บท
ตั้งค่า

Chapter 2 : จนหนทาง (2)

ลี่หมิงขนลุกซู่ไปทั้งแผ่นหลังพร้อมกับแก้มใสก็เริ่มแดงระเรื่อ ทั้งที่แอลกอฮอล์ยังไม่เข้าปากสักหยด แต่เป็นเพราะประโยคนั้นทำให้เธอเสียอาการอย่างหนัก ทำให้รู้สึกเสียววูบวาบที่ท้องน้อยขึ้นมาพิกล

หากแต่ประโยคเสี่ยวๆ นั้นดันไม่ใช่คำพูดที่ออกจากปากของชายตรงหน้า...

ด้วยความสงสัยว่าผู้ใดกันที่เป็นเจ้าของประโยคนั้น ลี่หมิงจึงตัดสินใจหันไปยังชายหญิงวัยรุ่นที่โต๊ะด้านหลัง ซึ่งกำลังเกี้ยวพาราสีกันอย่างออกรสออกชาติ

"หรือจะสั่งเครื่องดื่มก่อนก็ได้นะครับ"

บาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยขณะเช็ดแก้วไวน์ในมือของตน พร้อมกับส่งยิ้มเล็กๆ อย่างอ่อนน้อมมาให้ ท่าทีของเขาทำให้ลี่หมิงหัน กลับมายังเคาน์เตอร์ และทำได้แต่พยักหน้าเออออเห็นด้วย ราวกับคนซื่อบื้อโดยไม่อาจละสายออกมาจากเขาได้แม้แต่วินาทีเดียว

"รับวอดก้า จินโทนิค หรือว่าเบอร์เบิ้นดีครับ?"

"เอ่อ..."

ลี่หมิงได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ด้วยความงุนงง เพราะแต่ละเมนูที่เขาเอ่ยมานั้นเธอแทบจะไม่เคยได้ยิน หรือลองชิมมันเลยสักครั้ง

"เอาอะไรก็ได้ที่ เอ่อ...ไม่แรง"

"หมายถึงดีกรีใช่ไหมครับ?"

"มะ…หมายถึงราคาค่ะ"

หางเสียงหวานหยดที่ตอบโต้ไปมานั้น ทำให้บาร์เทนเดอร์ หนุ่มเผลอเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ และเผลอมองเครื่องหน้าใสภายใต้เส้นผมสีเข้มรองทรงอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะฉุกใจคิดได้ว่ามันช่างเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพเอาเสียเลย เขาจึงทำเพียงคลี่ยิ้มและพยักหน้าเบาๆ ให้กับลูกค้าสาวสุดหล่อของตนเท่านั้น

"กรุณารอสักครู่นะครับ"

ขณะที่ลี่หมิงกำลังดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงเพื่อรออาหารมาเสิร์ฟ แก้วทรงสูงที่มีน้ำสีแดงลอยตัวอยู่บนผิวน้ำสีเหลืองอำพัน ก็ถูกเลื่อนมาตรงหน้าพร้อมกับเสียงทุ้มเข้มที่ภูมิใจนำเสนอ

"ชื่อของเมนูนี้คือ Enchanted Sunset "

ดวงตาคู่ใสมองตามนิ้วเรียวยาวของเขา ที่แตะข้างแก้วเบาๆ

"สีแดงคือน้ำเชื่อมจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ราดบนน้ำบ๊วยผสมเหล้าจีนอ่อนๆ เหมาะกับสาวลุคเท่ๆ แต่ข้างใน... อ่อนหวาน"

"...?"

"หวังว่าคุณจะชอบนะครับ"

ทั้งจังหวะการพูดที่แสนชำนาญ รอยยิ้ม และน้ำเสียงที่ฟังดูเซ็กซี่ ทุกอย่างที่รวมเป็นผู้ชายคนนี้ ทำให้สาวน้อยหัวใจบอบบางอย่างลี่หมิง เดินเข้าสู่กับดักแห่งมนต์เสน่ห์ยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าของเขาด้วยความเต็มใจ

ไม่ใช่เพียง Enchanted Sunset แต่ยังมี Midnight Castle , Purple Valentine และเครื่องดื่มที่จำชื่อไม่ได้อีกสี่แก้ว วางเรียงอยู่ตรงหน้าของลี่หมิงพร้อมกับจานอาหารสองใบที่ว่างเปล่า

