บท
ตั้งค่า

Chapter 2 : จนหนทาง (1)

​ลี่หมิงวิ่งกระหืดกระหอบสุดชีวิต ไปตามตรอกเล็กในละแวกเพื่อนบ้านของตน จนมาถึงใจกลางมหานครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นย่านการค้าที่มีผู้คนพลุกพล่าน

 

'ที่นี่มัน...'

'หลังห้างที่เฉิงเหยี่ยนเคยพามาซ่อมกล้องนี่นา'

.

.

'นี่เราวิ่งมาจนถึงในเมืองเลยเหรอ!?'

 

การที่วิ่งมาไกลขนาดนี้เพียงลำพัง โดยไม่มีคนคุ้มกันเป็นครั้งแรกในชีวิต มันทำให้เธอทั้งตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน

 

"ทำอะไรอยู่!?"

"ฉันกำลังดู..."

"คุณหนูต้องระวังให้มากกว่านี้... ห้ามเหม่อเด็ดขาด"

"ค่ะ เข้าใจแล้วค่าผู้กอง!!"

 

จู่ๆ บทสนทนาเมื่อนานมาแล้วระหว่างเธอกับผู้ดูแลคนสนิทดังขึ้นมาในหัว เรียกสติของเธอไม่ให้หลงระเริงไปกับอิสระเบื้องหน้า ถึงแม้ว่าแสงสีและร้านรวงต่างๆ รอบตัวจะน่าตื่นตาตื่นใจ แต่สัญชาตญาณของลี่หมิงกลับบอกให้เธอถอยหลัง เดินกลับเข้าไปในตรอกตามเดิม

ลี่หมิงอาศัยความมืดเป็นที่ซ่อนตัว ขณะที่สายตากำลังสอดส่องไปรอบอย่างระมัดระวัง ไม่รู้เลยว่าคนที่เดินสวนไปมาจะมีคนที่รู้จักเธอปะปนอยู่หรือไม่

 

"กี่ทุ่มแล้วเนี่ย?"

จู่ๆ มือที่กำลังจะกดปุ่มเปิดเครื่องโทรศัพท์ก็หยุดชะงักลง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้พ่ออาจจะกำลังโทรหาเธออยู่ จึงได้เก็บมันไว้ในกระเป๋าสะพายตามเดิม แต่เมื่อดูจากผู้คนหลายช่วงวัย ที่ยังขวักไขว่เต็มท้องถนนจึงเดาไปว่าคงยังไม่ดึกมากนัก

 

'ต้องรีบหาที่ซุกหัวนอนก่อน'

 

จะหลบอยู่ที่นี่ทั้งคืนก็คงไม่ดี เธอกวาดสายตามองไปตามป้ายบนตึกแถว ที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟมากมาย จนกระทั่งสายตาหยุดตรงหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งดูสะอาดและไม่น่ากลัวเหมือนกับที่อื่นๆ

 

ลี่หมิงคลุมฮู้ดบนศีรษะอย่างมิดชิด และวิ่งข้ามถนนผ่านประตูโรงแรมเข้าไปในล็อบบี้

"ยินดีต้อนรับค่ะ สนใจที่พักของเราใช่ไหมคะ?"

เสียงหวานของพนักงานเอ่ยต้อนรับพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ ที่พร้อมจะรีดเงินในกระป๋าของคนที่ต้องการที่พักในคืนนี้ แต่ลี่หมิงซึ่งมีผู้ดูแลทำให้ทุกอย่าง ไม่เคยมาติดต่อเข้าพักโรงแรมด้วยตัวเอง ก็ถึงกับมีท่าทีเงอะงะงุ่มง่าม

"ค่ะ ช่วย... เอ่อช่วยแนะนำหน่อยนะคะ"

"ด้วยความยินดีค่ะ"

พนักงานสาวเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร พร้อมกับยื่นโบรชัวร์ให้ลี่หมิงดู"

มีห้องให้เลือกแค่คืนละ 460 หยวน เท่านั้นเหรอคะ?"

