณสั่งให้มาจัดการรวมสองบริษัทเพื่อจะเอาไปเป็นของตัวเอง”
“สมองคุณมันคิดอะไรในทางที่ดีได้ไหม” อรพิมพยายามดึงมือเขาออก
“คิดว่าตัวเองฉลาดคนเดียวหรือไง กลัวคนอื่นจะรู้แผนชั่วก็เลยให้หลานสาวมาเป็นตัวเชื่อม แหม ทำไมไม่บอกกันดีๆ ว่ามาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ให้แนบแน่นผมจะได้สนองให้ทันทีโดยไม่ต้องจัดการแต่งงานให้ยุ่งยาก”
“...” อรพิมสะบัดตัวหลุดจากการจับกุม พร้อมฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าคมเต็มแรง
“น้ายาต้องการช่วยคุณลุงทรงพุ่มเพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนที่มีมายาวนาน ฉันไม่คิดเลยว่าคุณลุงจะมีลูกชายปัญญาอ่อนที่คิดอะไรเลวๆ ได้แบบนี้ คิดว่าฉันอยากแต่งมากนักเหรอ บอกแล้วไงผู้ชายอย่างคุณฉันไม่เอามาทำพันธุ์แน่” อรพิมตะโกนใส่หน้าเขา
“อรพิม!” ทรงฉัตรทนไม่ไหวที่ถูกดูถูกซ้ำสอง
ทรงฉัตรกระชากตัวอรพิมอย่างรุนแรง ดันตัวเธอแนบติดกับกำแพงห้องเอาตัวเองทาบทับไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน และไม่สามารถย้อนกลับมาทำร้ายเขาได้อีกเหมือนครั้งก่อน จากนั้นจึงแนบประกบริมฝีปากลงบนเรียวปากสวย ที่พูดจาโอหังต่อหน้าเป็นการสั่งสอน
อรพิมตกใจไม่เคยมีใครกล้าทำกับเธอแบบนี้มาก่อน ปลายลิ้นที่ฉกวนอยู่ที่ริมฝีปาก ซอกซอนเข้ามาด้านในโรมรันพันตูอย่างรวดเร็ว ตกใจจนไม่ทันตั้งรับ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ไม่มีในตำราที่เคยเรียนไม่มีในหนังสือที่เคยอ่านเจอ ต้องทำอย่างไรกับสถานการณ์ตอนนี้
ทรงฉัตรแปลกใจกับท่าทางไม่ประสาของเจ้าหล่อน นี่เล่นละครหรือของจริงกันแน่ ไหนว่าเป็นนักเรียนนอก ทำไมแค่จูบยังทำราวกับไร้เดียงสา แต่ลึกๆ แล้วรู้สึกพอใจกับความไม่ประสานี้
จากจูบที่โรมรันราวกับจะเอาชนะให้ตายกันไปข้าง บัดนี้มันเริ่มจะเอนไปในทิศทางเดียวกันแล้ว ทรงฉัตรพึงพอใจที่จูบของอรพิมตอบสนองอย่างไร้พยศ มันอ่อนหวานน่ารักจนไม่อาจจะตัดใจละจากได้ ยิ่งนานมันยิ่งลึกซึ้งจนไม่คิดแกล้งให้ตกใจ มอบความอ่อนโยนเป็นใบเบิกทางพร้อมตักตวงความหอมหวานจากริมฝีปากนั้นให้นานที่สุด
“ไอ้คนฉวยโอกาส” อรพิมตั้งท่าจะฟาดฝ่ามือใส่อีกครั้ง เมื่อ
ทรงฉัตรถอนจูบเอาแต่ใจออกมา
“มันเป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่เหรอ ถ้าแต่งงานกันแล้วมากกว่าจูบผมก็มีสิทธิ์” ทรงฉัตรไร้อารมณ์โมโหออกจะยินดีด้วยซ้ำ
“ฉันจะฟ้องคุณลุงว่านายรุ่มร่าม” หญิงสาวโมโหที่หาทางสู้คนเอาเปรียบไม่ได้
“เชิญ” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้
“ผมรู้นะ ว่าทั้งพ่อและน้าสาวคุณอยากให้เรามีเจ้าตัวเล็กไวๆ จะตาย ผมว่าถ้าเราทำแบบนั้นได้ก็น่าจะดีนะ เพราะไหนๆ คุณก็ลงทุนแต่งงานแล้วนี่ และอีกอย่างนะผมพร้อมเสมอถ้าคุณต้องการแบบนั้น หรือเราจะเริ่มกันเดี๋ยวนี้เลยจะได้ไม่ขาดทุนไง”
“ไอ้บ้า ไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัว ฉันเกลียดนาย คอยดูนะ...” อรพิมทำอะไรไม่ได้นอกจากโมโห และวิ่งออกไปให้เร็วที่สุด เกลียด เกลียดทรงฉัตรเหลือเกิน
น้ำตาคือเพื่อนที่ปลอบใจอรพิมได้ดีที่สุด แม้จะออกมาพ้นหน้าคนใจร้ายแล้วแต่ความเศร้าเสียใจก็ยังไม่จางหาย สาวน้อยจอดรถข้างทางปล่อยโฮออกมาเต็มที่ ระบายความทุกข์ในหัวใจออกมาให้หมด นี่โชคชะตาเล่นตลกอะไร ทำไมถึงได้ต้องมาเจอผู้ชายใจร้ายที่ชื่อทรงฉัตรคนนี้