"เอามาอีกแก้ว ค่า~"

"คุณเมาแล้ว ผมว่าพอก่อนเถอะครับ"

บาร์เทนเดอร์ยื่นแก้วน้ำเปล่ามาให้ ด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย แต่ดูท่าว่าตอนนี้เจ้าตัวจะตาลายจนไม่ได้สังเกตเห็นมัน

ลี่หมิงผู้ไม่ค่อยสันทัดกับเครื่องดื่มเหล่านี้ก็ถึงกับเมาหัวทิ่ม เพราะก่อนหน้านี้เธอได้มีโอกาสดื่มเพียงเบียร์ดีกรีอ่อนๆ ไม่ก็สาเกในงานพิธีสำคัญของตระกูลเท่านั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเจอบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ที่ราวกับหลุดออกมาจากแมกกาซีน แถมยังชงเหล้าได้อร่อยถูกปากบริการถูกใจแบบสุดๆ

จึงไม่แปลกใจเลยที่สาวใหญ่ในแวดวงที่เธอรู้จัก ชอบนัดกันมาสถานที่แบบนี้ เพราะการที่ถูกทรีตแบบคนพิเศษมันทำให้กระชุ่มกระชวยหัวใจแบบนี้นี่เอง

- ห้ามนั่งเคาน์เตอร์ของร้าน

โดยเฉพาะร้านที่บาร์เทนเดอร์โคตรหล่อ -

'เพราะถ้านั่งตรงนี้ เธอจะต้องหมดเนื้อหมดตัว'

'และมีสภาพแบบนี้ไงล่ะ...ลี่หมิง!~'

แต่ถึงอย่างนั้น อีกใจหนึ่งของเธอก็ให้ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่า

'คราวหน้า...'

'ถ้าไม่ถูกพ่อจับไปกักบริเวณอีก หรือมีชีวิตรอดไปถึงวันพรุ่งนี้'

"...ค้าครับ"

'ฉันจะต้องกลับมาหาคุณอีกให้ได้~'

.

.

"คุณลูกค้าครับ"

"คะ!?"

ลี่หมิงที่กำลังเหม่อลอยและเริ่มเมาได้ที่สะดุ้งสุดตัว เมื่อถูกบาร์เทนเดอร์สุดหล่อเรียกในระยะที่ใกล้มาก จนแทบจะได้กลิ่นโคโลญจน์จากกายของเขา

"วะ... ว่างายคะ?"

"ผ้าเย็นครับ"

เขายื่นถาดที่มีห่อพลาสติกใส่ผ้าเย็นมาให้เธอ แต่มือเล็กที่กำลังเอื้อมไปหยิบก็ชะงักค้างกลางอากาศ

"ฟรี...ม้ายคะ?"

คำถามใสซื่อของเธอดึงความสนใจของบาร์เทนเดอร์ หลังเคาน์เตอร์อีกคนให้หันมามอง ก่อนที่บาร์เทนเดอร์รูปหล่อจะพยักหน้าให้เธอเบาๆ เป็นคำตอบ ทำให้ลี่หมิงกล้าหยิบมาใช้โดยไม่ต้องห่วงว่างบประมาณจะบานปลาย

"คุณเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกเหรอครับ ทำไมผมไม่คุ้นหน้าเลย?"

บาร์เทนเดอร์หนุ่มร่างบอบบางอีกคน ที่ทำผมสีน้ำเงินเทาและยิ้มง่ายดูเป็นมิตรกว่าเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"เพิ่งมาครั้ง... อึก!"

ลี่หมิงสะอึกอย่างแรงและกลืนคำพูดนั้นลงคอไป ก่อนจะเรียบเรียงประโยคคำพูดในหัวของตนใหม่อีกครั้ง

"มาเปิดหู... เปิดตา...ชาหลองเรียนโจบค่า~"

"ว้าว ยินดีด้วยนะครับ!"