"ตอนนี้ห้อง 460 หยวนเหลืออยู่ 3 ห้อง ส่วนห้องสูท 720 หยวนเป็นห้องสำรอง 1 ห้องค่ะ"

ภาพจากโบรชัวร์ที่พนักงานยื่นให้อีกแผ่น ทำให้ลี่หมิงตัดสินใจว่าจะเลือกห้องสูทที่มีความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากกว่า

"เอาห้องนี้ค่ะ"

"สะดวกรับชำระเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตดีคะ"

ลี่หมิงยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน แต่เพียงครู่เดียวบัตรนั่นก็ถูกส่งคืนกลับมา

"เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ?"

"บัตรใช้ไม่ได้ค่ะ"

"ฮะ!!!?"

เสียงร้องตะโกนของลี่หมิงดังมาก ทำทุกคนในล็อบบี้หันมามองเป็นตาเดียว จนเธอต้องรีบหรี่เสียงลงด้วยความกังวล ที่ตอนนี้กำลังแล่นขึ้นมาในอกจนปั่นป่วนไปหมด

"หมายความว่ายังไงคะ?!"

"เอ่อ... ต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่บัตรใช้งานไม่ได้ค่ะ"

"ท... ทำไมล่ะคะ!!?"

หน้าของลี่หมิงถึงกับร้อนผ่าว ขณะที่ดันบัตรคืนให้พนักงาน

"ลองรูดอีกครั้งได้ไหมคะ เครื่องมันอาจจะเออเร่อก็ได้!!"

แต่บัตรก็ถูกพนักงานยื่นกลับมาอีกครั้ง เมื่อหน้าจอของเครื่องอ่านการ์ดยังคงแสดงผลแบบเดิม

"แต่ทางเรารับเป็นเงินสดด้วยนะคะ"

ลี่หมิงรับบัตรคืนมา และแหวกดูเงินในกระเป๋าด้วยใบหน้าถอดสี

 

'2...'

.

.

'3.. 370 หยวน'

'ไม่ใช่สิ ...นี่ฉันมี 374 หยวน เองเหรอ!!?'

 

"คะ...คุณลูกค้าคะ!?"

เสียงพนักงานร้องเรียกสียงหลง เมื่อเห็นลี่หมิงเดินลิ่วออกจากโรงแรมแห่งนั้นอย่างรวดเร็ว

เธอมุ่งหน้ากลับเข้าไปในตรอกเดิมที่เพิ่งจากมา และเตะฟรีคิกเข้าที่ลังไม้แถวนั้นเพื่อระบายอารมณ์

"ทำไมซวยขนาดนี้วะ!!!!"

 

ตุบ!!!! ตึง!!

 

'ป๊านะป๊า ต้องเป็นฝีมือเขาแน่ๆ!!'

 

"ย๊ากกก!!!"

 

ตึงงง!!!

เคร้งง!!! เคร้งงงง!

กล่องไม้ถูกเธอเตะจนล้มระเนระนาด ทำให้เศษเหล็กที่อยู่ภายในหล่นลงมาเกลื่อนพื้นและส่งเสียงดังไปทั่ว

"เฮ้ย!!!"

เสียงคำครามดังขึ้นกลางตรอก ทำให้ลี่หมิงชะงักฝีเท้าของตนก่อนที่จะปะทะเข้ากับลังไม้อีกใบ

"ไอ้หน้าหมาตัวไหน มารบกวนเวลานอนของกูวะ!!!?"

ชายร่างสูงผอมในชุดเสื้อผ้าหมองสี กว่าสี่คนที่กำลังนอนเอกเขนกบนพื้น โดยใช้ผืนผ้าใบสีเข้ม กล่องไม้ และความมืดเป็นเครื่องพรางตัวจึงทำให้ในตอนแรกเธอมองไม่เห็น

 

'…'

ลี่หมิงที่กำลังตื่นตระหนกได้แต่ยืนตัวแข็ง มองพวกเขายันกายขึ้นจากพื้นเต็มความสูง จนเธอถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมอง

 

'ซะ…ซวยแล้ว...'

 

"มึงนี่เองที่มากวนเวลานอนของ...."

ไม่ต้องรอให้ภัยมาถึงตัวหญิงสาวผมซอยสั้น ก็รีบสับเท้าแทบแตกแบบร้อยแรงม้า ออกมาจากตรอกนั้นอย่างไม่คิดชีวิต และพร่ำร้องในใจอย่างบ้าคลั่งด้วยความหวั่นกลัว เหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาใกล้ ปะปนกับเสียงดนตรีที่ดังอึกทึกจนเธอหลอนหูไปหมด

"แฮ่กๆๆๆ"

 

'ยังไม่ได้กินข้าว ...มะ'

.

.

'... ไม่มีแรงแล้ว~'

 

ลี่หมิงกัดฟันวิ่งฝ่าฝูงชนต่อไป โดยไม่รู้ว่าขาทั้งสองข้างมันกำลังพาเธอไปที่ไหน

"สาวน่ารักพร้อมบริการอยู่นะครับ สนใจไหมหนุ่มหล่อ~"

"ร้านเราดีกว่า มีโพแดนซ์ด้วยนะ~"

เสียงเรียกลูกค้าของบรรดาพนักงานหนุ่มรูปหล่อ และสาวนุ่งน้อยห่มน้อยจู่โจมเข้ามาหาลี่หมิงแบบประชิดตัว จนเธอต้องชะลอฝีเท้าลงและหันไปด้านหลัง ซึ่งว่างเปล่าไม่มีคนไร้บ้านน่ากลัววิ่งตามมาแล้ว

 

'ร... รอดแล้ว?'

 

"มาคนเดียวเปลี่ยวใจ เชิญร้านนี้ดีกว่า~"

ลี่หมิงทำเพียงส่ายหน้าปฏิเสธ และรีบแทรกตัวออกมาจากที่นั่น แต่ถนนที่ทอดยาวเกือบกิโลและบรรดาสาวสวยหนุ่มหล่อที่ยืนเรียงราย ก็คือบททดสอบที่เธอจะต้องผ่านไปให้ได้

 

จ๊อก~

โครกกก!!

เสียงท้องที่ดีดตัวร้องระงม ทำให้ลี่หมิงตัดสินใจกำเงินในกระเป๋า และมองหาร้านอาหารข้างทางซึ่งไม่มีเลยสักร้าน เว้นเสียแต่ร้านเล็กๆ ที่ไม่มีพนักงานเฝ้าเหมือนที่อื่น แถมยังมีเมนูอาหารติดอยู่บนผนังยั่วให้น้ำลายสอ

 

'แวะเติมพลังที่ร้านนี้ก่อน'

'จะนอนไหนก็ค่อยว่ากันอีกที'

.

.

'หรือไม่ก็ไปหลบที่ร้าน...อินเตอร์เน็ตคาเฟ่'

.

.

'จริงด้วย!!!'

'พวกผู้ชายที่โรงเรียนบอกว่าร้านพวกนี้เปิด 24 ชั่วโมงนี่นา'

 

แต่ปัญหาของเธอก็คือ…

 

'แล้วจะไปที่นั่นยังไงล่ะ?'

 

ลี่หมิงกำลังจะยื่นบัตรประจำตัวให้การ์ด แต่แต่เมื่อเห็นหน้าของลี่หมิงอีกฝ่ายก็ไม่สนใจจะดูมัน เธอจึงเก็บมันใส่กระเป๋าและรีบเดินเข้ามาในบาร์เก่าๆ ที่ฉาบผนังด้วยปูนเปลือยอย่างมีสไตล์ และถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยเครื่องเรือนสีเข้มคลาสสิก โดยเน้นโซนพิเศษอย่างเวทียกพื้นด้วยสไตล์ล็อฟ แตกต่างจากตึกเก่าที่ดูซอมซ่อภายนอกอย่างสิ้นเชิง

 

ฟิ้ว~

 

'!!!?'

ขณะที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้าน ลี่หมิงก็เกือบหลุดกรี๊ดออกมา เมื่อมีบางอย่างในความมืดสลัววิ่งตัดหน้าไปอย่างรวดเร็วจนเธอเกือบหงายหลัง

"อะ…อะไรอีกเนี่ย!!?"

"แม่!!!"

เสียงร้องเจี๊ยวจ๊าวของเด็กผู้ชายตัวน้อยดังขึ้น ขณะที่เขากำลังถือไก่ทอดวิ่งไปทั่วร้าน และไปหยุดอยู่ที่โต๊ะใหญ่ตรงมุมร้านที่ราวกับยกกันมาทั้งตระกูล

 

สิ่งที่น่าฉงนเหล่านั้นทำให้ลี่หมิงต้องเดินย้อนออกไปดูหน้าร้านอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าตนเข้าร้านถูกแน่แล้ว แต่เมื่อเจอกับการ์ดหน้าโหด เธอก็ถึงกับหน้าเจื่อนและรีบเดินกระย่องกระแย่ง กลับเข้ามาในร้านอีกครั้ง

 

'ไม่ใช่ร้านอาหาร... แต่เป็นร้านเหล้า'

'ก็ถูกต้องแล้วนี่!!!?'

 

นี่ถือเป็นความรู้ใหม่ในการท่องโลกกว้าง ที่เธอต้องจดบันทึกเอาไว้เป็นความรู้รอบตัว

 

- ผับเล็กๆ ในจีนบางแห่งไม่จำกัดอายุ

และเข้ามาเต้นฟรีๆ ได้ด้วย –

 

ลี่หมิงกวาดสายตามองผู้คนหลายช่วงวัย ที่กำลังจับกลุ่มสังสรรค์ฟังดนตรีสด และดื่มด่ำกับเครื่องดื่มโปรดของตน นั่นทำให้หญิงสาวถึงกับกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ จนเกือบลืมไปว่ายังมีสิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้

 

'ใช่!! เราต้องหาทางไปร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่นี่นา'

 

โครกกกก~

'หาอะไรกินก่อน แล้วค่อยถามคนแถวนี้ก็ได้~'

 

"สวัสดีครับคุณสุภาพบุรุษ"

บริกรหนุ่มเดินตรงดิ่งมาหาลี่หมิงที่ยืนหันซ้ายแลขวา ก่อนจะเอ่ยทักทายด้วยความสุภาพ ซึ่งดูแล้วอายุไม่น่าห่างจากเธอเท่าไหร่นัก

"มาคนเดียวนะครับ?"

ลี่หมิงทำเพียงแค่ดึงฮู้ดออกจากศีรษะ และพยักหน้าตอบเท่านั้น

"งั้นขอเชิญด้านนี้เลยครับ"

เขาผายมือและเดินนำเธอไปยังเคาน์เตอร์บาร์สีดำมันวาว ที่มีเก้าอี้เรียงรายกว่า 8 ตัว

"เป็นส่วนตัว ใกล้เวที แล้วแสงก็กำลังดีเลยนะครับ"

"เอ่อ..."

"นี่เมนูครับมีอะไรให้ช่วยเรียกพนักงานได้ทุกคน หรือจะสั่งกับบาร์เทนเดอร์ก็ได้ ผมขอตัวก่อนตามสบายนะครับ"

สคริปต์ที่ท่องจำมาเป็นอย่างดี ทำให้ลี่หมิงได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก และมองดูแผ่นหลังกว้างของพนักงานผู้นั้นไม่วางตา

 

'งานดีเหมือนกันนะเนี่ย~'

 

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาบนเรียวปากอิ่ม ก่อนจะกลายเป็นเสียงขำในลำคอเบาๆ

 

'แต่น้อยกว่าเฉิงเหยี่ยนนิดหนึ่ง อรั๊ย!! ~'

 

จู่ๆ ลี่หมิงก็คิดถึงใบหน้ามือขวาของพ่อ ก็พลันอุ่นวาบในหัวใจขึ้นมาอย่างประหลาด แต่ถึงจะสนิทกันมากขนาดไหนเธอก็ไม่อยากทำให้เขาเดือดร้อน เฉิงเหยี่ยนจึงเป็นคนแรกๆ ที่เธอไม่คิดจะหาทางติดต่อกลับไป

 

'เขาจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคน ที่กำลังตามหาเราหรือเปล่านะ?'

'ถ้ากลับไปต้องโดนบ่นแน่ๆ'

.

.

'แล้วก็คง... ถูกทำโทษ~'

 

เพียงแค่นึกถึงใบหน้าเรียบตึง ที่ซ่อนความเป็นห่วงไว้ไม่เคยมิดของผู้ชายคนนั้น และบทลงโทษที่เคยได้รับจากพ่อตอนที่เธอแหกกฎเพื่อหนีออกไปเที่ยว ก็คือไปซ้อมยิงปืนกับเฉิงเหยี่ยน ตลอดทั้งสัปดาห์ , ถูกกักบริเวณด้วยกันโดยมีเขาจับตาดูทุกฝีก้าว แถมยังได้อยู่ด้วยกันตามลำพังอีกต่างหาก เพียงแค่นึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นมาทันใด

 

'แล้วคราวนี้…'

'จะถูกเขาทำโทษแบบไหนกันนะ? ~'

 

ลี่หมิงนั่งเตะขาไปมาบนเก้าอี้บาร์ตัวสูงอย่างร่าเริงใจ ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับความผิดที่ตนก่อไว้แม้แต่น้อย พร้อมกับเปิดเมนูอาหารดูด้วยความหิว และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอคำนึงถึงราคาก่อนอาหารที่อยากจะกิน

 

'หย๋า~ มีแต่สามสิบหยวนขึ้นไปทั้งนั้นเลย'

'จะอิ่มไม่ปาเข้าไปร้อยหยวนเลยเหรอ?'

 

เมื่อลองคำนวนปริมาณอาหารที่ตนกินในแต่ละวัน ลี่หมิง ถึงกับถอนหายใจยาวเหยียด ด้วยความหนักอึ้งในหัวใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

 

'ชีวิตของคนหาเช้ากินค่ำ มันยากลำบากแบบนี้เองสินะ'

 

ดวงตาคู่โตที่เจือความกังวลละออกมาจากเมนูในมือ เพื่อมองหาบริกรที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด

"ขอสั่งอาหารด้วย..."

"หยิบเบอร์เบิ้นมาด้วยลังหนึ่ง"

เสียงหวานดังประสานกับเสียงทุ้มต่ำแสนเซ็กซี่ ก่อนเสียงของเธอจะขาดห้วงไป เมื่อเห็นใบหน้าคมคายที่ผุดผ่องราวกับรูปปั้นแกะสลักเลอค่า ที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากด้านหลังเคาน์เตอร์

 

'แต่งค่ะ'

 

เพียงแรกพบลี่หมิงก็แทบจะตัดชุดแต่งงานรอ แต่เสียงความคิดของเธอมันแทบจะถูกกลืนหาย ไปกับเสียงหัวใจที่กระหน่ำเต้นอย่างรุนแรงในอก เมื่อได้สบตากับผู้ชายคนนี้อย่างจัง

 

ตั้งแต่เกิดมาจนอายุเกือบจะยี่สิบปี ลี่หมิงผู้ถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาลูกน้องหน้าโหด และเพื่อนๆ ผู้ชายในโรงเรียนที่หน้าตาแทบจะพิมพ์เดียวกันหมด เธอก็ไม่เคยชายตาแลผู้ใดนอกจากศิลปินบนโปสเตอร์ในห้องนอน คนที่ตรงสเป็กเธอที่สุดก็เห็นจะเป็นมือขวาของพ่อ

แต่สำหรับผู้ชายตรงหน้าคนนี้ ความหล่อของเขาเกินบรรยาย แม้แต่กระดาษเอสี่ทั้งแผ่นก็ยังจดบันทึกความสมบูรณ์แบบของเขาไว้ไม่พอ

"จะสั่งอาหารใช่ไหมครับ?"

"อาหาร..."

"เมนูทานเล่นแกล้มกับเครื่องดื่มอยู่ท้ายเล่ม..."

.

.

"แต่ถ้าอยากทานผม ก็ทิ้งเบอร์ไว้นะครับ"

"เอ๊ะ!!!?"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel