บทที่ ๓ ตามหาเพื่อเอาคืน 3
นพนทียืนรออยู่หน้าประตูบ้านไม่นานนัก ร่างเพรียวบางที่มีใบหน้าบึ้งตึงก็เดินกระฟัดกระเฟียดตามมา ทว่าก็ชะงักท่าทางเหล่านั้นลงทันทีที่เหลือบไปเห็นชายหนุ่มยืนมองอยู่
ปุษยาเบนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาคมกริบคู่นั้น เรียวปากบางที่เห่อบวมเล็กน้อยเม้มเหยียดเป็นเส้นตรง เมื่อนึกถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในห้องนอนขึ้นมาอีก น้ำตาก็พานจะไหลเสียให้ได้
นพนทีเองก็ใช่ว่าจะรู้สึกดีนัก หลังจากมายืนคิดทบทวนถึงสิ่งที่ทำลงไป เขาก็เห็นว่าบทลงโทษที่มอบให้เธอรุนแรงเกินสมควร ปุษยาเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนกร้านโลก แต่ปฏิกิริยาของเธอบ่งบอกชัดเจนว่ายังไร้เดียงสานัก การถูกผู้ชายที่ไม่ชอบหน้าล่วงเกินเอาถึงเพียงนี้ เธอคงอับอายและโกรธแค้นจนแทบกระอักเลือดเลยทีเดียว
แต่ก็นั่นแหละ...ผู้หญิงไฮโซที่คิดว่าเงินและอำนาจเนรมิตทุกอย่างได้ สมควรได้รับบทเรียนราคาแพงแบบนี้อยู่เหมือนกัน แม้ในใจจะคิดว่าตัวเองทำตัวเกินเลยไป แต่นพนทีก็ยังไม่วายหาเหตุผลมาลบล้างความผิดนั้นจนได้
บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักแถวชานเมืองของบิดา ซึ่งภายหลังท่านได้ส่งมอบมันเป็นของขวัญชิ้นหนึ่งให้แก่นพนทีแล้ว
บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเปลี่ยว ที่ตั้งของบ้านก็ตั้งอยู่ในซอยลึก กว่าคนของเขาจะพาปุษยามาขังไว้ที่นี่ได้สำเร็จ ก็ขับรถหลงทางหลายรอบอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าหญิงสาวไม่มีทางรู้แน่ว่าถูกพาตัวมาขังไว้ที่ไหน และใครที่เป็นเจ้าของของบ้านหลังนี้
“กระเป๋าของคุณอยู่ในรถผม” นพนทีเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน แต่ปุษยาทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดเขา
“พยายามทำตัวง่ายๆ ก็ดีนะปุษยา คุณจะได้ไม่ต้องเสียหายมากไปกว่านี้” ชายหนุ่มรู้ดีว่าประโยคนี้จะช่วยให้เธอยอมเปิดปากพูดอะไรออกมาบ้าง และมันก็เป็นตามคาดจริงๆ
“เลิกขู่ฉันซะที!”
“อยากลองดูมั้ยล่ะว่าผมขู่หรือว่าจะทำจริงๆ”
ว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ตรงไปหาเธอทันที
“ไม่! ไม่ต้อง!...เอากระเป๋าของฉันคืนมาสิ แล้วนายจะไปไหนก็เชิญ ฉันดูแลตัวเองได้”
“เอางั้นก็ได้นะ...ถ้าคุณอยากหาคนอื่นมาต่อเรื่องเมื่อกี้ให้จบ บางทีอาจจะได้หลายคนเลยด้วย เพราะแถวนี้เปลี่ยวมาก มีข่าวฆ่าข่มขืนก็บ่อย” นพนทีเดินตรงไปที่รถยนต์ เปิดประตูออกแล้วหยิบกระเป๋าสะพายใบสวยมาส่งคืนให้เจ้าของ
“เอ้า รับไปสิ” เขาเร่งอีกเมื่อเห็นเธอยืนนิ่ง ใบหน้าซีดเผือด
“ฉันจะไปด้วย เอาไว้คิดค่าเสียเวลามาก็แล้วกัน”
สุดท้ายปุษยาก็เอ่ยโดยไม่มองหน้าชายหนุ่ม
“แหม ใจดีจังแฮะ นอกจากมีบริการไล้เล็มเรือนร่างฟรีแล้ว ยังมีเงินแถมเป็นออฟชั่นเสริมอีก”
“ไอ้บ้า! หยุดพูดจาทุเรศๆ แบบนี้ได้แล้วนะ จริงอยู่ที่ฉันสั่งให้คนไปกลั่นแกล้งคนของนาย แต่นั่นมันก็แค่เรื่องเล็กน้อย ต่างจากสิ่งที่นายทำกับฉัน...” หญิงสาวต่อว่าเขาทั้งน้ำตา “นายทำให้ฉันรู้สึกสกปรกไปทั้งตัว ถ้ายังมีความเป็นคนอยู่...นายคงคิดได้เองว่าไอ้เรื่องที่ทำกับฉันน่ะมันเกินไปจริงๆ!” พูดจบปุษยาก็กระชากกระเป๋าจากมือนพนที แล้วเดินไปนั่งรออยู่ในรถ
นพนทีขยับจะเดินตามไป แต่เมื่อเห็นหญิงสาวปิดหน้าร้องไห้อย่างหนักอยู่ในรถ เขาก็หยุดฝีเท้าลงเพียงเท่านั้น เห็นแบบนี้แล้วก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ สิ่งที่ปุษยาพูดนั้นถูกต้องที่สุด ถ้าเขายังมีความเป็นคนหลงเหลืออยู่ ควรจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าสิ่งที่ทำกับเธอมันเกินขอบเขตมากเกินไป
ชายหนุ่มถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปเปิดประตูรถ แล้วคว้าข้อมือบางให้ตามลงมา ปุษยาพยายามสะบัดข้อมือหนีการจับกุม แต่นพนทีไม่ยอมปล่อย
“อะไรอีกล่ะ! คิดจะทำอะไรฉันอีก!” หญิงสาวโวยวายเสียงดัง
“เอาล่ะๆ หยุดโวยวาย หยุดร้องไห้ แล้วฟังผมให้ดีๆ”
“ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งนายด้วย!”
“เพราะตอนนี้ชีวิตคุณขึ้นอยู่กับผมน่ะสิ!” นพนทีชักหัวเสียขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อเขาแสดงท่าทางกราดเกรี้ยวออกมา ปุษยาก็ดูว่าง่ายขึ้นแทบจะทันที เห็นได้ชัดว่าการกระทำที่ดีและคำพูดที่สุภาพ ไม่ได้ทำให้คนทุกคนยอมรับฟังเสมอไป
อย่างน้อยก็ปุษยาคนหนึ่งนี่แหละ...ที่ดูจะชอบให้เขาข่มขู่อยู่เรื่อย!
“ผมรู้ว่าผมทำรุนแรงเกินไป แต่คุณก็น่าจะย้อนมองตัวเองบ้าง” นพนทียอมปล่อยข้อมือเธอ และยืนกอดอกด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“หมายความว่ายังไง?” ปุษยาถามห้วนๆ
“ก็หมายความว่าคุณทำตัวเองน่ะสิ คุณรู้ตัวบ้างมั้ยว่าไอ้การกระทำที่ชอบดูถูกคนอื่นน่ะมันน่ารังเกียจมาก จริงอยู่ที่คุณรวย คุณมีอำนาจ คุณสวย คุณเป็นคุณหนูไฮโซ...แต่คุณไม่ควรใช้สิ่งเหล่านั้นยกตัวเองอยู่เหนือคนอื่น เหมือนอย่างที่คุณใช้ให้คนมาจับตัวเลขาของผมไปทั้งที่เธอไม่เคยทำอะไรให้คุณเลย เธอไม่รู้จักคุณเลยด้วยซ้ำ แต่คุณก็ยังทำให้เธอเสียขวัญ”
“นี่นาย!”
“เห็นมั้ย...คุณยังยอมรับความจริงในสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป แล้วคุณคิดว่าคนอื่นจะพอใจเหรอที่ต้องมาโดนคุณดูถูกถากถาง”
“ฉันไปดูถูกใครตอนไหน ไม่รู้อะไรก็อย่ามาทำเป็นพูดมากเลย!”
“ผมเนี่ยนะไม่รู้อะไร นี่คุณลืมไปแล้วเหรอว่าครั้งแรกที่เราเจอกัน คุณหาว่าผมเป็นคนสวนที่แอบเอารถเจ้านายออกมาขับ แล้วไหนจะเรื่องที่คุณใส่ร้ายพนักงานที่บริษัทวารีพิทักษ์นั่นอีกล่ะ อย่าคิดนะว่าผมไม่ได้ยิน”
“นาย!...นายก็หาว่าฉันเป็นคนรับใช้เหมือนกัน!”
“ใช่! แต่มันเป็นเพราะคุณดูถูกผมก่อน รู้มั้ยว่าผมเองก็ร่ำรวยหรือมีอำนาจไม่น้อยไปกว่าคุณหรอก ผมต่างจากคุณก็ตรงที่ผมคิดเป็นว่าควรจัดการกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ยังไง ควรใช้มันให้เกิดโทษหรือประโยชน์ ไม่ใช่คุณที่เอาแต่ใจตัวเองเป็นสำคัญ”
“แล้วนายจะมาสั่งสอนฉันทำไม ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน!”
“ถูกต้อง มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แต่ที่ผมพูดมาทั้งหมดเนี่ย เพื่อจะทำให้คุณรู้ว่าทำไมผมถึงทำกับคุณเกินกว่าเหตุ” นพนทีขยับเข้าหาหญิงสาวมากขึ้น “ก็เพราะว่าคนอย่างคุณมันไม่มีทางสำนึกยังไงล่ะ!”
“นาย!” ปุษยาถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ มือบางกำแน่นจนเล็บทิ่มแทงฝ่ามือ นึกอยากตบหน้าผู้ชายปากดีสักฉาด แต่ความกล้ามีน้อยเกินไปในเวลาแบบนี้
“ตอนแรกผมคิดว่าจะขอโทษคุณ แต่ผมคิดว่าไม่จำเป็นแล้ว ผู้หญิงอย่างคุณมันต้องโดนแบบนี้แหละ บางทีผมอาจจะทำผิดก็ได้ที่ไม่พาคุณขึ้นสวรรค์ แต่ถ้าจะให้ต่อตอนนี้...ไม่ไหวหรอก ผู้หญิงที่สวยแต่รูป ส่วนข้างในเน่าเฟะ ไม่มีคุณค่าสำหรับผู้ชายดีๆ คนไหนหรอก”
“สารเลว!” ความโกรธทำให้ปุษยาสะบัดมือเล็กเข้าไปที่แก้มซ้ายของชายหนุ่มเต็มแรง “อย่าคิดนะว่าฉันต้องการคำขอโทษจากนาย ถึงนายจะกราบลงแทบเท้าฉัน ฉันก็ไม่มีทางยกโทษให้ เอาแต่พูดว่าตัวเองเป็นคนดี ไม่มีผู้ชายดีๆ ที่ไหนคิดจะจับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้มาขังไว้ ใช้ปืนขู่ให้กลัวจนตัวสั่น แล้วยัง...แล้วยังทำเรื่องทุเรศๆ อีก!”
“ใช่ ไม่มีผู้ชายดีๆ ที่ไหนรังแกผู้หญิงหรอก แต่นั่นมันสำหรับผู้หญิงดีๆ เท่านั้น อ๋อ...ส่วนปืนนั่นมันเป็นแค่ไฟแช็คนะ ถ้าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครก็ช่วยเล่าให้ถูกด้วยว่าผมใช้ไฟแช็คขู่ให้คุณกลัว ที่สำคัญอย่าลืมไปล่ะว่าผมมีวิดีโอเด็ดๆ อยู่ และผมก็กำลังหาวิธีเพิ่มพูนรายได้อยู่พอดี”
“นายมันเลวที่สุด!”
“หญิงร้ายกับชายเลวมันก็เข้ากันดีนี่นา หรือคุณคิดว่ายังไงล่ะ” นพนทียักไหล่ พยายามไม่สนใจเรื่องที่เธอบังอาจตบหน้าเขา อย่างน้อยก็ถือเสียว่าแลกกับสิ่งที่ทำเกินเลยไปก็แล้วกัน
ชายหนุ่มจงใจเดินเบียดร่างบางจนเซเสียหลัก เพื่อจัดการปิดประตูบ้านให้เรียบร้อย หลังจากนั้นเขาก็เดินตรงไปที่รถ ไม่ลืมหย่อนระเบิดลูกสุดท้ายเอาไว้ด้วย “อยากมีสามีพร้อมกันเป็นสิบก็ยืนอยู่นี่แหละ แต่ถ้าอยากได้ผมคนเดียวก็รีบขึ้นรถซะ”
แน่นอนว่าปุษยาไม่อาจทำอะไรได้เลย นอกจากยืนกระทืบเท้าเร่าๆ อย่างขัดใจ แล้วสุดท้ายก็ต้องเดินตามนพนทีไปอย่างไม่มีทางเลือก ทันทีที่กลับไปถึงบ้านเมื่อไหร่ เธอจะคิดหาทางเอาคืนเขาให้ได้ ผู้ชายที่กล้าลวนลามและด่าว่าเธอเสียๆ หายๆ จะต้องได้รับบทลงโทษที่สาสม และเขาจะไม่มีวันลืมชื่อของเธอได้อีกตลอดชีวิต!