บาร์เทนเดอร์คนเดิมเอ่ยด้วยรอยยิ้มตื่นเต้น และยื่นกระบอกน้ำดื่มโลหะของตน มาชนแก้วน้ำเปล่าของลี่หมิงเบาๆ

"แล้วฉลองเสร็จจะกลับบ้านเลย หรือไปต่อที่ไหนครับเนี่ย?"

"ช่ายช้านจะปายร้านเกม... แถวเน้มีม้ายค้า~"

"มีสองร้านครับห่างไปสองช่วงตึก"

"อีก...สอง อารายนะ?"

"อีกสองตึกขึ้นไปทางเหนือครับ ส่วนอีกร้านก็อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน J เดินไปประมาณ 15 นาที แต่วันหยุดแบบนี้คนน่าจะเยอะนะครับ"

บาร์เทนเดอร์ผมสีน้ำเงินเอ่ยขึ้น ขณะที่กำลังชงเครื่องดื่มให้กับลูกค้าสาวสวย ซึ่งตอนนี้กำลังเขียนบางอย่างลงบนทิชชู ก่อนจะเลื่อนกระดาษนั้นผ่านหน้าลี่หมิงไปให้บาร์เทนเดอร์รูปหล่อ

ป้าบบ!!

"ว้ายยย!!"

ลี่หมิงที่กำลังกรึ่มได้ที่ฟาดมือตะปบกระดาษแผ่นนั้น ก่อนจะนำมันมาเช็ดปากของตน ท่ามกลางเสียงร้องอุทานด้วยความตกใจของสาวงาม

"ขอบคูนน้าาา~"

"ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย!!?

"กามลังปากเปื้อนพอดีเลย ฟืดดด... ทิชชูหอมจัง~"

แต่เธอก็ไม่สนใจได้แต่กำทิชชูในมือไว้แน่น และนั่งมองบัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัดของตน ที่ตอนนี้เป็นเพียงแผ่นพลาสติกแข็งไร้ค่าไปเสียแล้ว

ตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของลี่หมิงพร่ามัว จนเห็นบาร์เทนเดอร์รูปหล่อแตกหน่อไปแล้วกว่าสามร่าง จนต้องสะบัดหน้าหลายทีเพื่อให้ภาพซ้อนหายไป ทั้งที่หัวก็หนักอึ้งจนแทบประคองไม่ไหว ตอนนี้จึงทำได้เพียงนั่งเท้าคาง เพื่อหวังว่าความหล่อของเขาจะทำให้สร่างเมา

'ให้ตายเถอะ..'

'แค่คนเดียวฉันก็หลงจะแย่แล้ว แต่นี่มีตั้งสาม~'

.

.

'คนอะไรโคตรหล่อ'

'หล่อจนอยากให้ลูกน้องมาอุ้มกลับบ้าน...อยากเก็บไว้นอนดูเล่นคนเดียว'

'ไม่ต้องแบ่งใครเลย!~'

ลี่หมิงตวัดสายตามองสาวสวยข้างๆ ด้วยแววตาพร้อมเปิดศึกเต็มที่ แต่ยังไม่ทันได้ทำตามใจนึกเวลาแห่งความรื่นรมย์ก็มักจะแสนสั้นเสมอ...

ครู่ต่อมาเสียงดนตรีสดบนเวทีหยุดลงก่อนถูกเปลี่ยนเป็นดนตรีบรรเลงช้าๆ ลูกค้าภายในร้านก็พร้อมใจกันเรียกบริกรมาเคลียร์บิลและทยอยออกจากร้านไป

"ร้านจาปิดแล้วเหรอ? ~"

"ใช่ครับ เมาขนาดนี้จะกลับยังไงครับ?"

"ม่ายต้องห่วง... ขอบคูนพวกคูนมาก... "

"คุณครับแล้วบัตรเครดิตใบนี้?"

บาร์เทนเดอร์ผมสีน้ำเงินเดินเอาบัตรมาคืนให้ แต่ลี่หมิงกลับร่อนมันออกไปนอกร้านท่ามกลางความงุนงงของทุกคน

"ช้ายม่ายด้ายแล้ว ทิ้งปายเล้ยยย!~ "

"!?"

"ว้ายจามาหม่ายน้า~"

ลี่หมิงวางเงินสดทั้งแบงค์และเหรียญไว้บนเคาน์เตอร์อย่างแรง แม้จะเกินมาหลายสิบหยวนแต่เมื่อบริกรนำมาคืน เธอก็เอาแต่โบกมือหย็อยๆ และเดินเอาฮู้ดคลุมศีรษะออกมาจากร้าน ด้วยสภาพที่น่าเป็นห่วงพร้อมกับลูกค้ากลุ่มสุดท้าย

10 นาทีต่อมา

แม้ว่าเวลาจะผ่านมาพอสมควร จนคนที่ออกมาพร้อมกับลี่หมิงขึ้นรถเดินทางกลับบ้านกันไปบ้างแล้ว แต่คุณหนูตกยากผู้นี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิม และเดินโซเซไปกับฝูงชนที่หลั่งไหลออกจากร้านเหล้ามารวมตัวกันจนเต็มถนน

ลี่หมิงยังคงเดินวนไปมาหลงทิศทางด้วยความสับสน ท่ามกลางเสียงเพลงจากทุกร้านที่เปิดแข่งส่งท้ายค่ำคืนนี้กันอย่างคึกคัก จนเธอปวดแก้วหูและส่งผลให้ภาพที่เห็นพร่ามัวกว่าเดิม เพิ่มเติมคือภายในหัวที่หมุนคว้าง จนต้องเท้าแขนยันผนังเพื่อประคองร่างกายตัวเองเอาไว้ ก่อนที่จะล้มกลิ้งบนพื้นที่เฉอะแฉะและสกปรกเหมือนผู้ชายที่เธอเพิ่งเดินผ่านมา

"ไง!!"

เสียงร้องทักจากด้านหลังดังขึ้นทักทายกันดังเจี๊ยวจ๊าวระงมไปทั่วตรอกนั้น จนเธอต้องรีบปลีกตัวเดินออกมา

ขวับ!!

"...?"

แรงจับที่บ่าทำให้ร่างที่อ่อนเปลี้ยของเธอ หันไปเผชิญหน้ากับชายแปลกหน้าร่างสูงที่สวมหมวกแก๊ปทั้งสองคน

"จะรีบไปไหนล่ะน้องชาย?"

"เมาแบบนี้ให้ไปส่งมั้ย?"

"ไม่...ม่ายต้อง"

"ถ้าอยู่แถวนี้ พวกเราคิดค่าน้ำมันไม่แพงหรอกนะ"

สิ้นประโยคนั้นลี่หมิงก็ถูกมือหยาบกร้านลูบคลำตามกระเป๋าเสื้อ และกางเกงอย่างจาบจ้วง

"ยะ... อย่า จะทามอารายวะ!?"

ความตื่นตระหนกแล่นเข้ามาจนแทบสร่างเมา ตอนนี้เธอพยายามออกหมัดสู้และดิ้นรน ถึงแม้ว่าหมัดที่ปล่อยออกไปจะปะทะหน้าอีกฝ่ายเต็มๆ แต่ไม่แรงมากพอที่จะทำให้เขาเซล้มได้

ผลั๊ว!!

"!!!?"

ผลั๊ว!!!!

หมัดลุ่นๆ ถากโดนโหนกแก้มของลี่หมิงจนมึนชาไปทั้งหน้า และอีกหมัดที่ต่อยเข้าท้องอย่างแรงจนร่างเล็กถลาไปชนกับรถเก๋งสีดำ ก่อนจะทรุดลงคุกเข่าบนพื้นด้วยความเจ็บปวด

ปี๊บ!! ปี๊บ! ปี๊บ!!!

"เวรแล้ว!!"

เสียงผู้ร้ายอุทานด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเสียงสัญญาณกันขโมยของรถคันนี้ดังขึ้น จนเสียดแทงเข้าไปในโสตประสาทของลี่หมิงอย่างรุนแรง ทำให้เธอฝืนลืมตาขึ้นมาเพื่อมองดูหน้าคนที่ทำร้ายเธอให้ชัดๆ แต่ทว่า

'มะ... ไม่มีแรงเลย'

"เอากระเป๋ามันมา แล้วรีบชิ่งกันเถอะ!!!"

เสียงเอะอะดังไกลออกไปเรื่อยๆ พร้อมกับกระเป๋าสะพายใบโปรดของเธอ แต่ตอนนี้ลี่หมิงไม่มีแรงจะวิ่งตามและทำได้เพียงนั่งตัวงออยู่บนพื้นข้างๆ โทรศัพท์มือถือสีดำ ที่กลมกลืนกับความมืดและถูกพวกโจรเหยียบจนหน้าจอแตก

'ปวด...'

.

.

'ปวดไปหมดทั้งตัวเลย'

มือที่สั่นเทาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มากอดไว้ นึกเจ็บใจที่พ่ายแพ้การต่อสู้ให้กับโจรกระจอกเพราะฤทธิ์เหล้า

'กลับ...บ้านตอนนี้'

'ดีหรือป่าว...อ๊ะ?!'

ความคิดของลี่หมิงขาดห้วงลงอย่างฉับพลัน เมื่อร่างของเธอถูกพยุงขึ้นจากพื้นอย่างแรงโดยไม่ทันตั้งตัว

"คุณ...!!?"

"อาป๊า"

.

.

"มาช่วยหนูแล้วเหรอ..."

'... มารับหนูกลับบ้านแล้วใช่ไหม?'

.

.

'กลับ... บ้าน'

วันต่อมา

"อา..."

เสียงหวานพึมพำด้วยความปวดร้าวไปทั้งหัว โดยเฉพาะโหนกแก้มซ้ายที่กำลังปวดหนึบได้ที่ และกระทุ้งเส้นประสาทอย่างจังจนเธอที่รู้สึกตัวเพราะเสียงรถ เสียงนกร้อง และเสียงพูดคุยของมนุษย์ที่ดังแว่วมาแต่ไกลก็ไม่อาจทำให้เธอข่มตาหลับต่อได้

"บ้าน..."

ดวงตาคู่สวยที่บวมเป่งและแสบตึง ค่อยๆ ลืมขึ้นรับแสงแดดยามเช้า ที่ส่องกระทบใบหน้าเข้าอย่างจัง

'บ้านของเรา... '

.

.

'ใช่เหรอ?'

คิ้วทั้งสองข้างขมวดจนแทบเป็นปม เมื่อกวาดสายตามองดูสภาพภายในห้องสีทึมที่ไม่คุ้นตา สมองก็สั่งการให้เธอรีบลุกขึ้นโดยไว แต่ไม่สามารถทำได้มากไปกว่าการพลิกตัวอย่างยากลำบาก

"… "

แต่เธอก็แทบอยากจะพลิกตัวหันหลังอีกครั้ง เมื่อพบว่าบนเตียงนอนหลังเดียวกันนี้มีร่างสูงโปร่ง ที่กำลังนอนคว่ำหน้าเปลือยท่อนบนอยู่ในสภาพที่กลับหัวกลับหางกับเธออยู่

'ซะ...ซวยแล้วไง...'

ลี่หมิงถึงกับหน้าซีดเผือดรีบคลำไปตามเนื้อตัว ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อบนร่างกายยังคงมีเสื้อผ้าครบทุกชิ้น และไม่ว่าจะเค้นสมองอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น มีเพียงเรื่องเดียวที่จำได้ก็คือถูกโจรกระทืบจนปวดตัวเจ็บใจจนถึงตอนนี้

'ละ...แล้วผู้ชายคนนี้ เป็นใครกันล่ะ?'

'แต่จะเป็นใครก็ชั่ง คนที่หิ้วผู้หญิงเมากลับห้องแถมยังพาขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกัน...ต้องไม่ใช่คนที่ดีแน่ๆ'

ความอยากรู้ระคนหวาดหวั่นทำให้เธอค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นช้าๆ และพยายามชะโงกหน้าไปมองคนที่กำลังนอนหลับสนิท จนหน้าแทบจะแนบชิดกับหัวเข่าเธออยู่รอมร่อ

ความระทึกเริ่มตีตื้นขึ้นมาในอกราวกับเกลียวคลื่น ก่อนที่มันจะสาดซัดเข้าฝั่งอย่างแรง จนปราสาททรายแห่งความอยากรู้ของเธอถล่มคลืนลงมา

'ไม่จริง!!'

.

.

'นี่มัน'

'บาร์เทนเดอร์รูปหล่อนี่?!!!!'

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel