บท
ตั้งค่า

บทที่ 1.3

อรพิมลองชุดแต่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว พฤกษ์จึงพาหญิงสาวมากินอาหารกลางวันใกล้ๆ ก่อนจะกลับไปทำงานในภาคบ่ายต่อ บังเอิญที่พฤกษ์เหลือบไปเห็นว่าที่เจ้าบ่าวของอรพิมนั่งอยู่ในร้านด้วย ทรงฉัตรไม่ได้มาคนเดียวแต่มากับสาวน้อยหน้าแฉล้มที่คนทั้งประเทศรู้จักกันในฐานะดาราสาว

“คุณพิม ดูโน่น” พฤกษ์พยักหน้าให้สาวน้อยหันไปมองด้านในของร้าน อรพิมมองตามแล้วย้อนกลับมาถามด้วยความสงสัยว่า

“พฤกษ์ให้ดูใคร”

“อ้าว ก็ว่าที่สามีคุณพิมไง โน่น คุณทรงฉัตร” ทนายหนุ่มเอ่ยเสียงเบา

“นั่นหรือ นายทรงฉัตร” คราวนี้อรพิมหันไปมองให้เต็มตาอีกที แล้วเอ่ยต่อว่า

“มากับใคร คงไม่ใช่ลูกค้าหรอกนะ แฟนหรือเปล่า”

“นางเอกละครน่าจะชื่อว่า มุกดารานะ”

“อ๋อ ไฮโซคบดาราเหรอ” น้ำเสียงอรพิมเย้ยหยันในที หันหน้าไปมองอีกครั้งแล้วสะบัดหน้ากลับมาทันที

“ไม่ยักรู้ว่าพฤกษ์รู้จักดาราด้วย”

“เปล่า เมื่อกี้ตอนคุณพิมลองชุด ที่ร้านมีถ่ายแฟชั่นชุดเจ้าสาว แล้วนางเอกคนนี้ก็ถ่ายด้วย ผมก็เลยรู้” ชายหนุ่มเฉลย

ระหว่างที่รออรพิมลองชุด พฤกษ์ขี้เกียจนั่งเฉยๆ จึงเดินสำรวจร้านไปทั่ว และพบว่าอีกด้านมีการถ่ายแฟชั่นโปรโมตร้านพอดี และนางเอกสาวกำลังโพสต์ท่าในชุดสายเซตสุดท้ายพอดี ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่ร้านอาหารอีก

“กินข้าวเถอะพฤกษ์ อย่าไปสนใจเลย พิมจะถือเสียว่านี่คือบทบาทหนึ่งของว่าที่สามีของพิม” อรพิมชวนกินข้าวหน้าตาเฉย เหมือนไม่รู้สึกรู้สาใดๆ ต่อการกระทำของว่าที่สามีในอนาคต ในขณะที่พฤกษ์เริ่มหนักใจเมื่อรู้ว่าทรงฉัตรกับมุกดารามีท่าทีสนิทสนมกันเป็นพิเศษ

คุณทรงพุ่มเรียกทุกคนมาประชุมเพื่อชี้แจงความเปลี่ยนไปของบริษัทในอนาคต ทรงฉัตรชำเลืองมองสาวน้อยหน้าหวานที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวถัดไป ด้วยความรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย จะไม่ให้รู้สึกเช่นนั้นได้อย่างไรในเมื่อเจ้าหล่อน ไม่แม้แต่จะทักทายใครสักคนตั้งแต่ก้าวเข้ามา ซ้ำยังวางท่าเป็นนางพญาจนน่าหมั่นไส้

“หนูพิมจะมาเป็นผู้ดูแลเรื่องการลูกค้าและระบบการทำงานของเราทั้งสองบริษัท ส่วนทรงฉัตรก็จะดูแลเรื่องฝ่ายออกแบบก่อสร้างเช่นเดิม สำหรับเรื่องอื่นในช่วงบ่ายทุกคนจะได้รับทราบในที่ประชุม และผมขอแนะนำอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขอต้อนรับเอเอสคอนสตรัคในฐานะหุ้นส่วนของเรา ภายใต้ชื่อใหม่ เอเอสบีเอสเตรท ที่เราทุกคนจะร่วมแรงร่วมใจทำงานด้วยกันอีกครั้ง”

เสียงปรบมือต้อนรับอรพิมที่ลุกขึ้นยืนแสดงตน หญิงสาวส่งยิ้มน้อยๆ ให้กับทุกคนทั่วห้องประชุม แต่ดูเหมือนจะจงใจมองผ่านทรงฉัตรไปโดยไม่ไยดี

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ บ่ายนี้พิมจะแจ้งนโยบายการทำงานใหม่ของเรา ขอให้ทุกคนเข้าประชุมให้พร้อมเพรียงกันด้วยค่ะ”

เมื่อแนะนำอรพิมให้ทุกคนรู้จักแล้ว คุณทรงพุ่มจึงแนะนำให้บุตรชายรู้จักกับหญิงสาวอีกครั้ง พร้อมทั้งพาทั้งสองไปยังห้องทำงานที่จัดเตรียมไว้ให้

“ฉัตรอยู่ห้องนี้ ส่วนหนูพิมอยู่ห้องข้างๆ ไปลุงจะพาไปดู” คุณทรงพุ่มเดินนำ

“ปิดประตูได้ไหมคะ พิมอยากได้ความเป็นส่วนตัวเวลาทำงาน” อรพิมเอ่ยเมื่อเห็นประตูเชื่อมระหว่างสองห้อง

“ลุงให้คนทำประตูนี้ ก็เพื่อเจ้าฉัตรกับหนูจะได้เดินหากันได้สะดวก” คุณทรงพุ่มเอ่ย

“เวลาทำงานพิมอยากมีสมาธิค่ะ”

ทรงฉัตรรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าหล่อน แม้อรพิมจะสวยถูกใจ แต่ไอ้ท่าทีเป็นดั่งนางพญาที่ไม่ก้มหัวให้ใคร ทำให้เขาทั้งหมั่นไส้และอยากจะอยู่ให้ห่างที่สุด

“ปิดเลยก็ดีครับ นอกจากเสียสมาธิแล้วผมว่ามันดูยังไงไม่รู้ ปิดไปเถอะครับ” ทรงฉัตรสนับสนุนอีกแรง ทั้งคู่สบตากันโดยบังเอิญและต่างฝ่ายต่างเมินหน้าหนีกันไปคนละทาง

คุณทรงพุ่มรับปากจะจัดการให้และขอตัวไปดูเอกสารอื่น ปล่อยให้ทั้งสองทำความคุ้นเคยกันเพียงลำพัง ก่อนไปชายวัยกลางคนกำชับให้บุตรชายดูแลอรพิมให้ดี แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อทั้งคู่อยู่กันเพียงลำพังแล้ว

ทรงฉัตรไม่มีอะไรจะพูดกับสาวน้อย จึงก้าวเดินออกจากห้องเพื่อกลับไปทำงานตามหน้าที่ของตน อรพิมเห็นจึงรีบเรียกเพื่อจะเจรจาบางเรื่องกับเขา

“เดี๋ยว” หญิงสาวเรียกด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

ทรงฉัตรไม่สนใจว่าอรพิมเรียกใคร ในเมื่อไม่ได้เอ่ยชื่อเขาก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานทันที

“ฉันเรียกทำไมไม่หยุด” อรพิมถามเสียงแข็งเดินตามมาใกล้

“คุณเรียกใคร” เขาหันมาถามด้วยน้ำเสียงกวนโทสะเล็กน้อย

“มีกันสองคน จะเรียกใครถ้าไม่ใช่คุณ”

“ผมมีชื่อและคุณก็รู้แล้ว จะเรียกผมกรุณาเรียกชื่อ ถึงแม้คุณจะมาเป็นหุ้นหรือมาในฐานะไหน ก็ควรให้เกียรติคนที่พูดด้วย”

“ค่ะ คุณทรงฉัตร” เจ้าหล่อนเน้นเสียงทุกคำชัดเจน

“มีอะไรว่ามา” ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาหาหนังสือมาอ่าน รอว่าหญิงสาวจะพูดอะไรต่อ

“คุณรู้เหตุผลในการแต่งงานใช่ไหม” อรพิมถามคำแรก

“ถ้าเกิดเปลี่ยนใจก็ไปพูดกับพ่อไม่ใช่พูดกับผม” ทรงฉัตรลุกขึ้นทันที

“ที่ฉันจะพูดคือ เรื่องส่วนตัวของเราสองคน”

“มีอะไรว่ามา” ทรงฉัตรเลิกคิ้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป

“ฉันมีข้อตกลง เรื่องการแต่งงานของเรา” อรพิมตัดสินใจพูด

“ผมบอกแล้วไงว่าให้ไปคุยกับพ่อ ผมมีหน้าที่แค่แต่งเท่านั้นจะเอาอะไรไปบอกพ่อไม่ต้องมาบอกผม” ชายหนุ่มทวนคำพูดเดิม

“ฟังก่อน ฉันหมายถึงการใช้ชีวิตของเราไม่เกี่ยวกับบริษัท” อรพิมขึ้นเสียงเล็กน้อย

“แล้วไง คุณอย่าบอกนะว่าจะให้ผมทำหน้าที่ให้ครบถ้วนทุกขั้นตอน” น้ำเสียงชายหนุ่มเย้ยหยันเล็กน้อยก้าวเข้ามาหาอรพิมช้าๆ จนเธอถอยไปชนกับหลังตู้

“อันนี้พ่อไม่ได้สั่ง แต่ถ้าคุณสั่งขอผมคิดดูก่อนว่าจะทำดีไหม แต่ถ้า...” ชายหนุ่มจงใจใช้สายตาโลมเลียอรพิมไปทั่วทั้งตัว และใช้ปลายนิ้วไล้ไปที่ปลายคางสวยเบาๆ

“ถ้าคุณอยากให้ผมทำหน้าที่สามีให้ครบถ้วน คุณช่วยลดท่าทางนางพญาลงหน่อยทำตัวบ๊องแบ๊วน่าเอ็นดูเหมือนผู้หญิงคนอื่น บางทีผมอาจจะยอมทำตามที่คุณขอก็ได้นะ”

อรพิมผลักหน้าอกของทรงฉัตรให้ออกไปจากตัวอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือสาวน้อยฟาดลงข้างแก้มจนเป็นรอยแดง สายตาจับจ้องมองด้วยความโกรธ

“พูดโดยใช้สมองคิดหรือเปล่า หรือว่าวันๆ อยู่กับปากกากระดาษมากไปมันถึงได้ไม่ความคิดดีๆ ออกมาจากหัว” หญิงสาวย้อนกลับด้วยความโมโห

“ที่ฉันจะบอกกับคุณก็คือ การแต่งงานของเราไม่มีเรื่องอื่นนอกจากงานที่บริษัท และจำไว้ผู้ชายอย่างคุณ ฉันไม่มีวันเอามาทำพันธุ์แน่” อรพิมสะบัดหน้าเดินหนี

ทรงฉัตรไม่ปล่อยให้เธอกลับไปง่ายๆ ตบหน้าเขาแล้วยังมาสะบัดใส่อีกมันต้องเจอการสั่งสอน มีอย่างที่ไหนกล้าพูดว่าไม่เอามาทำพันธุ์ คนอย่างเขาไม่ดีตรงไหนถึงกล้าพูดแบบนั้น

“นี่ ปล่อยนะ” อรพิมสะบัดแขนจากการจับกุม

“ตบหน้าผมแล้วจะเดินไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ” เขากัดฟันพูด

“ปล่อย!” หญิงสาวดันตัวออกห่าง

ยิ่งดันทรงฉัตรก็ยิ่งอยากเอาชนะ ยัยเด็กบ้านี้ถือดีว่ามาเป็นหุ้นส่วนช่วยบริษัท พูดจาไม่มีสัมมาคารวะไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ เขาจะสามสิบแล้วยังไม่เคยมีใครกล้ามาพูดจาแบบนี้ ผู้ชายอย่างทรงฉัตรมีแต่คนอยากเข้าใกล้ เป็นนางฟ้านางสวรรค์มาจากไหนถึงได้พูดว่าไม่เอาทำพันธุ์

“ปล่อย” อรพิมดันสุดแรงจนชายหนุ่มเซไป เธอรีบวิ่งกลับไปแล้วเตรียมจะล็อกประตูเชื่อมทันที

“ว้าย!”

“มานี่”

ชายหนุ่มตั้งใจจะสั่งสอนบางอย่างให้รู้ว่า คนอย่างทรงฉัตรไม่ใช่คนที่ใครจะมาออกคำสั่งให้ทำโน่นทำนี้ หรือดูถูกกันได้ง่ายแบบนี้

“ตอนแรกผมก็ไม่คิดอยากได้ผู้หญิงที่ใส่พานเอามาวางถึงที่หรอก แต่พอมาคิดอีกทีไอ้เรื่องผลประโยชน์คุณยังให้ผมมากกว่าเลย เพราะฉะนั้นเห็นทีผมต้องขอบคุณซะหน่อยแล้ว” ว่าแล้วใบหน้าคมก็โน้มหาอรพิมทันที

“โอ๊ย!” ทรงฉัตรร้องเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวด

“อย่ามายุ่งกับฉัน หลังแต่งงานคุณก็อยู่ของคุณไป ห้ามมารุ่มร่ามเด็ดขาด ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน ที่สำคัญฉันไม่พิศวาสผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาสหรือใช้กำลังกับคนที่อ่อนแอกว่า ถ้ามีคราวหน้าอีกรับรองว่าคุณเตรียมสูญพันธุ์ได้เลย”

หญิงสาวเชิดใส่เดินเยื้องกรายราวกับนางพญาในมาดของท่านประธานออกจากห้องไป อย่างไม่สนใจว่าทรงฉัตรจะเจ็บปวดแค่ไหนกับจุดยุทธศาสตร์ที่โดนหัวเข่าเข้าไปเต็มๆ ยังน้อยไปด้วยซ้ำ เห็นทีอรพิมคงต้องเตรียมหาวิธีรับมือกับการอยู่ร่วมบ้านกับผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาสอย่างทรงฉัตรแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel