บท
ตั้งค่า

บทที่ 2.1

“แบบนี้นะอย่าทำงานด้วยกันดีกว่า อธิบายอะไรก็กวนประสาท ในที่ประชุมอย่างน้อยก็น่าจะไว้หน้ากันบ้าง”

“เขาคงถามเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง เป็นใครก็ต้องคิดจู่ๆ เราก็มาเป็นหุ้นส่วนแถมผลกำไรยังได้น้อยกว่า ในโลกความจริงหาแบบนี้ได้ที่ไหน”

พฤกษ์พยายามดับอารมณ์ที่ร้อนระอุของเจ้านายสาวให้สงบลง ทรงฉัตรช่างเป็นผู้มีคุณสมบัติพิเศษเสียจริง ที่สามารถทำให้อรพิมเจ้านายที่แสนอารมณ์ดีของเขา กลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ได้ในพริบตา เพียงแค่พบหน้าและใช้เวลาอยู่ด้วยกันในวันแรกเท่านั้น

“เป็นพิมก็คงคิดเหมือนเขา แต่พฤกษ์รู้ไหม หมอนั่นพูดอะไรกับพิม” ไม่ใช่แค่เรื่องที่ทรงฉัตรทะลุถามคำถามกวนประสาทในห้องประชุมเพียงอย่างเดียว มันมีเรื่องอื่นที่ทำให้อรพิมแทบอยากจะบีบคอเขาให้ตายคามือมากกว่า

“อะไร” ทนายหนุ่มเดาถูกเผงว่า ไม่ใช่แค่เรื่องงานอย่างเดียวที่ทรงฉัตรทำให้อรพิมโกรธได้เพียงนี้ มันต้องมีเรื่องอื่นด้วยเป็นแน่

“นายทรงฉัตรอะไรนั่น พูดว่าพิมเป็นผู้หญิงที่พ่อเขาใส่พานมาถวาย จะทำอะไรก็ให้ไปคุยกับพ่อเขา พูดแบบนี้อย่าแต่งงานเลยดีกว่า พิมชักไม่แน่ใจแล้วว่าเจ้าบ่าวเป็นคนหรือหุ่นยนตร์กันแน่”

“ใจเย็นน่า คุณพิม”

“นี่พิมสั่งให้คนปิดประตูเชื่อมสองห้องระหว่างห้องพิม กับห้องนายทรงฉัตรอะไรนั่นแล้วนะ”

“ประตูเชื่อม ประตูอะไร” พฤกษ์ทำหน้าสงสัย

“คุณลุงทรงพุ่มทำประตูกลางเชื่อมห้องทำงานพิมกับหมอนั่นไว้ คงจะให้เปิดประตูถึงกันได้ง่ายๆ แต่พิมสั่งปิดไปแล้วบอกว่าต้องการความเป็นส่วนตัว”

“แล้วคุณทรงฉัตรว่าไง”

“ไม่ว่าไง หมอนั่นจะว่าอะไรได้ ก็บอกแล้วไง เขาให้พิมคุยกับคุณลุงทรงพุ่ม นี่ถ้าทำได้คงให้พิมแต่งงานกับคุณลุงทรงพุ่มแทนเขาด้วยเลยมั้ง”

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ผู้ชายอะไรปากจัด อวดดี ถือว่าตัวเองวิเศษมาจากไหนถึงได้กล้าพูดจาไม่ดีใส่เธอ คอยดูเถอะ อรพิมจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองแน่ ต่อไปถ้าทรงฉัตรทำอะไร เธอก็จะตอบโต้กลับไปด้วยเช่นกัน

“เอาน่าคุณพิม อีกหน่อยพอแต่งงานกันไป อาจจะไม่ได้แย่อย่างที่เจอวันนี้ก็ได้” พฤกษ์พยายามปลอบให้มองในแง่ดี

“หรืออาจจะแย่กว่าที่เจอวันนี้” อรพิมคิดถึงเหตุการณ์ที่ทรงฉัตรกล้าล่วงเกินเธอเมื่อตอนบ่าย มันต้องไม่มีวันเกิดขึ้น ไม่ยอมเด็ดขาด

“แต่จำไว้อย่างหนึ่งนะพฤกษ์ คนอย่างพิมไม่ยอมให้ใครรังแกหรือเอาเปรียบฝ่ายเดียวแน่ ถ้านายทรงฉัตรคิดจะฉวยโอกาสหรือทำอะไรพิมล่ะก็ พิมจะหย่าและบอกให้น้ายายกเลิกทุกอย่าง”

เอาล่ะสิ พฤกษ์เริ่มจะเครียดขึ้นมาอีกครา ยังไม่ทันแต่งแค่เจอกันวันแรกเท่านั้น ว่าที่เจ้าสาวก็ประกาศชัดเจนว่าจะหย่า หากทรงฉัตรทำอะไรตน โอ๊ย...งานนี้จะหมู่หรือจ่าเนี่ย

ทรงฉัตรนั่งหน้าเครียดอยู่ที่ห้องรับแขกหลังจากที่กินอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว มุกดาราไม่มีงานจึงแวะมาเยี่ยมคุณทิพย์เหมือนเช่นเคย และทำให้รู้ว่าทรงฉัตรกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับหุ้นส่วนบริษัทใหม่ในเร็ววันนี้

“รับปากแม่ได้ไหม ไม่ว่าอย่างไรแม่ก็ไม่ต้องการได้เด็กคนนั้นเป็นลูกสะใภ้ ถ้าหาทางหย่าได้เร็วเท่าไรยิ่งดี” คุณทิพย์พูดน้ำเสียงจริงจัง

แม้จะต้องจำยอมให้ลูกชายสุดที่รักแต่งงานกับสะใภ้ที่ไม่ได้เลือก แต่เพื่อครอบครัวและบริษัทที่สามีสร้างมากับมือ คุณทิพย์ก็ไม่อาจใช้อารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวของตนเองได้ จึงพยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้ตนได้ในสิ่งที่ต้องการ นั่นคือการทำให้อรพิมออกไปจากชีวิตครอบครัวให้เร็วที่สุด

“คุณแม่ครับ” ทรงฉัตรแอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของมารดา

นับจากวันที่ตกลงรับปากเรื่องแต่งงาน มารดาสุดที่รักก็ยื่นคำขาดให้เขากับว่าที่เมียเลิกกันตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าพิธี ทำให้ทรงฉัตรอดคิดไม่ได้ว่ามารดาจำใจต้องยอมรับการแต่งงานเพื่อครอบครัว และหากอรพิมก้าวเข้ามาในฐานะสะใภ้แล้ว ปัญหาโลกแตกเรื่องแม่ผัวกับลูกสะใภ้จะเกิดขึ้นหรือไม่

ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดเพราะตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่มีพิธีใดๆ เลยด้วยซ้ำ ทรงฉัตรไม่ใช่ผู้ชายที่สนใจเรื่องหยุมหยิมเหล่านี้ ทว่าเขารักมารดาสุดชีวิตในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวที่จะให้ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเมีย ไม่ได้รับความยุติธรรมหรือต้องถูกแม่ผัวกดขี่ไว้ตลอด

ท่าทางของอรพิมก็ใช่เล่น เจ้าหล่อนวางท่าเป็นนางพญาไม่เห็นหัวคนอื่น แม้กระทั่งกับเขาที่ได้ชื่อเป็นว่าที่สามี ก็ยังไม่มีท่าทียำเกรงสักนิด แบบนี้ก็อย่าหวังว่าแม่เจ้าประคุณจะลงให้กับคุณทิพย์ที่เกลียดตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า และไม่ต้องรอดูว่าละครแม่ผัวกับลูกสะใภ้บ้านนี้จะเป็นเช่นไร เพราะทรงฉัตรเดาได้ไม่ยากว่าต้องตาต่อตาฟันต่อฟันเป็นแน่

“ฉัตรอยากเห็นแม่เป็นทุกข์ ร้องไห้ทุกวันใช่ไหม” น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนสั่นเครือเล็กน้อย มุกดาราเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามาปลอบ

“คุณแม่คะ ฉัตรคงไม่ได้หมายความแบบนั้น คุณแม่ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ” นางเอกสาวหันมาสบตากับชายหนุ่ม

“แต่ก็ไม่รับปาก หรือว่าตอนนี้ใครๆ ก็รักแม่นั่นจนลืมผู้หญิงคนนี้แล้ว” คุณทิพย์ฟูมฟายหนักขึ้น

“เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ผมคนเดียวคุณแม่ก็รู้ ถ้าผมกับผู้หญิงคนนั้นไปกันไม่ได้จริงๆ คุณพ่อก็คงไม่ยอมให้ทุกอย่างจบทันทีหรอกครับ”

“คุณพ่อตาบอดไปแล้ว ฉัตรจะตาบอดอีกคนหรือไง” นางยังไม่วายตัดพ้อ

“เอาเป็นว่าผมจะจำที่สั่งให้ขึ้นใจ ห้ามเข้าใกล้ ห้ามรัก ห้ามชอบห้ามทำดีด้วย หาเรื่องเลิกให้เร็วที่สุด พอใจไหมครับ”

เขามองไม่เห็นความสุขที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตแต่งงานกับอรพิมเลยแม้แต่น้อย ยังไม่ทันรับเธอเข้ามาในชีวิต ทุกคนก็ตั้งคำสั่งที่ทรงฉัตรฟังแล้วได้แต่เหนื่อยใจ

“อย่าลืมว่าไม่ได้มีแม่คนเดียวที่เสียใจ หนูมุกอีกคนที่รอลูกอยู่” นางจับมือมุกดารามาเป็นพวกอีกคน

“คุณแม่คะ เรื่องมุกกับฉัตรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันควรเป็นดีไหม คุณแม่อย่าห่วงเลย”

สำหรับมุกดาราแล้ว การแต่งงานของทรงฉัตรครั้งนี้ทำให้รู้สึกเสียใจบ้างเล็กน้อย เพราะทรงฉัตรเป็นคนดีและมุกดาราเองก็ชื่นชมในตัวเขาเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญความสัมพันธ์ในการคบหาเป็นไปด้วยการให้เกียรติ ตามลักษณะที่สุภาพบุรุษพึงกระทำต่อสุภาพสตรี

ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือมุกดาราเป็นนางเอกที่รักษาภาพพจน์มาตั้งแต่เข้าวงการ ข่าวฉาวเรื่องผู้ชายของเธอแทบไม่เคยปรากฏทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ดังนั้นถึงแม้ผู้ชายแสนดีที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเช่นทรงฉัตร จะต้องหลุดมือแต่งงานกับผู้หญิงอื่นแทนที่จะเป็นตน มุกดารามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ทำตัวเองให้เสียหายแน่ อีกทั้งความเป็นเพื่อนที่มีต่อกันยังคงดำเนินต่อไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ

“ฉัตรก็รู้ว่าสะใภ้ที่แม่ต้องการเป็นใคร ถ้าฉัตรรักแม่จริงควรรู้ว่าต้องทำอย่างไร” คุณทิพย์สบตากับบุตรชายแน่วแน่ มุกดาราพลอยอึดอัดกับคำพูดของนางด้วยอีกคน

“ผมเข้าใจครับ แต่เรื่องนี้คุณแม่ให้ผมจัดการดีกว่า ถ้าคุณแม่ทำอะไรไปจะกลายเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็กได้”

มุกดาราเข้าใจความรู้สึกของทรงฉัตรและคุณทิพย์ และรับรู้ว่าปัญหาเก่าที่เคยเป็นรากความเกลียดในจิตใจของคุณทิพย์มีสาเหตุมาจากสิ่งใด งานนี้คงต้องรอดูว่าโชคชะตาจะทำอย่างไรกับชีวิตของทรงฉัตรและผู้หญิงคนนั้น ส่วนเธอขอเป็นผู้ดูและให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ดีกว่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel