3
“บ้านทรายน่ะมีสุนัขหลายพันธุ์เลยนะคะ”
“เหรอครับ”
“พี่ไพรอยากดูไหมคะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“แหม... ปฏิเสธทรายแบบนี้ น้อยใจแย่เลย”
เธอทำท่ากระเง่ากระงอด เขามองหญิงสาวตรงหน้าแล้วขำจริงๆ ดูแต่งเนื้อแต่งตัวเข้า คือทำแบบนี้ใช่จะไล่เขาไปได้ แต่เขาเห็นการพยายามทำให้ตัวเอง “ทุเรศ” ของเธอแล้วขำ
นี่เขาไปแอบขำในห้องน้ำคนเดียวจนท้องคัดท้องแข็งไปหมดแล้ว
“เอ่อ... จะดีเหรอครับ”
“ดีสิคะ รับรองว่าดีแน่นอน” ทรายหวานรีบไปเปิดประตูกรงขังสุนัขทันที แต่เขาคิดว่ามันไม่ดีแน่ๆ
“เฮ้ย! โอ๊ย! คุณทรายไม่เล่นแบบนี้นะครับ ไม่เอาครับ”
“ช่วยด้วย ช่วยด้วยครับ! หมาไล่กัดตูด! โอ๊ย!” ทรายหวานหัวเราะท้องคัดท้องแข็งแทบจะลงไปนอนดิ้นพลาดๆ กับพื้นสนามหญ้าหน้าบ้าน
“ตายแล้ว!” คุณสุขใจยกมือขึ้นทาบอก เมื่อเห็นว่า... ว่าที่ลูกเขยวิ่งหนีอุตลุด สุดท้ายปีนขึ้นไปคาอยู่บนรั้วบ้าน
“ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยผมที” ชายหนุ่มร้องเสียงหลง ขาเขายังห้อยโตงเตงอยู่ข้างๆ รั้ว มือเกาะกำแพงรั้วด้านบนแน่น
เกิดมาไม่เคยเรียนวิชานินจา แต่มันมาเองอัตโนมัติ...
“โอ้โห... ว่าที่สามีของทรายเก๊งเก่งค่ะคุณพ่อคุณแม่ มาดูสิคะ ลำแขนแข็งแรง กล้ามเป็นมัดๆ ห้อยโหนได้นานมาก ไม่ตกลงมาเลย”
“ช่วยด้วยครับ” คนกลัวหมากัดตูดร้องเสียงโหยหวน ปราบกับสุขใจวิ่งออกไปหน้าตาตื่น
“หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้” ปราบไล่ต้อนสุนัขเข้ากรง ในขณะที่คุณสุขใจตรงเข้าไปหยิกบุตรสาวอย่างโมโห
“หยิกให้เนื้อเขียวเลยยัยทราย ทำแบบนี้ได้ยังไง” ร่างของคนที่เกาะกำแพงบ้านอยู่ร่วงลงมานอนแอ้งแม้ง หอบหายใจอย่างน่าสงสาร
เรียกว่านอนหมดสภาพกันเลยทีเดียว
“เจ็บนะคะคุณแม่ ดูสิเนื้อเขียวหมดแล้ว ผู้ชายเขาคิดเรื่องรอยแผลเป็นด้วยนะคะ จุดนึงโดนลดสินสอดแสนนึงไม่รู้ด้วยนะ” คนหน้าทะเล้นแกล้งร้องและวิ่งหนี แลบลิ้นใส่ว่าที่คู่หมั้นที่นอนหอบหายใจแทบ
ทำท่าจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น!!!
“เป็นไงบ้างดม ว่าที่เมียฉัน นิสัยเป็นยังไงบ้าง”
ไพรวัลย์เอ่ยถามลูกน้องคู่ใจที่ให้ปลอมตัวเป็นเขาไปทำความรู้จักกับว่าที่เมีย
นี่ถ้าไม่เพราะพินัยกรรมของบิดามารดาที่ระบุเอาไว้ว่าถ้าเขาไม่แต่งงานกับยัยผู้หญิงชื่อแปลกประหลาดนั่น เขาคงไม่ต้องลงทุนทำถึงขนาดนั้น
คนอย่างเขานี่นะ!
ผู้หญิงรายล้อมรอบกาย ทำไมจะต้องไปขอผู้หญิงที่ไม่รู้จักหน้าค่าตาหรือนิสัยใจคอมาแต่งงานด้วย
โอ๊ย! คิดแล้วกลุ้มหนัก
“คุณทรายเธอแสบมากนะครับนาย ปล่อยหมาไล่ฟัดผมเกือบไม่รอด แถมยัง... อย่าให้ผมเล่าเลยครับ”
“เล่ามาสิวะ กูอยากรู้ มึงรับมือได้อยู่แล้ว”
สดมภ์เล่าไป แทบร้องไห้ แต่ปลายสายหัวเราะชอบใจ
“กูชักชอบหล่อนแล้วว่ะ แบบนี้ค่อยสูสีสมน้ำสมเนื้อกันหน่อย”
“เจ้านายมาเองสิครับมาดูให้เห็นกับตา” สดมภ์ประชดเจ้านายหนุ่ม ส่งเขามาเป็นหน่วยกล้าตาย (ที่เกือบตาย) เอาชีวิตไม่รอดแล้วไหมล่ะ
“ฉันไม่ว่าง งานยุ่ง แกก็รับหน้าไปก่อน แล้วชวนมาเที่ยวไร่”
“โอ๊ย! คุณทรายไม่ไปหรอกครับ เธอทำท่าอยากขึ้นคานซะขนาดนั้น” สดมภ์ปฏิเสธหัวชนฝา
“ไม่รู้แหละไอ้ดม มึงคิดแผนหลอกล่อหล่อนมาให้ได้ก็แล้วกัน ถ้าฉันไม่ได้แต่งงานกับยัยผู้หญิงชื่อประหลาดนั่น ทรัพย์สมบัติจะต้องตกเป็นของการกุศลนะโว้ย แกก็จะตกงานไปด้วย”
“ผมจะลองพยายามดูครับ”
“ลองไม่ได้โว้ย ต้องพยายามทำให้สำเร็จ”
“ครับเจ้านาย” สดมภ์รับปากแล้วกดวางโทรศัพท์ เขาโทรไปหาบิดามารดาของหญิงสาว คุณสุขใจเป็นคนรับโทรศัพท์ก่อนจะนัดแนะให้บุตรสาวไปกินอาหารกันยังร้านที่บรรยากาศโรแมนติกในวันพรุ่งนี้
“แม่จะให้ทรายไปกินข้าวกับอีตานั่นเหรอคะ” คนนั่งดูการ์ตูนอยู่ถึงกับหน้างอ กลิ้งไปมาบนเตียงเพื่อประท้วง
“ไปเถอะ พี่เขานิสัยดีนะ พ่อกับแม่ดูแล้ว สุภาพเรียบร้อยขนาดนี้ หนูจะหาผู้ชายที่ทนหนูได้ขนาดนี้ไม่มีอีกแล้วนะทราย”
“แหม... คุณแม่ใช้ศัพท์สูง จนหนูดูเป็นคนเลวร้ายไปเลยนะคะ” ทรายหวานประชดมารดา
“เชื่อแม่สิ แต่งงานน่ะดีแล้ว แก่ตัวไปจะได้สบาย”
“คุณพ่อกับคุณแม่ก็รวยอยู่แล้วนี่คะ หนูแก่ตัวไปไม่มีสามีก็สบายอยู่แล้ว”
“อะไรกันจ้ะ นี่เงินพ่อกับแม่หามาเหน็ดเหนื่อย เอาไว้ใช้ตอนแก่ ใครจะให้ลูกกันล่ะ?”
“ห๊ะ! คุณแม่ว่าอะไรนะคะ” ทรายหวานใบหน้าเหลอหลา
“คุณแม่พูดเล่นใช่ไหมคะ”
